วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 14:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2010, 10:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

หลวงปู่วัน อุตฺตโม
สละชีพบูชาธรรม


หลวงปู่วัน อุตฺตโม เป็นพระสงฆ์ผู้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักนับตั้งแต่ปี ๒๕๑๓
ดังความปรากฏใน หนังสือพระธุตังคเจดีย์ เจดีย์แห่งพระอรหันต์ ดังนี้

“เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๑๓ ท่านได้รับนิมนต์ไปเจริญพระพุทธมนต์ในงานแต่งงาน
ที่หมู่บ้านส่องดาว ตำบลส่องดาว กิ่งอำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร กว่าจะได้กลับวัดก็มืดค่ำ
ท่านและพระเณรที่ติดตาม ๗ รูป ได้เดินเท้าไปตามถนน ร.พ.ช. ผ่านทุ่งนาและป่าเขาขึ้นสู่ภูเหล็ก
สมัยนั้นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์กำลังถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองปราบปรามอย่างหนัก
จึงห้ามประชาชนเดินในป่าเวลาค่ำคืน ขณะที่เดินมาได้ประมาณ ๔-๕ เส้น
ด้วยความมืดพระเณรจึงใช้ไฟฉายส่องทาง เจ้าหน้าที่ทหารเห็นเช่นนั้นนึกว่าเป็นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์”


คณะของหลวงปู่จึงถูกสาดกระสุนใส่ในความมืด เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
แต่เมื่อทหารเข้าไปเคลียร์พื้นที่ในตอนเช้า ก็ไม่พบศพแม้แต่ศพเดียว จึงตามรอยเท้าขึ้นไปบนภูเขา
และได้รู้ว่าเป็นคณะของหลวงปู่วัน จึงเข้าไปขอขมาและฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยความเลื่อมใสยิ่ง
จึงเป็นเหตุให้ท่านมีชื่อเสียงมากในยุคนั้น

หลวงปู่วันได้อุปัฏฐาก พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต เป็นเวลาถึง ๕ ปี
ระหว่างปี ๒๔๘๘ จนถึง ๒๔๙๒ อันเป็นปีที่ท่านพระอาจารย์ใหญ่มรณภาพ
โดยทำหน้าที่ได้อย่างไม่บกพร่อง แม้ว่าจะถูกรบกวนด้วยอาการไข้อยู่เนืองๆ
ท่านได้บันทึกถึงเรื่องความเจ็บป่วยว่ามีอาการไข้มาตั้งแต่ช่วงปี ๒๔๘๕
ขณะรอฟังข่าวการสอบนักธรรมอยู่ที่วัดภูเขาแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

“บางครั้งเป็นหนักถึงกับฉันจะไม่ได้เสียเลย ที่ตัวร้ายที่สุดก็คือไข้จับสั่น
การจับสั่นก็สั่นจนกุฏิสั่นสะเทือนไปด้วย หายใจทั้งทางจมูกและทางปากก็ยังไม่พอ
ผ้าห่มจะกี่ผืนก็ไม่อุ่น จนอาการไข้อ่อนลงจึงจะรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาได้
กำลังก็ลดถอยลงไปวันละมากๆ หากเป็นอย่างนี้สักสิบวัน คงจะนอนติดเสื่อทีเดียว
แต่ก็ด้วยเดชะบุญ เป็นไข้จับสั่นอยู่ราว ๔-๕ วันเท่านั้น แล้วจึงเปลี่ยนเป็นไข้ธรรมดาต่อไป”


จนกระทั่งมาจำพรรษา ณ วัดป่าสุทธาวาส จังหวัดสกลนคร ในปีเดียวกัน อาการไข้ก็ยังไม่หาย

“ระหว่างจำพรรษาที่วัดสุทธาวาส ข้าพเจ้าก็เคยเป็นไข้จับสั่นมาบ้างเหมือนกัน
จับไข้ขนาดถึงกับนอนไม่ได้ ต้องลุกนั่งชันเข่า เอาศีรษะก้มลงหายใจให้ถูกกับหน้าอก จึงค่อยทุเลาที่เป็นไข้”


หลังจากที่หลวงปู่วันเป็นไข้วันเว้นวันอยู่ประมาณ ๑ เดือน
ท่านพระครูบุณฑริกบรรหาร (ทองคำ จนฺทูโม) ซึ่งกลับจากกรุงเทพมหานคร
ได้ทราบข่าวการอาพาธ จึงขอยาควินินจากโรงพยาบาลมาให้ เมื่อฉันยาได้สัก ๒-๓ วัน ไข้ก็หายไป
แต่ยังต้องต่อสู้กับอาการอาพาธมาตลอด จนถึงปี ๒๔๘๖ ก็ยังมีอาการไข้อยู่ เพราะขาดแคลนยา

“ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ ข้าพเจ้ายังเป็นไข้อยู่เสมอ ทีหายทีเป็นอยู่อย่างนั้น ทั้งยาแก้ไข้ก็หายาก
ไปต้องการยาจากอนามัยอำเภอหรือ ก็ได้ทีละนิดหน่อยเท่านั้น จะฉันยาจนให้อาการไข้หายขาด ก็ไม่มียา”


เมื่อขาดแคลนยาแผนปัจจุบัน ท่านจึงรักษาด้วยยาสมุนไพรหลายขนาน แต่ก็ไม่หายขาด
เหตุที่ยาหายากก็เพราะเป็นช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ ๒ เพิ่งสิ้นสุดลง
ในปี ๒๔๘๘ จำพรรษา ณ วัดป่าหนองผือนาใน ซึ่งอากาศบริเวณนั้นทำให้ไม่สบายอยู่เรื่อยๆ
แต่ทว่าจิตใจของท่านกลับอิ่มเอิบในธรรมอยู่เสมอและมีศรัทธาในการปฏิบัติเพิ่มขึ้นอีกด้วย

“ศรัทธาในธรรมปฏิบัติดูว่าเพิ่มกำลังขึ้นไปโดยลำดับ
ถึงแม้ข้าพเจ้าจะได้เป็นไข้อยู่ตลอดพรรษาก็ตาม ความหวั่นไหวต่อมรณภัยก็ไม่มี
ตามธรรมดาแล้วอากาศในสถานที่นั้นเป็นอากาศที่หนักต่อธาตุขันธ์
ของผู้ไม่เคยชินต่อป่าดงภูเขาเหมือนกัน ทั้งข้าพเจ้าก็มีเชื้อไข้ป่ามาแต่เดิมอยู่แล้ว
แต่ด้วยเดชะบุญคุณของครูบาอาจารย์และคุณของพระพุทธศาสนามาช่วยไว้
ถึงยาจะฉันไม่ค่อยมีก็ตาม ย่อมผ่านพ้นความทุกข์ทรมานนั้นไปได้
โดยมิได้ก่อความเดือดร้อนแก่ตนและครูบาอาจารย์”


แม้ต้องต่อสู้กับความเจ็บป่วยและขาดแคลนยาในการรักษา แต่ท่านมิได้ย่อท้อในการทำความเพียร

“ถึงอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าคิดยอมเสียสละชีวิตบูชาพระธรรมวินัยด้วยข้อปฏิบัตินั้น
ไข้ที่เป็นก็ไม่ถึงกับร้ายแรง ทำกิจวัตรและความเพียรมิได้ขาด
ถ้าไข้ร้อนในก็ให้ผ้าขาวเอาใบหญ้านางหรือใบหมี่มาขยี้ใส่น้ำฉัน
ร้อนข้างนอกก็ใช้ทาก็ระงับความร้อนไป ไข้ก็สร่าง ทั้งที่เป็นไข้แต่ก็ทำความเพียรได้กำลังดี”


ท่านได้เล่าถึงการปฏิบัติในขณะเจ็บป่วยไว้ในอัตตโนประวัติ ดังความตอนหนึ่งว่า

“พึ่งจะได้รู้เห็นตัวเวทนา ในพรรษานั้นเอง ตัวเวทนานั้นเท่าที่เห็นและกำหนดรู้ด้วยใจนั้น
ปรากฏว่าเป็นตัวแต่จะคล้ายกับอะไรก็บอกไม่ถูก เมื่อเรากำหนดรู้เห็นได้อย่างนั้นแล้ว
ทุกขเวทนาทั้งหลายจะต้องถอนตัวออกจากที่ของมันโดยลำดับ
ถ้ากำลังจิตของเรากล้า ทุกขเวทนาจะออกหนีอย่างรวดเร็ว ถ้ากำลังจิตยังอ่อนก็ค่อยๆ ออกหนีไป
เมื่อจิตได้เอาชนะต่อทุกขเวทนาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จิตนั้นจะต้องกล้าหาญในการต่อสู้ทุกขเวทนาเสียจริงๆ
พอทุกขเวทนาเริ่มเกิดขึ้นที่ไหน จิตจะต้องรีบวิ่งเข้ากำจัดทีเดียวโดยมิได้รั้งรอเสียเลย
จิตขณะนั้นได้สนุกเพลินอยู่กับการต่อสู้ทุกขเวทนา หาได้เกี่ยวข้องกับอารมณ์ภายนอกไม่”


หลวงปู่วัน อุตฺตโม จึงเป็นแบบอย่างของพระสงฆ์ ผู้พร้อมสละชีวิตเพื่อพระธรรม
มิท้อถอยในการปฏิบัติ แม้ต้องผจญกับทุกขเวทนาจากธาตุขันธ์เพียงใดก็ตาม
ควรที่เราชาวพุทธทั้งหลายจะได้ถือเป็นแบบอย่างในความพากเพียร
เพื่อสิ่งประเสริฐสูงสุดคือพระนิพพานนั้นเอง


หมายเหตุ

เนื่องในวาระครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ ๘๘ ของหลวงปู่วัน อุตฺตโม
ในวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๓
ทีมงานนิตยสารธรรมะใกล้ตัว ฉบับไลท์
ขอน้อมกราบหลวงปู่ผู้เป็นเนื้อนาบุญของโลก ด้วยจิตระลึกบูชา (-/-)


--------------------------------------------------------

เอกสารประกอบการเขียน
“อนุสรณ์งานเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (พระอาจารย์วัน อุตฺตโม)”
วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๔.

“พระธุตังคเจดีย์ เจดีย์แห่งพระอรหันต์” ธรรมบรรณาการเนื่องในงานฉลองพระธุตังคเจดีย์
เจดีย์แห่งพระอรหันต์ และในงานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายครบรอบวันมรณภาพปีที่ ๔๗
พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร) ๒๒-๓๐ เมษายน ๒๕๕๑.

โดย เทียบธุลี http://www.dlitemag.com/

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2010, 19:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

:b8: อนุโมทนา..สาธุ..ด้วยนะครับ..ท่านสาวิกาน้อย :b8:

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2010, 17:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ต.ค. 2006, 14:49
โพสต์: 1341


 ข้อมูลส่วนตัว www


ขอโมทนานะครับ สาธุ ๆ ๆ smiley :b8:

.....................................................
.. ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก ..


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 15 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร