ทำไมการสวดมนต์แล้วจึงได้บุญ

1. การสวดต้องใช้เวลา..1 วันมี 24 ชม..ไม่มีมากไปกว่านี้อีกแล้ว..หากจะสวดมนต์ก็ต้องสละเวลาที่ต้องทำอย่างอื่น..ส่วนใหญ่เวลาของเราก็ใช้ไปกับกิเลสตัณหา..ตอนสวดมนต์ก็เท่ากับว่าเรา..สละ..ละกิเลสตัณหา..ไปช่วงเวลาหนึ่ง..จึงเป็นทานคือการสละสิ่งไม่ดีออก..เพื่อให้สิ่งดีเกิดกับตน

2. ปกติ..สวดมนต์ก็มีการสมาทาน ศีล..คือ..ตั้งใจจะรักษาศีล..และขณะสวด..ศีลก็ครบกันอยู่แล้ว..ดังนั้นการสวดมนต์..ก็ตั้งอยู่ใน ศีลมัย..การรักษาศีล

แปลว่าถ้าผมอ่านนิยายแล้วมีความสุข ไม่ก่อให้เกิดกิเลสอย่างอื่นเพิ่ม จะได้บุญ

ในขณะเดียวกัน



ถ้าผมสวดมนต์แล้วเกิดความสงสัย เอ๊ะ เราสวดไปทำไม? ที่เราสวดแปลว่าอะไร? เกิดกิเลสขึ้น แบบนี้ไม่ได้บุญ
ใช่หรือป่าวครับ

ก็อาจเปนไปได้ครับ แต่ถึงสงสัยในบทสวดที่เปนพุทธคุณทั้งหลายยังไงสวดไปก้ได้บุญอย่ดีนั่นแหละครับ

3. จะสวดมนต์ได้ตลอดจนจบนี้..สมาธิไม่มี..ไม่ได้..นี้ก็เป็นบุญ..ภาวนามัย
ปล. แม้ในศาสนาอื่น ก็เช่นเดียวกัน
4. การที่เราดำริที่จะสวดมนต์นี้นะ..หากไม่ได้เคารพน้อบน้อมต่อ..พระพุทธ..พระธรรม..พระสงฆ์..ก็ไม่มีความคิดที่จะมาสวดมนต์แล้วละ..ที่คิดจะสวดมนต์ก็เพราะมี..เคารพน้อบน้อมต่อพระรัตนไตร..นั้นเอง..นี้ก็เป็นบุญ.. อปจายนมัย

ปล. แม้ในศาสนาอื่น ก็เช่นเดียวกัน

ขอขอบคุณท่านที่เข้ามาตอบอีกครั้งหนึ่งครับ

ตอนนี้คำถามน่าจะพอสรุปออกมาได้เป็นว่า

- ทำไมสวดมนต์แล้วจึงได้บุญ ในขณะที่อ่านนิยายหรือบทความดีๆ แล้วเราไม่ได้บุญครับ

เพราะว่าตอนนี้พิจารณาจากความเห็นของทุกท่านแล้ว ผมยังแยก 2 อย่างนี้ไม่ออกจริงๆครับ พิจารณาจากคำตอบอย่างเช่น

การสวดต้องใช้เวลา..1 วันมี 24 ชม..ไม่มีมากไปกว่านี้อีกแล้ว..หากจะสวดมนต์ก็ต้องสละเวลาที่ต้องทำอย่าง อื่น..ส่วนใหญ่เวลาของเราก็ใช้ไปกับกิเลสตัณหา..ตอนสวดมนต์ก็เท่ากับว่า เรา..สละ..ละกิเลสตัณหา..ไปช่วงเวลาหนึ่ง..จึงเป็นทานคือการสละสิ่งไม่ดีออก..เพื่อให้สิ่งดีเกิดกับตน
-----อันนี้อ่านนิยายก็สละเวลาครับ

ปกติ..สวดมนต์ก็มีการสมาทาน ศีล..คือ..ตั้งใจจะรักษาศีล..และขณะสวด..ศีลก็ครบกันอยู่แล้ว..ดังนั้นการสวดมนต์..ก็ตั้งอยู่ใน ศีลมัย..การรักษาศีล
-----อันนี้อ่านนิยายศีลก็ครบครับ

1. ทานมัย อัน หมายถึง การให้ การสละ
2. สีลมัย คำว่า ศีล หมายถึง ข้อบัญญัติ ที่กำหนดการปฏิบัติทางกาย..วาจา และใจ
3. เจริญภาวนา หรือภาวนามัย ที่มุ่งพัฒนาจิตใจและปัญญา ทำให้จิตใจสงบ
4. อปจายนมัย คือ การประพฤติตนเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
8. ธรรมสวนมัย คือ การฟังธรรม ฟังสิ่งดี ๆ มีประโยชน์ทั้งต่อสติปัญญา
-----พวกนี้ก็น่าจะได้ด้วย

จิตที่เป็นกุศลย่อมเกิดบุญครับ
-----นี่ก็น่าจะได้ด้วยครับ

ไม่เข้าใจจริงๆนะนี่

การสวดมนต์ ถือเป็นการกระทำ(กรรม)ฝ่ายกุศล เป็นเหตุ เมื่อเหตุมีผลย่อมมี บุญนั้นเป็นผลของกุศลกรรม

เมื่อทำเหตุแล้ว ย่อมต้องได้ผล ดังนี้แล้ว เมื่อสวดมนต์แล้ว ย่อมต้องได้บุญ เป็นธรรมดา

ถ้าเปลี่ยนจากนิยายมาเป็นบทสรรเสริญ...ใครสักคน แบบว่าบทนี้แปลแล้วเหมือนสวดมนต์เลยอ่ะครับ เพียงแต่เปลี่ยนจากสรรเสริญพระรัตนตรัย ไปเป็นอย่างอื่น

เสร็จแล้วก็ทำเหมือนสวดมนต์ทุกประการ เช่น นั่งท่าเหมือนสวดมนต์ เตรียมตัวเตรียมใจ ใช้เวลาสวดนานเท่าสวดมนต์ แต่เปลี่ยนเป็นบทสรรเสริญดังกล่าว ถามว่า ได้บุญเืท่าสวดมนต์ไหมครับ

การสวดมนต์ ก็คล้ายๆกับการนั่งสมาธิ
เมื่อจิตมีสติ มีสมาธิ ก็จะเข้าสู่ ฌาน
ในองค์ ฌาน ก็มีความสุข หนึ่ง มี เอกัคตาหนึ่ง เป็นต้น ตามลำดับขั้นของฌาน
ซึ่งก็คือ สมถกรรมฐาน

การนั่งสมาธิ ก็มีหลายวิธี ในการทำจิตให้เป็นหนึ่ง
การสรรเสริญในองค์พระรัตนไตย เช่นพุทธานุสติ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง
การจะไม่สรรเสริญ ในองค์พระ อย่างเช่นการมีสติกำหนดลมหายใจเข้าออก ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง

บุญใดเลยจะยิ่งใหญ่เท่ากับการละกิเลสตัณหา
การสรรเสริญใด ถ้าเป็นไปเพื่อการละกิเลสตัณหา การสรรเสริญนั้นควรสรรเสริญยิ่ง
การสรรเสริญใด ถ้าเป็นไปเพื่อสนองกิเลสตัณหา การสรรเสริญนั้นไม่ควรยิ่ง

การกระทำการสิ่งใด ถ้าทำแล้วไม่เดือดร้อนตนเอง ไม่เดือดร้อนผู้อื่น ก็กระทำได้ครับ
การอ่านนิยาย ถ้าเป็นการกระทำที่ไม่เดือดตนเอง และไม่เดือดร้อนผู้อื่น ก็กระทำได้ครับ

อ่า...สงสัยคำถามผมจะยังไม่ชัดเจน อธิบายยังไงดีเนี่ยะ

สรุปสั้นๆเลยก็คือ ทำไมท่องบทสวดมนต์แล้วจึงได้บุญ ในขณะที่ท่องอย่างอื่นแล้วไม่ได้บุญครับ

ส่วนใหญ่จะมีคนมาตอบว่า ทำแล้วได้ผลดีอย่างเช่น....
ทำแล้วไม่ได้รบกวนใคร ก็ทำไปเถอะ
สรรเสริญพระรัตนตรัยเป็นสิ่งที่ดี ย่อมได้บุญ

ซึ่งผมขอขอบคุณทุกคำตอบครับ เพียงแต่มันไม่ตรงคำถามครับ

แล้ว..บุญของคุณ ฮาเลม มันเป็นยังงัย..หรือคับ??

เคยสวดมนต์บ้างหรือเปล่า???

แล้วตอน..สวดมนต์กับอ่านนิยาย..รู้สึกเหมือนกันหรือเป็นแบบไหนละ???

เอาความรู้สึกของเจ้าของนะ..ตอบให้ตรงคำถานนะ??

ถ้าตอบไม่ตรงคำถาม..ก็อย่ามาถามคนอื่น...

อยากซะเหลือเกิน..นะ..ไอ้ความรู้นอกนี้นะ..ความรู้ข้างในไม่รู้จักน้อมมาพิจารณา

แล้วก็ว่าคนอื่นตอบไม่ตรงคำถาม...ไม่ตรงกิเลสตัวซะมากกว่ามั้ง??

ถ้าคิดว่าอ่านนิยายก็ได้บุญ..ก็ทำไปเถอะ..ไม่ได้ไปหนักศรีษะใครไม่ใช่หรือ??

และมันก็ไม่เกี่ยวกับศรีษะของข้าพเจ้าด้วย...สบาย..สบาย

..

กำลังสงสัยว่าท่านฮาฯเป็นสาวกของศาสดาใด คำอธิบายต่างๆจึงไม่ถึงความเข้าใจสักที คนอื่นเขาเข้าใจกันหมด (เพราะไม่เห็นใครถามอะไรเพิ่มเลย).. อย่างนี้คงต้องอธิษฐานให้เกิดปัญญาเข้าใจธรรมที่ถูกได้กระมัง ..

แล้ว..บุญของคุณ ฮาเลม มันเป็นยังงัย..หรือคับ??
-----ถ้าถามจริงๆผมไม่กล้าตอบครับ เพราะไม่มีความรู้พอจะตอบ ได้ยินได้ฟังมาหลายกระแส แต่พอตั้งคำถามกลับ คนส่วนใหญ่ตอบกันไม่ได้ครับ เห็นคนทำบุญก็มาก แต่ผมเชื่อว่าเดินไปถาม 100 คน จะตอบได้ว่าบุญคืออะไรไม่ถึง 5 คน

เคยสวดมนต์บ้างหรือเปล่า???
-----เคยครับ ปัจจุบันก็ยังสวดอยู่ ทำไปนานๆเข้า จึงเกิดคำถามนี้ที่เป็นชื่อกระทู้ขึ้นมาครับ

แล้วตอน..สวดมนต์กับอ่านนิยาย..รู้สึกเหมือนกันหรือเป็นแบบไหนละ???
-----ผมไม่ค่อยได้อ่านนิยายครับ แต่ถ้าเปรียบกันจริงๆ รู้สึกต่างกันเยอะครับ สวดมนต์ใจนิ่งกว่า อ่านนิยายบันเทิงกว่า

อยากซะเหลือเกิน..นะ..ไอ้ความรู้นอกนี้นะ..ความรู้ข้างในไม่รู้จักน้อมมาพิจารณา
-----ตอบไม่ตรงคำถาม พอโดนถามย้อน ตัวเองตอบไม่ได้ แล้วพาลแถไปเรื่องอื่น นี่ก็เป็นคนแบบหลักๆที่ผมเจอครับ

แล้วก็ว่าคนอื่นตอบไม่ตรงคำถาม...ไม่ตรงกิเลสตัวซะมากกว่ามั้ง??
-----ถ้าความสงสัย และความใคร่รู้เป็นกิเลสอย่างนึง ยอมรับครับว่าอยากสนองกิเลสอันนี้ของตนจริงๆ

กำลังสงสัยว่าท่านฮาฯเป็น สาวกของศาสดาใด คำอธิบายต่างๆจึงไม่ถึงความเข้าใจสักที
-----ศาสนาพุทธครับ เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า แต่คำอธิบายในกระทู้นี้ มันไม่ตอบคำถามตรงๆของผมจริงๆครับ ถ้าคนอื่นๆเขาเข้าใจกันหมดจริงๆ ผมก็คงต้องยอมรับครับ ว่าผมอาจเป็นบัวใต้น้ำจริงๆมีคนมาอธิบายตั้งมากก็ไม่ยอมเข้าใจซักที

อย่างนี้คงต้องอธิษฐานให้เกิดปัญญาเข้าใจธรรมที่ถูกได้กระมัง
-----ขอบคุณครับ