วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 19:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 47 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 10:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b48: วัตถุประสงค์ :b48:

สอนตน...เป็นหลัก...จ้า...
ด้วยพระธรรมของพระพุทธองค์ โดยมีพระไตรปิฎก เป็นบรรทัดฐานในการเพียรศึกษา...

และเมื่อมีเพื่อน ๆ แวะเวียนเข้ามาร่วมแจม ก็ได้ประโยชน์ด้วย...


:b48: ธรรมคุ้มครองโลก (โลกปาลธรรม) :b48:


ธรรมที่ช่วยให้โลกมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เดือดร้อน และสับสนวุ่นวาย


หิริ : ความละอายบาป ละอายใจต่อการทำความชั่ว
โอตตัปปะ : ความกลัวบาป เกรงกลัวต่อความชั่ว

ได้ชื่อว่า "ธรรมฝ่ายขาว" (สุกก) หมายถึง กุศลธรรมทั้งปวง ชื่อว่า ธรรมขาว เพราะตรงข้ามกับ ธรรมดำ ,

ชื่อว่า หิริ เพราะอันเขาละอาย เพราะเป็นเหตุละอาย คือ เป็นเหตุแห่งการงดเว้นบาป ละอายต่อสิ่งที่ควรละอาย คือ ละอายต่อการเกิดขึ้นของกุศลกรรมอันลามก

ชื่อว่า โอตตัปปะ เพราะกลัว หรือชื่อว่า โอตตัปปะ เพราะเป็นเหตุกลัว การกลัวสิ่งที่ควรกลัว คือ กลัวต่อความเกิดแห่งอกุศลธรรมอันลามก


:b54: :b51: มีต่อ.....นะจ๊ะ :b54: :b51:


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 10 ธ.ค. 2009, 10:24, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 10:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: สาธุค่ะ เปิด รร.พระพุทธศาสนา แล้วเชิญใครมาตัดริบบิ้นหรือยังคะ :b16:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 10:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อุ๋ย...ก็คุณแม่มดแสนซน...งัยคะ.... มาได้ฤกษ์ เปิดกระทู้...:b4: :b4:

อิ อิ :b4: :b4:

ส่วนถ้าจะเชิญจอมยุทธท่านใดเป็นพิเศษ เพื่อมาปิดกระทู้

ก็คงจะเป็น ท่าน Natdanai ผู้ดูแลลาน ที่ไม่ค่อยจะขยันปฏิบัติภาระกิจ นี่ล่ะ เหมาะสุด...

:b34: :b34: ตื่นมาทำงานได้แล้ว :b34: :b34:

ส่วนผู้ดูแลสำนวน และเพิ่มเติมเนื้อหาสาระให้มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น...
ก็คงหลายท่าน กล่าวไม่หวาดไม่ไหว...ค่ะ...

:b38: :b39: :b38: :b39: :b38: :b39:


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 10 ธ.ค. 2009, 10:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 11:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


.:b49: :b49: เหตุให้เกิดหิริ และ โอตตัปปะ :b49: :b49:

หิริ เกิดขึ้นโดยอาศัยเหตุให้เกิดความละอาย ดังนี้

“นึกถึงชาติ”
เช่นนึกว่า การกระทำความชั่วนี้ ไม่ใช่เป็นการกระทำของคนผู้มีชาติเจริญ แต่เป็นการกระทำของผู้มีชาติต่ำ....


“นึกถึงวัย”
เช่นนึกว่า ขึ้นชื่อว่า การกระทำความชั่วนี้ เป็นกรรมที่คนหนุ่มสาวควรกระทำ คนที่ตั้งอยู่ในวัยสูงเช่นเรา ไม่ควรทำกรรมนี้

“นึกถึงความเป็นผู้กล้า”
เช่นนึกว่า การกระทำความชั่วนี้ เป็นการกระทำของผู้ที่มีกำลังอ่อนแอ คนที่แข็งแรงสมบูรณ์ด้วยกำลังเช่นเรา ไม่ควรกระทำกรรมนี้

“นึกถึงความเป็นผู้คงแก่เรียน”
เช่นนึกว่า การกระทำความชั่วนี้ เป็นการกระทำของอันธพาล มิใช่การกระทำของบัณฑิตผู้คงแก่เรียนเช่นเรา

“นึกถึงสถานะ”
เช่นนึกว่า การกระทำความชั่วนี้ เป็นการกระทำของโจร มิใช่การกระทำของเราผู้เป็นผู้มีการศึกษา

“นึกถึงความเป็นทายาทผู้รับมรดก”
เช่นนึกว่า การกระทำความชั่วนี้ เป็นการกระทำของผู้ไร้ความมั่นคงทางทรัพย์สมบัติ มิใช่การกระทำของเราที่จะเป็นผู้รับมรดก

“นึกถึงพระศาสดา”
เช่นนึกว่า การกระทำชั่วนี้เป็นการกระทำของผู้ไม่เคารพเชื่อฟังพระพุทธเจ้า มิใช่การกระทำของเราผู้เคารพพระศาสดา

“นึกถึงการประพฤติพรหมจรรย์”
เช่นนึกว่า การกระทำชั่วนี้ เป็นการกระทำของผู้ไม่มีแก่นสาร ผู้หวังประพฤติอยู่ในพรหมจรรย์เช่นเรา ไม่ควรกระทำกรรมนี้


.:b44: :b44: :b44: :b44: :b44: :b44: :b44:


.:b49: :b49: รอต่อ เหตุให้เกิด โอตตัปปะ แว๊บนึง นะจ๊ะ :b49: :b49:
:b49: :b49: อยู่ระหว่างการตบแต่ง เพื่อให้อ่านแล้ว ไม่...เครียด....อยู่จ้า :b49: :b49:


โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 11:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


.:b49: :b49: เหตุให้เกิด โอตตัปปะ :b49: :b49:

โอตตัปปะ เกิดขึ้นโดยอาศัยเหตุให้เกิดความกลัว ดังนี้

“อัตตานุวาทภัย”
นึกถึงภัย คือ การที่ตนเองยังต้องตำหนิตนเอง
ไม่อาจยกโทษให้กับตนเองได้ ไม่ยอมรับการกระทำนั้น แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยไปนานแล้วก็ตาม


“ปรานุวาทภัย”
นึกถึงภัย คือ การตำหนิติเตียนจากผู้อื่น หรือ คนที่ตนรัก

“ทัณฑภัย”
นึกถึงภัย คือ การถูกลงอาญา

“ทุคติภัย”
นึกถึงภัย คือ การเข้าถึงภพภูมิอันไม่น่าปรารถนา

:b53: :b51: :b53: :b51: :b53: :b51: :b53: :b51:


โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 15:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




ibrahims_250.gif
ibrahims_250.gif [ 25.53 KiB | เปิดดู 4334 ครั้ง ]
อีกภัยหนึ่ง "มรรคภัย" ได้แก่ ภยันตรายบนถนนหนทาง

ขับรถขับเรือพึงระมัดระวังไม่ควรประมาท หากใช้ความเร็วเกิน 90 กม/ชม. หลวงพ่อวัดบ้านไร่พูดไว้ว่า

กรู :b32: โดดลงก่อนหน้านั้นแล้ว (คือท่านไม่คุ้มครอง)

ข้ามถนนดูรถ

ขับรถดูคนข้ามถนน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 10 ธ.ค. 2009, 16:04, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 17:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

กรัชกาย เขียน:
ขับรถขับเรือพึงระมัดระวังไม่ควรประมาท หากใช้ความเร็วเกิน 90 กม/ชม. หลวงพ่อวัดบ้านไร่พูดไว้ว่า

กรู โดดลงก่อนหน้านั้นแล้ว (คือท่านไม่คุ้มครอง)


อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 17:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อีกภัยหนึ่ง "มรรคภัย" ได้แก่ ภยันตรายบนถนนหนทาง

ขับรถขับเรือพึงระมัดระวังไม่ควรประมาท หากใช้ความเร็วเกิน 90 กม/ชม. หลวงพ่อวัดบ้านไร่พูดไว้ว่า

กรู :b32: โดดลงก่อนหน้านั้นแล้ว (คือท่านไม่คุ้มครอง)

ข้ามถนนดูรถ

ขับรถดูคนข้ามถนน


โอ๊ว...! "มรรคภัย" :b8: :b8:

อุ อุ มุขนี้...คิดได้ไง

:b32: :b32: :b32:

รูปภาพ


โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 18:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


สัมมาทิฏฐิคือเหตุให้เกิด หิริ โอตตัปปะ

.... :b13: :b13: :b13: ....
มาปรากฏกายตามคำเชิญของ "สหายขี้เกี้ยม"
:b32: :b32: :b32:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 18:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:

"สหายขี้เกี้ยม"

:b32: :b32: :b32:


s006 s006

ขี้เกี้ยม มันหมายถึงอะไร...หง่ะ...

s006 s006

ประมาณ ขี้เก๊ก รึเปล่า ก็ไม่น่าจะใช่นี่...


โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 18:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


s006

มันมีอะไรเกี่ยวข้องกับ "เกี๊ยมฉ่าย" รึเปล่า

อันนั้น..ถ้าเป็น ต้มเกี๊ยมฉ่าย ชอบกิน.. :b17: :b17:

แต่ ขี้เกี๊ยม.. มันยังไง.. :b10: คงไม่ไช่ ต้มเกี๊ยมฉ่าย ใช่มั๊ย

หรือว่า จะเอา เกี๊ยมฉ่าย มาผัด ใส่ไข่... :b10: :b10:

อะไร...เฉลย...มาซะดี ๆ

:b46: :b42: :b46: :b42: :b46: :b42:


โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 19:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
natdanai เขียน:

"สหายขี้เกี้ยม"

:b32: :b32: :b32:


s006 s006

ขี้เกี้ยม มันหมายถึงอะไร...หง่ะ...

s006 s006

ประมาณ ขี้เก๊ก รึเปล่า ก็ไม่น่าจะใช่นี่...

เห็นเรียกตัวเองว่า "เสี่ยวจิ้ง" ใครๆคิดว่าเป็นชื่อภาษาจีน แต่กระผมกลับนึกถึงภาษาอีสาน :b32: :b32:

เสี่ยว....หมายถึง สหาย หรือ เพื่อนกัน... :b12:
จิ้ง....กระผมคิดว่ามันมาจากรูปที่ท่านใช้เป็นสมมติ(หน้าตา)ของท่านในลานธรรมนี้...จึงเป็น "ขี้เกี้ยม" :b32:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสต์ เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 23:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกปาลธรรม ธรรมซี่งรักษาโลก
"หิริ และ โอตตัปปะ"

ไม่มีหิริ และโอตตัปปะ การเป็นอยู่อย่างสัตว์ หรือคนก็ไม่ต่างกัน

Quote Tipitaka:
๕. ธรรมสูตร
[๒๒๐] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้พระผู้
มีพระภาคผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุกกธรรม ๒ ประการนี้ย่อมรักษาโลก
๒ ประการเป็นไฉนคือ หิริ ๑ โอตตัปปะ ๑

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าว่าสุกกธรรม ๒ ประการนี้จะไม่พึงรักษาโลกไซร้ ในโลกนี้ก็ไม่พึงปรากฏว่า มารดา น้า ป้า ภรรยาของอาจารย์ หรือว่าภรรยาของครู โลกจักถึงความปะปนกันไป เหมือนอย่างแพะ แกะ ไก่ สุกร สุนัข สุนัขจิ้งจอกฉะนั้น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะเหตุที่สุกกธรรม ๒ ประการนี้ยังรักษาโลกอยู่ ฉะนั้นจึงยังปรากฏว่า มารดา น้า ป้าภรรยาของอาจารย์ หรือว่าภรรยาของครู ฯ


พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้นพระผู้มีพระภาคตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า

ถ้าสัตว์เหล่าใด ไม่มีหิริและโอตตัปปะในกาลทุกเมื่อไซร้
สัตว์เหล่านั้นมีสุกกธรรมเป็นมูลปราศไปแล้ว เป็นผู้ถึงชาติ
และมรณะ

ส่วนสัตว์เหล่าใด เข้าไปตั้งหิริและโอตัปปะ
ไว้โดยชอบในกาลทุกเมื่อ สัตว์เหล่านั้นมีพรหมจรรย์งอก
งาม เป็นผู้สงบ มีภพใหม่สิ้นไปแล้ว ฯ


เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วฉะนี้ ฯ
จบสูตรที่ ๕

ขุ. ธรรมสูตร 25/220


ผู้มีหิริ โอตตัปปะ เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ย่อมเป็นผู้สงบ บรรลุนิพพาน.......... ^U^**

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 11 ธ.ค. 2009, 09:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เจริญในธรรมนะครับ :b4:


โพสต์ เมื่อ: 11 ธ.ค. 2009, 09:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โลกปาลธรรม ธรรมซี่งรักษาโลก
"หิริ และ โอตตัปปะ"

ไม่มีหิริ และโอตตัปปะ การเป็นอยู่อย่างสัตว์ หรือคนก็ไม่ต่างกัน

[quote-tipitaka]๕. ธรรมสูตร
[๒๒๐] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้พระผู้
มีพระภาคผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุกกธรรม ๒ ประการนี้ย่อมรักษาโลก
๒ ประการเป็นไฉนคือ หิริ ๑ โอตตัปปะ ๑

......
ผู้มีหิริ โอตตัปปะ เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ย่อมเป็นผู้สงบ บรรลุนิพพาน.......... ^U^**


:b8: :b8:

ขี้เกี้ยม...ขอขอบคุณ...ท่านเช่นนั้น..มากค่ะ...
กับไมตรีที่คุณเช่นมอบให้ ด้วยการหยิบพระสูตรมาช่วยเสริมทัพ.. :b1:

:b8: :b16: :b8: :b16: :b8: :b16:

:b55: :b55: :b55: :b55: :b55:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 47 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร