ขอกล่าวอะไรเท่ๆตาม ใจกิเลส หน่อยนะครับ

....อย่าเห็๋น อนิจจัง แล้ว นำสัญญา มาผูกต่อ ว่า ทุกข์ และ อนัตตา เลย มันยังใช่ ปัญญา ไม่เต็มประสิทธิภาพ ครับ
... เห็น อนิจจัง ในเหตุนั้นๆ ทุกข์ไม่เกิด เป็นไปเพื่อ ลด อนุสัย
....เห็น อนิจจัง ไหล กลายเป็นทุกข์ เห็นทุกข์ วิปัสสนา จะเห็น อนัตตา เป็นไปเพื่อ ลด อุปทาน ลด อาสวะ อวิชชา
.... ทุกคำสอนของพระองค์ล้วนสัมพันธ์กันเป็น1เดียว

ท่านกบ สรุป ให้ฟังหน่อยครับ

เนื้อหาที่กล่าวเป็นธรรมวิืปัสสนา แต่จั่วหัวข้อความดูกล้าๆ กลัวๆ มีนัวๆว่ากิเลสๆ

อ่านดูแล้วพล้งของเนื้อหาลดลงไปเยอะ(ผมรู้สึกอย่างนั้นนะ)หรือไม่มั่นใจในธรรมที่กล่าว ผมสงสัยน่ะ

ไม่ได้กลัว แต่มันเห็น กิเลส และ นันทิ อยู่ในนั้น จิตมันยังสลัดคืนได้ไม่มากเท่าไรเลย ครับ

เลิกดูหนังฟังเพลง กลับมาติดอยู่ตรงนี้ นะซี้ 5555555555

ไม่สงสัยในธรรม ครับ มันผูกต่อกันหมด แต่ ต้องลงจิตลงใจ ครับ
ความเพียร และสติ นั้น นำมาโลด

พอดี..กำลังฟังอยู่....ได้เห็นชื่อกระทู้....แล้วนึกอยากให้ฟังด้วยกัน

อาจจะเกี่ยว..หรือ...ไม่เกี่ยว..กับที่คุณฝึกจิต..โพสต์..ก็ได้

ช่วงแรก ๆ ก็น่าสนใจนะครับ...

ช่วงกลาง ๆ...เทศน์เรื่องการเห็นไตรลักษณ์ด้วยสัญญา...

แห่ม...ช่างบังเอิญซะจริง...อยากให้อโสกะฟังบ้างหน่อยก็ดี....

แต่ดูท่า...จะน้อมหาธรรมไม่เป็น...(เอ้าวววว....นอกเรื่องไปแล้ว... )

ท่านกบจำที่ผมเคยบอกว่า หาหนทาง เอา โลกียธรรม ผสม โลกอุตรธรรมได้มั้ย อนัตตา เป็นคำเฉลยนั้น
และที่ผมว่า เดินมรรค แล้ว จะวิ่งไปที่ศิลนั้น มันแจ่มชัดขึ้น การกระทำเริ่มที่ศิล จบที่ ศิล จริงๆ ดูได้จากความบริสุทธิ์นั้น จำนวน ไม่ต้องคิด แค่เริ่มจาก 5 แล้วมันจะเพิ่มเองตามความเพียรในการลด นันทิ นั้นๆ

บางท่านคิดว่า พรหมวิหาร4 เป็นนิสัยของท่านพระพรหม ไม่ใช่ของพระอรหันต์ เพราะ อรหันต์ไม่มีจิตปรุงแต่ง แต่ หากเห็น อนัตตา พรหมวิหาร จะเป็น การกระทำ พื้นฐาน ของจิต นั้น

ส่วนนี้ก็เป็นอุปกิเลส บางๆที่เราต้องข้ามให้ได้ครับท่าน เราเองก็ยังตาบอดคลำช้างอยู่ อย่ายึดมั่นใน จิต ที่
ยังมี อวิชชา แล้ว กระทำกับเจตสิก จนเป็นความคิด นี้ มันยึดมั่น ไม่ได้ด้วยเช่นกัน

จบที่คำครูบาร์อาจารณ์บ้าง หรือไม่ก็ พุทธพจน์ต่างๆ หากยังไม่ลง กัน ก็จบ ช่างมัน ขึ้นกระทู้ใหม่ เพื่อ ลด อุปกิเลส ใน อนุสัย นั้นๆเสีย เพื่อเดิน ปัญญา กันต่อ

เห็นไตรลักษณ์ด้วยสัญญา นั้นเคยมาแล้วจนเบื่อละครับคุณกบ......

แต่เห็นไตรลักษณ์ด้วยปัญญา ......ก็เคยมาแล้วด้วยเช่นกันนะครับ .......คุณกบเต้น

ลองโหลดฟังดูครับอาจจะเห็นอะไรดีฯ
http://www.upload-thai.com/download.php ... b54673139f

สรุปให้ฟังเลยดีกว่า ครับท่าน ว่ามีอะไรดีๆบาง ครับ

ผมฟังหลายรอบแล้วยังสรุปไม่ได้เลย ประสบการณ์คนเราไม่เหมือนกันนะครับ

แล้วผล...เป็นอย่างไร..มีสังโยชน์ตัวไหนขาด...ตัวไหนเบาบางไปแล้วบ้าง

ทีนี้...ก็พิจารณาเองนะ...ว่า...ปัญญาอบรมสมาธิ..เป็นอย่างไร(ถ้าได้ฟังจนจบ..นะ)..อันไหนได้ผลเป็นสมถะ....แล้วผลของปัญญาเป็นอย่างไร..ทีนี้ก็แยกออกแล้วละนะ..

เห็น อนัตตา จะเฉลย ธรรม เหล่านี้

[๗๖๖] ธรรมมีอารมณ์ เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมมี
อารมณ์.

ธรรมไม่มีอารมณ์ เป็นไฉน?
รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่มีอารมณ์.

[๗๖๗] ธรรมเป็นจิต เป็นไฉน?
จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ มโนธาตุ
มโนวิญญาณธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นจิต.

ธรรมไม่เป็นจิต เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์, รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ สภาวธรรม
เหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่เป็นจิต.

[๗๖๘] ธรรมเป็นเจตสิก เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นเจตสิก.

ธรรมไม่เป็นเจตสิก เป็นไฉน?
จิต รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่เป็นเจตสิก
.
[๗๖๙] ธรรมสัมปยุตด้วยจิต เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมสัมปยุตด้วยจิต.
ธรรมวิปปยุตจากจิต เป็นไฉน?

รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมวิปยุตจากจิต.
จิต จะกล่าวว่าสัมปยุตด้วยจิตก็ไม่ได้ ว่าวิปปยุตจากจิตก็ไม่ได้.

[๗๗๐] ธรรมเจือกับจิต เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเจือกับจิต.

ธรรมไม่เจือกับจิต เป็นไฉน?
รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่เจือกับจิต.
จิต จะกล่าวว่าเจือกับจิตก็ไม่ได้ ว่าไม่เจือกับจิตก็ไม่ได้.

สาธุ ครับ