วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 20:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2012, 15:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 16:06
โพสต์: 59


 ข้อมูลส่วนตัว


เรามักได้ยินคนบอกว่าเมียน้อยเงียบไม่มายุ่งโชคดีแล้ว ดีกว่าเจอร้ายๆขี้วีน แต่เราคิดในทางกลับกันว่า เมียน้อยขี้วีน ร้ายๆนี่พวกสามีไม่น่าชอบ จะอยู่ได้ไม่นาน แต่ที่เงียบๆสิน่ากลัว เพราะใจเย็น(เลือดเย็น) มัดใจสามีทั้งหลายอยู่หมัด บางรายอยู่กันได้เป็น สิบๆปีด้วยซ้ำ ดีไม่ดีสามีเลิกกะเมียหลวงไปอยู่ด้วยเลย...เราเจอทั้งสองกรณีแต่เราเครียดกะกรณีเงียบ เพราะสามีจะชมมากและปกป้องด้วย ประมาณว่าเราห้ามแตะเด็ดขาดแก้ตัวให้ตลอด ขนาดบอกว่าเราโทรไปหาสามีไม่เคยบ่นว่า แถมเอาโทรศัพท์ยื่นให้สามีเองดวยซ้ำ ไม่เข้ามายุ่ง ไม่ถามอะไรเกี่ยวกับตัวเราเลย..(ประมาณว่าเมียหลวงไม่อยู่ในสายตามากกว่า).เราอยากจะถามเพื่อนๆว่า...อย่างนี้ดีหรือคะ....เรามองว่ามาเหนือเมฆมากกว่า...เราอยากจะบอกสามีมากแต่ไม่ได้พูดออกไปว่า การที่เมียน้อยเป็นแบบนี้เพราะเธอเห็นแล้วว่าเมียหลวงอย่างเราสามีไม่เอา ไม่งั้นไม่มาเอาเธอเป็นเมียอีกคน และเอาอกเอาใจเธอขนาดนี้ และเมียน้อยเธอก้อรู้เต็มอกว่าสามีรักและหล่งเธอ เธอไม่โง่แสดงอะไรออกมาหรอก มีแต่เราเมียหลวงเก็บอารมณ์โกรธไม่อยู่ก้อทะเลาะกัน สามีก้อยิ่งจะหนีห่างเพราะไม่อยากทะเลาะทั้งๆที่ตัวเองผิดเต็มๆ...นี่คือความเจ็บปวดเจ็บช้ำที่สุดของการเป็นเมียหลวงค่ะ....เพื่อนๆบอกให้เราเย็นที่สุด...แต่บอกตามตรงว่าเมียน้อยเย็นกว่าค่ะเพราะเธอกำลังมีลูกให้เค้า เค้าประคบประหงมมาก เห่อกะการเป็นพ่อมือใหม่(เราไม่มีลูกด้วยกัน) ศึกษาเรื่องคนท้องกี่เดือนต้องทำอะไร ต้องกินอะไรบำรุง ดูแลอารมณ์แม่อย่างไร พ่อมือใหม่ต้องทำตัวอย่างไร (เมียน้อยเด็ก สามี 40 กว่าแล้ว) ว่างๆพยายามพาไปเที่ยวน้ำตก รีสอร์ทเพื่อเอาใจคนท้อง...บอกตรงๆว่าทั้งหึง ทั้งแค้น ใจมันสลายไม่รู้จะกี่รอบ เพราะสิ่งที่สามีทำให้เมียน้อยไม่เคยทำให้เราเลยตลอดเวลาที่อยู่กันมาสิบกว่าปี เค้าบอกว่าเหนือยอยากนอนพักอยู่บ้านมากกว่า ทำแต่งานและก้อนอนพักผ่อนที่บ้าน ถึงสามีจะเจ้าชู้ ชอบเที่ยว รักสนุก แต่สามีก้อเป็นพ่อบ้านมาก นิสัยรักสะอาด ดูแลบ้านเอง....คือจะบอกว่าเมื่อไหร่ทีสามีทิ้งดิฉันไปอยู่กะเมียน้อยถาวร ถือว่าเมียน้อยโ่ชคดีมากเพราะเรารู้ว่าเค้าต้องดูแลอย่างดี และสามีรักเด็กน่าจะเลี้ยงลูกเอง เมียน้อยจะสบายไม่เหนือยเลย ประกอบกับเราเอาดวงเมียน้อยกะเสามีไปดู ตามดวงสามีต้องคอยรับใช้เมียน้อย ในขณะที่เราต้องรับใช้สามี ...กรรมเหลือเกินค่ะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันกระำหน่ำจิตใจมาก ผ่านมาครึ่งปีแล้วยังทำใจไม่ได้อยู่ ยังคิดถึง เหงา เศร้าทุกครั้งที่คิดถึงสามี (เค้าอยู่ต่างประเทศ กลับไทยปีละ 2-3ครั้งเท่านั้น)...อยากให้กรรมนี้มันจบเร็วๆ(รู้ๆอยู่ว่าอีกยาวนานเพราะสามีอยู่ตปท.เกือบจะ4ปีแล้ว และเค้าบอกเองว่าเค้าจะไม่ทำงานในเมืองไทย...ปีที่แล้วยังคุยกะเราอยู่ว่าจะให้เราตามไปอยู่ด้วย...มาปีนี้เรื่องพลิกล็อคไปหมด ช๊อคสุดๆในชีวิต เหมือนสียของรักเลยค่ะ ใจมันหายวาบ หดหู่เศร้าหมองมาตลอด)..ผลกรรมมันคงมาส่งผลพอดีปีนี้และไปถามท่านผู้รู้ที่นับถือ ท่านบอกวิบากนี้ยาวนานหลายปี เราท้อใจมากเลยค่ะ....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2012, 16:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


ความทุกข์ ความเสียใจ ซิถึงจะน่ากลัว
ตัณหาความรักความหลงต่างหาก ถึงน่ากลัว


ผลกรรมในอดีต ถ้ากำลังให้ผล ก็ต้องมีแต่อดทน
ก้มหน้ารับวิบากกรรมไป ร้อนใจเหมือนบ้านไฟไหม้
หาหมอหาพระที่ไหนก็ช่วยไม่ได้ ถ้าอะไรมันถึงเวลา
ที่มันจะไม่ใ่ช่ของเรา มันก็ไม่ใช่ของๆ เราวันยังค่ำ

ไม่ต้องไปอยู่ไหนไกลๆ กรรมที่เคยทำเอาไว้มันจะให้ผล
อยู่ในตึกมีกำแพง กรรมก็ตามไปถึงอยู่ดี

พระท่านสอนว่า น้ำตา ความเจ็บช้ำความพลัดพราก
ความอาลัยอาวรเสียใจ ในสงสารวัฏฏ์ น้ำตาของคนเรา
ยังมากมายกว่าน้ำในมหาสมุทรเสียอีก ตายเกิดตายเกิด
มาเพื่อแย่งของรักคนอื่น ตายเกิดอีก เพื่อถูกแย่งของรัก
ของตนไป ไม่จบไม่สิ้น แล้วก็ทุกข์ใจ ซ้ำๆ ซากๆ วนเวียน
แล้วๆ เล่าๆ อยู่อย่างนี้

ท่านสอนว่า คนไม่ฉลาดมักแสวงหา สิ่งที่ไม่สมควรแสวงหา
ได้แก่ สิ่งที่มีความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตายเสมอๆ
สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรแสวงหา

สิ่งที่คนฉลาดแสวงหากัน คือสิ่งที่ไม่มีความเกิด ความไม่แก่
ความไม่เจ็บ ความไม่ตาย ความไม่ทุกข์จากความพลัดพรากเสียใจ
ความประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รักที่พอใจ ปรารถนาสิ่งใดไม่
ได้ในสิ่งนั้น เหล่านี้ไม่มีทางเกิดขึ้นกับคนฉลาด

เพราะแม้แต่ตัวเราเองก็ร้องไห้ เสียใจได้ไม่ถึงร้อยปี ที่สุดก็ตาย
แต่หารู้ไม่ว่า การที่ตนเองแสวงหาในสิ่งที่ไม่สมควรแสวงหา นั่นเอง
กลับทำให้ตนเองได้สะสม บาปอกุศล จนจิตใจเศร้าหมองมืดดำ
จงเกลียดจงชัง จองเวรผูกโกรธ อาฆาตพยาบาท กัดกินจิตใจฝ่ายดี
ของตนเองจนไม่เหลือชิ้นดี กลายเป็นหัวใจที่เต็มไปด้วยความทุกข์!

เพราะไม่เชื่อในเรื่องกรรมเวร ชาตินี้ชาติหน้า ว่าทุกสาเหตุที่เกิดขึ้น
ล้วนแล้วแต่มีเหตุมีปัจจัยให้เกิดขึ้น เมื่อไม่เชื่อก็ได้แต่สงสัย พร่ำบ่น
ขึงเครียด ต่อสิ่งที่มันเกิดขึ้นแล้วก็โทษต่อโชคชะตา ถึงจะแก้ปัญหา
เดินทางหา หมอหาพระ แก้วิบาก ดังได้อธิบายไว้แล้วว่า เมื่ออกุศล
เมื่อกรรมให้ผล ก็ต้องรอมันหมดกำลังของมันไปเอง

ไม่มีใครที่ไหนช่วยได้ เพราะไม่มีใครใหญ่กว่ากรรมแม้แต่พระพุทธองค์
เคยประกอบ กุศลหรืออกุศล เคยทำบุญหรือบาป บุญบาปนั่นแหละจะ
ตามให้ผลถ้าบุญก็จะส่งเสริมคนๆ นั้นให้ได้รับความสุขความเจริญ
ถ้าบาป ก็มีหน้าที่เหยียบย่ำใส่คนๆ นั้นแม้จะไม่มีทางสู้ แม้จะร้องขอ
ความช่วยเหลือ บาปก็เหมือนตอน้ำ บุญก็เหมือนน้ำ ชีวิตหรือกรรมของ
คนเราก็เหมือนเรือ หากน้ำลด บุญหมด ตอก็ผุดขัดขวางทางเรือ
ถ้าน้ำมากบุญมาก เรือก็ลอยสูง ไม่เจอตอที่ใต้้น้ำ

ชีวิตมาคนเดียวตัวเปล่าๆ มาอยู่มากินมาเห็นกันได้สักพักก็ตายจากกัน
เอาอะไรสักเล็บหนึ่งก็เอาไปไม่ได้ วิบากมัน กงกำกงเกวียน วนเวียน
อยู่อย่างนี้ พอประสบสุขก็หลงลืม พอทุกข์ก็อกตรมแทนที่จะเห็นโทษ
แทนที่จะเห็นธรรม เห็นความสุขจากการละ จากการสละ จากการไม่เอา
ไม่มี ไม่เป็น สงบสุขเย็นอยู่ภายใน

ไม่ต้องกู้บาปยืมอกุศลมาใช้ทำให้ใจตัวเองตกต่ำ ไม่ต้องอิจฉาริษยา
ไม่ต้องสนใจว่าวีนหรือเหนือเมฆ ตอนสุขไม่มีใครตาสว่างหรอกโยม
มีแต่ตอนทุกข์เท่านั้น ตามันจะสว่างได้

เขาวัดเขาวาฟังธรรมดีกว่า อย่าไปหาหมอหาพระ ดูแต่เรื่องโลกๆ
รู้แต่เรื่องวุ่นๆ ใจไม่สละ มันยึดไว้ มันก็ทำกรรมชนิดนั้นๆ มาไม่รู้
เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ สุขที่ไหน ก็ไฟมันสุมหัว หาความสุขไม่ได้
คิดถึงความตายของตัวเราเองให้มาก นึกถึงบุญที่ยังไม่ได้ทำ
มีอะไรยังไม่ได้ให้พ่อกับแม่ ขอขมาต่อพระรัตนตรัย ต่อพ่อแม่
ที่ให้โอกาสได้เกิดมา หลงผิดเสียเวลาอยู่กับ โรคเก่าโรคกรรม
หันหลังตัดใจพึ่งธรรม นำทางสว่างคืนสู่ตัวเองเจริญพร ^^

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2012, 21:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ค. 2006, 22:43
โพสต์: 29

โฮมเพจ: http://www.thaimillionaire.net
อายุ: 0
ที่อยู่: กรุงเทพ

 ข้อมูลส่วนตัว www


เลือกที่จะไม่มีเมียน้อยดีกว่าครับ

s005


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร