ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สอนธรรมด้วยคำกลอน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=8&t=26564 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | สอนธรรมด้วยคำกลอน |
. |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมด้วยคำกลอน |
ช่างหัวมัน จงยืนกราน สลัดทั่ว ช่างหัวมัน ถ้าเรื่องนั้น นั้นเป็นเหตุ แห่งทุกข์หนา อย่าสำออย ตะบอยจัด ไว้อัตรา ตัวกูกกล้า ขึ้นเรื่อยไป อัดใจตาย เรื่องนั้นนิด เรื่องนี้หน่อย ลอยมาเอง ไปบวกเบ่ง ให้เห็นว่า จะฉิบหาย เรื่องเล็กน้อย ตะบอยเห็น เป็นมากมาย แต่ละราย รีบเขวี้ยงขว้าง ช่างหัวมัน เมื่อตัวกู ลู่หลุบ ลงเท่าไร จะเย็นเยือก ลงไป ได้เท่านั้น รอดตัวได้ เพราะรู้ใช้ "ช่างหัวมัน" จงพากัน หัดใช้ ไว้ทุกคน ฯ พุทธทาส ภิกฺขุ |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมด้วยคำกลอน |
อย่าช่างหัวมัน อย่าบิ่นบ้า มัวแต่อ้าง ช่างหัวมัน ถ้าเรื่องนั้น เกี่ยวกับเพื่อน มนุษย์หนา ต้องเอื้อเฟื้อ ปฎิบัติ เต็มอัตรา โดยถือว่า เป็นเพื่อนเกิด- แก่เจ็บตาย การช่วยเพื่อน เหมือนช่วย ตัวเราเอง เมื่อจิตเพ่ง- เล็งช่วย ทวยสหาย ย่อมลดความ เห็นแก่ตัว ลงมากมาย ทุกทุกราย อย่าเขวี้ยงขว้าง ช่างหัวมัน เห็นแก่ตัว บางเบา ลงเท่าไร ยิ่งเข้าใกล้ พระนิพพาน เห็นปานนั้น รอดตัวได้ เพราะไม่มัว ช่างหัวมัน จงพากัน ใคร่ครวญ ถ้วนทุกคน ฯ |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมด้วยคำกลอน |
ปากอย่างใจอย่าง มีปากอย่าง ใจอย่าง หนทางศุข ไม่เกิดทุกข์ เพราะยึดมั่น ฉันแถลง ว่าคำพระ พุทธองค์ ทรงแสดง อย่าระแวง ว่าฉันหลอก ยอกย้อนเลย อย่ายึดมั่น สื่งใดๆ ด้วยใจตู ว่าตัวกู ของกู อยู่เฉยๆ ปากพูดว่า ตัวกู อยู่ตามเคย ใจอย่าเป็น เช่นปากเอ่ย เหวยพวกเราฯ |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมด้วยคำกลอน |
เป็นพ่อให้เป็นพ่อ ถ้าเป็นพ่อ ก็จงเป็น ให้เป็นพ่อ เป็นเพียงให้ ผีหัวร่อ หรือพอไหว เดี๋ยวนี้เป็น กันจนผี ขี้คร้านไย พ่ออะไร ให้ลูกจูง จมูกพา พ่อรุ่นนี้ เฝ้าพิรี้ พิไรปลอบ ให้ชื่นชอบ สุดแต่ลูก จะปรารถนา จะตอบลูก ก็ตอบไม่ถูก ว่าเกิดมา เพื่ออะไร กันหนา ยังมืดมนท์ พ่อไม่รู้ ลูกจะรู้ ได้อย่างไร จะเดินไป ทางไหน ยังสับสน ทำอะไร ได้ไม่- ถึงเสี้ยวคน ลูกของตน พ่อฆ่า สาแก่ใจ ฯ |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมด้วยคำกลอน |
บุญเป็นอะไร? สิ่งนั้นๆ เป็นเหมือน ของเกลื่อนกลาด ที่เป็นบาป เก็บกวาด ทิ้งใต้ถุน ที่เป็นบุญ มีไว้ เพียงเจือจุน ใช้เป็นคุณ สะดวกคาย คล้ายรถเรือ, หรือบ่าวไพร่ มีไว้ใช้ ใช่ไว้แบก กลัวตกแตก ใจสั่น ประหวั่นเหลือ เรากินเกลือ ใช่จะต้อง บูชาเกลือ บุญเหมือนเรือ มีไว้ขี่ ไปนิพพาน มิใช่เพื่อ ไว้ประดับ ให้สวยหรู เที่ยวอวดชู แบกไป ทุกสถาน หรือลอยล่อง ไปในโลก โอฆกันดาร ไม่อยากข้าม ขึ้นนิพพาน เสียดายเรือ ฯ |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมด้วยคำกลอน |
อะไรเผือก? ลิงจะเผือก เพราะขน มันสีขาว ส่วนคนเรา เผือกได้ ใครก้มเศียร เนื่องจากมี ธรรมา ไม่อาเกียรณ์ ใครพากเพียร เผือกได้ ไม่เว้นตน ฝรั่งเผือก ผิวขาว เปล่าแก่นสาร เที่ยวเพ่นพ่าน มีได้ ทุกแห่งหน คนเราเผือก ไม่ได้ เพียงกายยล เป็นสีขาว;เผือกคน ใช่เผือกลิง ถ้าฝรั่ง เป็นครูเรา, ใช่เขาเผือก ที่ตรงเปลือก, อย่าคิด ให้ผิดยิ่ง มัวเลียนแบบ ที่ตรงเปลือก จะเผือกลิง แล้วจะยิ่ง กว่าไม่เผือก เลือกให้ดี ฯ |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมด้วยคำกลอน |
ภัยร้ายของนักเรียน เป็นนักเรียน เพียรศึกษา อย่าริรัก ถูกศรปัก เรียนไม่ได้ ดั่งใจหมาย สมาธิจะ หักเหี้ยน เตียนมลาย ถึงเรียนได้ ก็ไม่ดี เพราะผีกวน แต่เตือนกัน สักเท่าไร ก็ไม่เชื่อ มันแรงเหลือ รักร้าย หลายกระสวน หลอกพ่อแม่ มากมาย หลายกระบวน หน้าขาวนวล ใจหยาบดำ ซ้ำละลาย การเล่าเรียน เบื่อหน่าย คล้ายจะบ้า ใช้เงินอย่าง เทน้ำเทท่า น่าใจหาย ไม่เท่าไร ใจกระด้าง สิ้นยางอาย หญิงหรือชาย เรียนไม่ดี สิ่งนี้เอง มีสัจจะ ทมะ และขันตี กตัญญู กตเวที อย่าโฉงเฉง รักพ่อแม่ พวกพ้อง ต้องยำเกรง เรียนให้เก่ง ให้ยิ้มแปล้ แก่ทุกคน ฯ |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมด้วยคำกลอน |
ชาวบ้าน-ชาววัด อันชาวบ้าน ทำงาน เพื่อกามเกียรติ จึงเกิดความ ตึงเครียด จนสั่นเสียว ส่วนชาววัด มุ่งขจัด ไปท่าเดียว มิให้เกี่ยว เกียรติกาม มุ่งงามธรรม จึงเกิดมี เครื่องวัด วัดชาวบ้าน ด้วย "เงิน" "งาน" "อดอยาก" หรือ "อิ่มหนำ" ? ส่วนเครื่องวัด ชาววัด, วัดกิจกรรม ว่าเขาทำ ให้ว่างได้ เท่าไรแล; ถ้าชาววัด ฮึดฮัด มุ่งกามเกียรติ มันน่าเกลียด แสนกล คนตอแหล ถ้าชาวบ้าน เกียจคร้าน งานเชือนแช ก็มีแต่ ทุกข์ทน หม่นหมองไป; จึงขอให้ ชาวบ้าน เป็นชาวบ้าน ผสมผสาน เกียรติกาม ตามวิสัย ให้ชาววัด เป็นชาววัด ขจัดไกล เพื่อพ้นภัย เกียรติ กาม งามนักเอย ฯ |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมด้วยคำกลอน |
ไม่รู้จักหน้าที่ เกิดเป็นแมว... ทำไมนี่ ขี้เกียจหา เกิดเป็นหมา... ทำไมนี่ ขี้เกียจหอน เกิดเป็นหมู... ทำไมนี่ ขี้เกียจนอน เกิดเป็นหนอน ...ทำไมนี่ ขี้เกียจคลาน เกิดเป็นงู... ทำไมนี่ ขี้เกียจเลื้อย เกิดเป็นเลื่อย... ทำไมนี่ ไม่หนีขวาน เกิดเป็นขุน... ทำไมนี่ ไม่ขี่คาน เกิดเป็นห่าน ... ทำไมนี่ ขี้เกียจฮ้อง เกิดเป็นพระ... ทำไมนี่ ดีแต่ขอ เกิดเป็นหมอ... ทำไมนี่ ดีแต่ถอง เกิดเป็นครู... ทำไมนี่ ดีแต่ท่อง เกิดเป็นอ๋อง ... ทำไมนี่ ดีแต่เออ ฯ |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมด้วยคำกลอน |
ศึกษากันเท่าไร? โลกยุคนี้ มีศึกษา กันท่าไหน ยุวชน รุ่นใหม่ ได้คลุ้มคลั่ง บ้างติดยา เสพติด เป็นติดตัง บ้างก็ฝัง หัวสุม ลุ่มหลงกาม บ้างดูหมิ่น พ่อแม่ ไม่มีคุณ บ้างก็เห็น เรื่องบุญ เป็นเรื่องพล่าม บ้างลุ่มหลง love free เป็นดีงาม บ้างประณาม ศาสนา ว่าบ้าบอ บ้างไปเป็น ฮิปปี้ มีหลายชนิด บ้างทวงอิส- ระพ้น จนเหลือขอ บ้างที่มี ดีกรีมาก โฮกฮากพอ โลกเราหนอ ให้ศึกษา กันเท่าไร ฯ |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมด้วยคำกลอน |
เปิด-เปิด-เปิด เปิด-เปิดตา: ให้รับแสง แห่งพระธรรม ยิ่งมืดค่ำ ยิ่งเห็นชัด ถนัดถนี่ สมาธิมาก ยิ่งเห็นชัด ถนัดดี นี่วิธี เปิดตาใจ ใช้กันมา ฯ เปิด-เปิดหู: ให้ยินเสียง สำเนียงธรรม ทั้งเช้าค่ำ มีก้องไป ในโลกหล้า ล้านล้านปี ฟังให้ชัด เต็มอัตรา คือเสียงแห่ง สุญญตา ค่าสุดใจ ฯ เปิด-เปิดปาก: สนทนา พูดจาธรรม วันยังค่ำ อย่าพูด เรื่องเหลวไหล พูดแต่เรื่อง ดับทุกข์ได้ โดยสัจจนัย ไม่เท่าไร เราทั้งโลก พ้นโศกแล ฯ |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมด้วยคำกลอน |
ปัญหาเฉพาะหน้า โลกกำลัง มีปัญหา ว่าพระธรรม สำคัญกว่า ข้าวน้ำ นั้นใช่ไหม เราดีได้ เพราะศีลธรรม บำรุงใจ โลกวิไล เลิศล้ำ เพราะธรรมพา พวกหนึ่งว่า หิวนัก ต้องอิ่มก่อน แล้วค่อยสอน ศีลธรรม กันเถิดหนา พวกหนึ่งว่า จะอิ่มท้อง ธรรมต้องมา หิวเจียนบ้า เพราะศีลธรรม ไม่ค้ำใจ คนส่วนน้อย สนใจ ใคร่ธรรมะ ส่วนมากผละ หันเห เถลไถล หาเนื้อหนัง ทั้งแก่หนุ่ม ฟุ่มเฟือยไป โลกเลยไม่ มีพระธรรม ทำยาตา ฯ |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมด้วยคำกลอน |
สู้กับหมอน หนุนหมอนต่ำ นอนหงาย สบายหนอ ถ้าหมอนสูง นอนหงาย กลัวตายโหง คือคอหัก เผาะออกไป ได้ใส่โลง แต่มันโล่ง สบายเหลือ เมื่อนอนตะแคง พ่อคุณเอ๋ย จะต้องมี สองสามหมอน ช่างหลอกหลอน ไปได้ หลายแขนง แก้ลำมัน อย่ามีมัน ให้เหนื่อยแรง นอนตะแคง หรือนอนหงาย ใช้แขนรอง นอนแต่น้อย ไม่ตะบอย หาความสุข จากการนอน ไม่อยากจะลุก: เป็นโรคสมอง ที่กิเลส ชักนำใจ ให้ลำพอง จนเราต้อง มีอะไร ให้เกินควร ฯ |
เจ้าของ: | bbb [ 29 ต.ค. 2009, 15:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอนธรรมด้วยคำกลอน |
การปิดทอง การปิดทอง ต้องหมายถึง ความสมัคร ประพฤติธรรม พร้อมพรัก ตามที่สอน เพื่อบูชา เต็มความรัก ประจักษ์ตอน ยามม้วยมรณ์ หรือยังอยู่ ดูเหมือนกัน สุขจะเกิด ทั่วกัน นั้นยืนนาน ทุกเหตุการณ์ ทุกทุกภพ ประสบสันติ์ เพราะเหตุที่ มีธรรม ประจำวัน ประพฤติกัน อย่างกะของ ที่ต้องกิน ผิดจากนี้ มีแต่ จะงายงม ดูไม่สม ตามส่วน ที่ควรถวิล ปิดทองนอก ได้ความงาม ตามระบิล ปิดทองใน ใจสิ้น ความว่ายเวียน ฯ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |