วันเวลาปัจจุบัน 04 พ.ค. 2025, 04:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=8



กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b41: ธรรมรสเพียงบทน้อย :b42: :b42: สดับฟัง
ยังจิตสงบได้ดัง :b42: :b42: :b42: :b42: กล่าวไว้
อุปธิวิเวกสัง- :b42: :b42: :b42: :b42: โยชน์ดับ :b42: สิ้นแล
จิตผ่องโอภาสได้ :b42: :b42: :b42: :b42: เกิดขึ้นโดยญาณ

บุคคลผู้น้อมใจเชื่อย่อมประพฤติด้วย ศรัทธา
ผู้ประคองไว้ ย่อมประพฤติด้วย ความเพียร
ผู้ตั้งสติมั่น ย่อมประพฤติด้วย สติ
ผู้ทำความไม่ฟุ้งซ่าน ย่อมประพฤติด้วย สมาธิ
ผู้รู้ชัด ย่อมประพฤติด้วย ปัญญา
ผู้รู้แจ้ง ย่อมประพฤติด้วย วิญญาณ
ผู้มนสิการว่า ท่านผู้ปฏิบัติอย่างนี้ ย่อมบรรลุคุณพิเศษได้ ก็ประพฤติด้วย วิเศษจริยา
ผู้มนสิการว่ากุศลธรรมของท่านผู้ปฏิบัติอย่างนี้ ย่อมให้ต่อเนื่องกันไป ก็ประพฤติด้วย อายตนจริยา



เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ธ.ค. 2009, 15:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b41: ฝนฝึกตบะเข้ม :b42: :b42: :b42: อินทรีย์
กำจัดนิวรณ์มี :b42: :b42: :b42: :b42: ห่อหุ้ม
จิตเปิดผ่องโสภี :b42: :b42: :b42: :b42: สว่างเพราะ :b42: ปัญญา
ผลจิตเกิดแล้วคุ้ม :b42: :b42: :b42: :b42: ที่ได้ปฏิบัติมา

:b41: ญาณฌานในจิตตั้ง :b42: :b42: สว่างวาว
ดับภพวัฏฏะยาว :b42: :b42: :b42: :b42: สนิทแล้ว
อภิญญาย่อมพร่างพราว :b42: :b42: เห็นจิต :b42: อริยา
ทัสสนะเห็นจิตแผ้ว :b42: :b42: :b42: หมดเชื้อหมดธุลี


เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2010, 21:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


[๑๔] พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล
ภิกษุไม่เอาทุกข์ทับถมตนที่ไม่มีทุกข์ทับถม ๑
ไม่สละความสุขที่เกิดขึ้นโดยธรรม ๑
ไม่เป็นผู้หมกมุ่นในความสุขนั้น ๑

เธอย่อมทราบชัดอย่างนี้ว่า
ถึงเรานี้จะยังมีเหตุแห่งทุกข์ เมื่อเริ่มตั้งความเพียร
วิราคะย่อมมีได้เพราะการตั้งความเพียร
อนึ่ง ถึงเรานี้จะยังมีเหตุแห่งทุกข์ เมื่อวางเฉย บำเพ็ญอุเบกขาอยู่
วิราคะก็ย่อมมีได้

เธอจึงเริ่มตั้งความเพียร ในทำนองที่ภิกษุยังมีเหตุแห่งทุกข์
เริ่มตั้งความเพียร ย่อมมีวิราคะ เพราะการเริ่มตั้งความเพียร และบำเพ็ญอุเบกขา
ในทำนองที่ภิกษุยังมีเหตุแห่งทุกข์ วางเฉย บำเพ็ญอุเบกขาอยู่ ย่อมมีวิราคะ
เมื่อเธอนั้นยังมีเหตุแห่งทุกข์ เริ่มตั้งความเพียร วิราคะย่อมมีได้เพราะการตั้งความเพียร

แม้อย่างนี้ทุกข์นั้นก็เป็นอันเธอสลัดได้แล้ว เมื่อเธอนั้นยังมีเหตุแห่งทุกข์ วางเฉย บำเพ็ญอุเบกขาอยู่
วิราคะย่อมมีได้ แม้อย่างนี้ ทุกข์นั้นก็เป็นอันเธอสลัดได้แล้ว



ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความพยายามมีผล ความเพียรมีผล แม้อย่างนี้ ฯ




เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2010, 22:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระอริยสาวกย่อมเบื่อหน่ายในรูป
....เวทนา
....สัญญา
....สังขาร
....และวิญญาณ
อย่างนี้ว่า....
....เราไม่ใช่นั่น
....นั่นไม่ใช่ของเรา

แม้มารและเสนามารแสวงหาอยู่ในที่ทั้งปวง
ก็ไม่พบอริยสาวผู้เบื่อหน่ายแล้วอย่างนี้
มีอัตภาพอันเกษมล่วงพ้นสังโยชน์ทั้งปวงแล้ว.



รูป....
เสียง....
กลิ่น....
รส....
โผฏฐัพพะ....
และธรรมารมณ์ทั้งสิ้นนี้เป็นโลกามิสอันแรงกล้า
โลกหมกมุ่นอยู่ในอารม เหล่านี้

ส่วนสาวกของพระพุทธเจ้า
มีสติก้าวล่วงโลกามิสนั้น
และก้าวล่วงบ่วงมารแล้ว
รุ่งเรื่องอยู่ดุจพระอาทิตย์ ฉะนั้น.




เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.พ. 2010, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บัดนี้ เรายังไม่ควรจะประกาศธรรมที่เราได้บรรลุแล้วโดยยาก
เพราะธรรมนี้ .. อันสัตว์ผู้อันราคะและโทสะครอบงำแล้วไม่ตรัสรู้ได้ง่าย
สัตว์ผู้อันราคะย้อมแล้วถูกกองอวิชชาหุ้มห่อแล้ว
จักไม่เห็นธรรมอันละเอียด ลึกซึ้ง ยากที่จะเห็น ละเอียดยิ่ง
อันจะยังสัตว์ให้ถึงธรรมที่ทวนกระแสคือนิพพาน.


พระผู้มีพระภาค ทรงทราบคำทูลอาราธนาของพรหม
และทรงอาศัยความกรุณาในหมู่สัตว์ จึงทรงตรวจดูสัตวโลกด้วยพุทธจักษุ
เมื่อตรวจดูสัตว์โลกด้วยพุทธจักษุ ได้ทรงเห็นสัตว์ทั้งหลาย

ที่มีธุลีคือกิเลสในจักษุน้อยก็มี
ที่มีธุลีคือกิเลสในจักษุมากก็มี
ที่มีอินทรีย์แก่กล้าก็มี
ที่มีอินทรีย์อ่อนก็มี
ที่มีอาการดีก็มี
ที่มีอาการทรามก็มี
ที่จะสอนให้รู้ได้ง่ายก็มี
ที่จะสอนให้รู้ได้ยากก็มี
ที่มีปกติเห็นปรโลกและโทษโดยความเป็นภัยอยู่ก็มี.



มีอุปมาเหมือนดอกอุบลในกออุบล
ดอกปทุมในกอปทุม หรือดอกบุณฑริกในกอบุณฑริก
ที่เกิดแล้วในน้ำ เจริญแล้วในน้ำ งอกงามแล้วในน้ำ

บางเหล่ายังจมในน้ำ อันน้ำเลี้ยงไว้

บางเหล่าตั้งอยู่เสมอน้ำ

บางเหล่าตั้งอยู่พ้นน้ำ อันน้ำไม่ติดแล้ว.



เราเปิดประตูอมตะแก่ท่านแล้ว
สัตว์เหล่าใดจะฟัง
จงปล่อยศรัทธามาเถิด



เจริญในธรรมครับ


แก้ไขล่าสุดโดย มหาราชันย์ เมื่อ 06 ก.พ. 2010, 21:20, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร