ลานธรรมจักร :: แสดงกระทู้ - พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??

ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/

พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ?? http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=8&t=26476	หน้า 1 จากทั้งหมด 3

เจ้าของ:

มหาราชันย์ [ 25 ต.ค. 2009, 19:36 ]

หัวข้อกระทู้:

พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??

สำรวมจักษุตั้ง :b42:

อินทรีย์
จิตมั่นกุศลมี :b42:

เปี่ยมล้น
เจริญฌานตัดธุลี :b42:

ทำป่วน

วัฏฏา
ตบะฝึกฝนข้น :b42:

ย่ำซ้ำมัคคญาณ

:b41:

ฌานยังจิตตื่นตั้ง :b42:

ดำรง
สติก่ออุเบกขาทรง :b42:

ทั่วพร้อม
ตัดตรึกย่อมหมดลง :b42:

ดับเหตุ

กังวล
ความตรึกรำคาญน้อม :b42:

ดับด้วยจตุตถฌาน

ภิกษุพึงเป็นผู้สำรวมจักษุ
ไม่พึงเป็นผู้โลเลเพราะเท้า
พึงเป็นผู้ขวนขวายในฌาน
พึงเป็นผู้ตื่นอยู่มาก
พึงเป็นผู้ปรารภอุเบกขา มีจิตตั้งมั่น
พึงเข้าไปตัดความตรึก
และตัดธรรมที่อาศัยอยู่แห่งความตรึกและความรำคาญ

เจริญในธรรมครับ

ไฟล์แนป:

007.jpg [ 40.7 KiB | เปิดดู 7556 ครั้ง ]

เจ้าของ:	มหาราชันย์ [ 26 ต.ค. 2009, 10:29 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??
จิตตรึกจิตนึกเข้ม พัวพัน รำลึกนึกแต่ขันธ์ ค่ำเช้า สักกายะทิฏฐิพัน รัดจิต รัดกาย ความโศกมาสู่เจ้า เพราะข้อประมาทธรรม จิตตรึกจิตนึกน้อม สัจจา จดจ่อในธัมมา บทนั้น อรหัตตมัคคา ธรรมบท ปัจจุบัน ละโลภโกรธหลงกั้น ดับสิ้นโลกีย์ ดับจิตดับคิดเข้ม โลกีย์ ขันธ์ละหมดธุลี แต่งแต้ม ดวงจิตผ่องโสภี ขาวรอบ สว่างวาว โลกุตตระแย้ม มัคคตั้งบรรลุญาณ มัคคเหตุดับตรึกค้น อวิชชา ละโลกโดยปัญญา วิมุตินี้ วิมุติสุขพ้นวัฏฏา จิตแจ่ม สงัดกาม บ่ ตรึก บ่ นึกลี้ หลุดพ้นโดยญาณ เจริญในธรรมครับ

เจ้าของ:	bbb [ 26 ต.ค. 2009, 14:43 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??

เจ้าของ:

กระดังงาลนไฟ [ 26 ต.ค. 2009, 16:18 ]

หัวข้อกระทู้:

Re: พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??

อ้างคำพูด:

พึงเข้าไปตัดความตรึก

ใครรู้บ้าง

คำว่าตรึก อยากรู้ถึง ซึ่งความหมาย
ฉันไม่อาย ในความรู้ จากครูท่าน
ถือเสียว่า สิ่งนี้หรือ คือธรรมทาน
คำว่าตรึก เมื่อฉันอ่าน ยากผ่านไป

( ถาม ) ตัดความตรึก ที่เป็น เช่นอกุศล
เพื่อหลุดพ้น หวังผล ดลจิตใส
หรือเพื่ออื่น ช่วยบอกมา อย่าช้าใย
ตัดสิ่งใด ในความตรึก นึกยากจริง

ตัดความตรึก ตัดยามใด ช่วงไหนท่าน
ตอนเข้าฌาน ใช่ไหม ใคร่รู้ยิ่ง
ธรรมบทไหน ช่วยกรุณา หาอ้างอิง
หากไม่ทิ้ง ละคำตอบ ขอขอบคุณ ...กระดังงาลนไฟ

ไฟล์แนป:

.gif [ 29.16 KiB | เปิดดู 7479 ครั้ง ]

เจ้าของ:	มหาราชันย์ [ 27 ต.ค. 2009, 10:52 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??
กระดังงาลนไฟ เขียน: ใครรู้บ้าง คำว่าตรึก อยากรู้ถึง ซึ่งความหมาย คำว่าตรึก คือนึกคิด ในจิตนั้น เขาเรียกกัน ว่าวิตก คือตรึกนี้ ตาเห็นรูป หูยินเสียง เพียงยินดี จะต้องมี การตรึก คิดนึกตาม แต่ละวัน กระดังงา มากความตรึก จิตคิดนึก รูปรส กลิ่นเสียงพล่าม สัมผัสต้อง แข็งอ่อนด้วย สิ่งสวยงาม จิตวิ่งตาม ตรึกนึกไป ได้ตลอดวัน [๒๒] วิตก มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความตรึก ความตรึกอย่างแรง ความดำริ ความที่จิตแนบอยู่ในอารมณ์ ความที่จิตแนบสนิทอยู่ในอารมณ์ ความยกจิตขึ้นสู่อารมณ์ สัมมาสังกัปปะ ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า วิตกมีในสมัยนั้น. เจริญในธรรมครับ

เจ้าของ:

กระดังงาลนไฟ [ 27 ต.ค. 2009, 14:53 ]

หัวข้อกระทู้:

Re: พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??

อ้างคำพูด:

คำว่าตรึก คือนึกคิด ในจิตนั้น
เขาเรียกกัน ว่าวิตก คือตรึกนี้
ตาเห็นรูป หูยินเสียง เพียงยินดี
จะต้องมี การตรึก คิดนึกตาม

แต่ละวัน กระดังงา มากความตรึก
จิตคิดนึก รูปรส กลิ่นเสียงพล่าม
สัมผัสต้อง แข็งอ่อนด้วย สิ่งสวยงาม
จิตวิ่งตาม ตรึกนึกไป ได้ตลอดวัน... มหาราชันย์

เพราะเหตุใด ต้องสลัด ตัดความตรึก
ถ้าจิตนึก แต่ธรรมดี ที่สร้างสรรค์ ( กุศลธรรม )
นึกอภัย กรุณา เมตตากัน
จิตตั้งมั่น แต่กุศล เพื่อผลบุญ ( ต้องตัดมั้ย )

อันความตรึก ในธรรมนี้ มีกี่อย่าง
บอกกว้างๆ โปรดเอื้อเฟื้อ เพื่อเกื้อหนุน
กระดังงาฯ อยากรู้ไว้ ใช้เป็นทุน
ปัดดวงใจ ให้หายขุ่น เลิกวุ่นจินต์

อยากถามอีก แต่เกรงใจ ไม่กล้าเอ่ย
เดี๋ยวจะเคย ถามไป ไม่จบสิ้น
ปัญญาใคร เหนือกว่า ในแดนดิน
ช่วยตอบหน่อย ระหว่างอินทร์ กับเทวาฯ ...กระดังงาลนไฟ

:b41:

สวัสดีท่านมหาราชันย์และขอขอบคุณที่ ช่วยแผ่ธรรมทาน..

ไฟล์แนป:

R335-6.gif [ 40.54 KiB | เปิดดู 7456 ครั้ง ]

เจ้าของ:	มหาราชันย์ [ 27 ต.ค. 2009, 16:43 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??
กระดังงาลนไฟ เขียน: เพราะเหตุใด ต้องสลัด ตัดความตรึก ถ้าจิตนึก แต่ธรรมดี ที่สร้างสรรค์ ( กุศลธรรม ) นึกอภัย กรุณา เมตตากัน จิตตั้งมั่น แต่กุศล เพื่อผลบุญ ( ต้องตัดมั้ย ) อันความตรึก ในธรรมนี้ มีกี่อย่าง บอกกว้างๆ โปรดเอื้อเฟื้อ เพื่อเกื้อหนุน กระดังงาฯ อยากรู้ไว้ ใช้เป็นทุน ปัดดวงใจ ให้หายขุ่น เลิกวุ่นจินต์ สวัสดี กระดังงา โพสต์มาถาม หวังรู้ตาม ความตรึกนี้ มีกี่อย่าง ตรึกโลกีย์ นี่หนึ่ง ตรึกถึงทาง ตรึกนี้สร้าง อุปธิ กิเลสครอง ตรึกที่สอง โลกุตตระ ตบะมั่น ตรึกสองนั้น เพื่อก่อมัคค จักไม่หมอง ตรึกเพื่อละ สังโยชน์สิบ หยิบมาตรอง สุขสมปอง เพราะดับขันธ์ ปรินิพพาน เพราะเหตุนี้ ตรึกที่หนึ่ง จึงต้องตัด ตรึกมัดสัตว์ เอาไว้ ในสังสาร ก่ออุปธิ คือขันธ์ห้า พาร้าวราน อุปาทาน จากตัณหา พาเศร้าตรม ละตรึกได้ พาให้ ใจผ่องแผ้ว หลุดพ้นแล้ว จากตัณหา พาสุขสม เสวยสมาบัติ อริยะ สุขารมณ์ บัณฑิตชม สุขวิเวก เอกโลกา เจริญในธรรมครับ

เจ้าของ:

กระดังงาลนไฟ [ 27 ต.ค. 2009, 17:27 ]

หัวข้อกระทู้:

Re: พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??

อ้างคำพูด:

ละตรึกได้ พาให้ ใจผ่องแผ้ว
หลุดพ้นแล้ว จากตัณหา พาสุขสม
เสวยสมาบัติ อริยะ สุขารมณ์
บัณฑิตชม สุขวิเวก เอกโลกา...มหาราชันย์

ถ้าเช่นนั้น ใครตรองตรึก นึกสุจริต
พึงใกล้ชิด แต่ธรรมดี ที่ล้ำค่า
ในชีวิต ย่อมมีสุข ทุกเวลา
กระดังงาฯ เริ่มเข้าใจ ในวันนี้...กระดังงาลนไฟ

Quote Tipitaka:

ว่าด้วยความตรึก ๙ อย่าง
[๙๗๓] ชื่อว่า ความตรึก ในคำว่า พึงเข้าไปตัดความตรึก ธรรมเป็นที่อาศัยอยู่แห่งความตรึก และความรำคาญ ได้แก่ ความตรึก ๙ อย่าง คือ ความตรึกในกาม ความตรึกในความพยาบาท ความตรึกในความเบียดเบียน ความตรึกถึงญาติ ความตรึกถึงชนบท ความตรึกถึงเทพเจ้า ความตรึกอันปฏิสังยุตด้วยความเป็นผู้เอ็นดูผู้อื่น ความตรึกอันปฏิสังยุตด้วยลาภสักการะและความสรรเสริญ ความตรึกอันปฏิสังยุตด้วยความไม่ถูกดูหมิ่น เหล่านี้เรียกว่า
ความตรึก ๙ อย่าง.

ไฟล์แนป:

R910-2.gif [ 27.09 KiB | เปิดดู 7418 ครั้ง ]

เจ้าของ:	มหาราชันย์ [ 28 ต.ค. 2009, 00:38 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??
กระดังงาลนไฟ เขียน: ถ้าเช่นนั้น ใครตรองตรึก นึกสุจริต พึงใกล้ชิด แต่ธรรมดี ที่ล้ำค่า ในชีวิต ย่อมมีสุข ทุกเวลา กระดังงาฯ เริ่มเข้าใจ ในวันนี้...กระดังงาลนไฟ ขออนุโมทนาสาธุการกับความรู้ความเข้าใจในธรรมของคุณกระดังงาลนไฟครับ สาธุการท่านแจ่มแจ้ง แสดงธรรม ขอจิตมีบุญนำ แกร่งกล้า สังขารระงับกรรม โศกทุกข์ จากไป กระดังงาจิตเจิดจ้า ตรึกนั้นดับลง เจริญในธรรมครับ

เจ้าของ:

กระบี่ไร้เงา [ 28 ต.ค. 2009, 14:09 ]

หัวข้อกระทู้:

Re: พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??

กระดังงาลนไฟ เขียน:

ขอน้อมอนุโมทนาด้วย :b47:

ยินดี
ด้วยกระดังงาฯ นั้นมี :b47:

จิตจ้า
คิดตรึกแต่ธรรมดี :b47:

มิข้อง อกุสลา
ตริตรึกตรึกกุศลจ้า :b47:

สู่ห้วงอวยกุศล

มหาราชันย์ เขียน:

สวัสดี

กระดังงา

โพสต์มาถาม
หวังรู้ตาม :b42:

ความตรึกนี้ :b42:

มีกี่อย่าง
ตรึกโลกีย์ :b42:

นี่หนึ่ง

ตรึกถึงทาง
ตรึกนี้สร้าง :b42:

อุปธิ

กิเลสครอง

ตรึกที่สอง :b42:

โลกุตตระ

ตบะมั่น
ตรึกสองนั้น :b42:

เพื่อก่อมัคค :b42:

จักไม่หมอง
ตรึกเพื่อละ :b42:

สังโยชน์สิบ :b42:

หยิบมาตรอง
สุขสมปอง :b42:

เพราะดับขันธ์ :b42:

ปรินิพพาน

เพราะเหตุนี้ :b42:

ตรึกที่หนึ่ง :b42:

จึงต้องตัด
ตรึกมัดสัตว์ :b42:

เอาไว้

ในสังสาร
ก่ออุปธิ :b42:

คือขันธ์ห้า :b42:

พาร้าวราน
อุปาทาน :b42:

จากตัณหา

พาเศร้าตรม

:b42:

ละตรึกได้

พาให้

ใจผ่องแผ้ว
หลุดพ้นแล้ว :b42:

จากตัณหา

พาสุขสม
เสวยสมาบัติ :b42:

อริยะ

สุขารมณ์
บัณฑิตชม :b42:

สุขวิเวก

เอกโลกา

กราบอนุโมทนาท่าน :b47:

มหาราชันย์
ผู้น้อมคุณอนันต์ :b47:

ธรรมแก้ว
ชี้ช่องสู่ไอศวรรย์ :b47:

สูงค่า
มิมีสิ่งเพริศแพร้ว :b47:

ยิ่งกว่าสัทธรรม

:b41:

ตรองตรึกตริตรึกใต้ :b47:

ต่ำตม
ตริตรึกเพื่อพ้นตรม :b47:

อรรถเอื้อ
อรหัตมรรคมิ่งบรม :b47:

บ่มยิ่ง ทุกวาร
ตรองตริตรึกนั้นเกื้อ :b47:

หลุดแร้วบ่วงมาร

รูปภาพ

เจริญในธรรมค่ะ :b48:

ไฟล์แนป:

stairway_to_heaven.jpg [ 35.55 KiB | เปิดดู 7371 ครั้ง ]

เจ้าของ:	เอรากอน [ 28 ต.ค. 2009, 14:39 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??
เอาหล่ะหว่า เอาหล่ะหว่า เอาหละเหว๋ย เอาหล่ะเหว๋ย เอาหล่ะเหว๋ย เอาหละหว่า เอาหล่ะหว่า โผล่ผิดที่ ตูไปดีกว่า... พอดีจะมาท้วงท่าน มหา น่ะค่ะ เสี่ยวจิ้ง ทิ้งคำถามไว้ที่กระทู้ นู๊ด ท่านยังไม่ยอมขยายความ หง่ะ ขอโทษนะคะ เสี่ยวจิ้งไม่เป็นเรื่องคำกลอน พิธีรีตรอง อรรถธรรมอันงดงาม เสี่ยวจิ้งก็ไม่ถนัด เพราะเสี่ยวจิ้งเรียนธรรมจากพระบ้านนอกน่ะค่ะ... จะให้ เสี่ยวจิ้ง ยื่นคอคุย เสี่ยวจิ้งก็ดันเกิดมาคอสั้น สำคัญแต่ว่า ท่านมหา พอจะยอมลงมานั่งยอง ๆ ตอบคำถาม เสี่ยวจิ้ง ด้วยภาษาธรรมง่าย ๆ ได้มั๊ยคะ ละเว้น เสี่ยวจิ้ง ไว้สักตัวได้รึเปล่าคะ หรือว่า การที่ เสี่ยวจิ้ง อยากจะทัศนาธรรมดี ๆ จากคุณ เสี่ยวจิ้ง ไม่มีทางเลือกในการเสพภาษาเลย ถ้าต้องเป็นเช่นนั้น แม่จ๋า...! ชาตินี้ เสี่ยวจิ้ง คงซี๊เลี้ยว เพราะปัญญาอ่อนทางภาษาอย่างแรง จึงไม่อาจว่ายน้ำไปให้ถึงฝั่ง...

เจ้าของ:

กระบี่ไร้เงา [ 28 ต.ค. 2009, 15:28 ]

หัวข้อกระทู้:

Re: พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??

คำว่า "กวี" ใช่เพียงนี้ ที่ร้อยกรอง
ตามครรลอง ร้อยแก้ว ก็ใช่อยู่
อ่านภาษา "เสี่ยวจิ้ง" นั้นชั้นครู
มิใช่งู หรือแค่ปลา มิว่ากัน

:b48:

ทั้งสะกด การันต์ ทัณฑฆาต
ใช้ภาษา ที่สะอาด และรังสรรค์
เชิญเถิดท่าน มาร่วมวง กวีกัน
จะเป็นฉันท์ กาพย์ กลอน อย่าย้อนไป

:b48:

จะร้อยแก้ว ร้อยคำ นำภาษา
เป็นสื่อกลาง ธรรมา นั่นแหล่ะใช่
ท่านเอรากอน เสี่ยวจิ้ง อย่าทิ้งไป
กระบี่ฯ คารวะ :b8:

ท่านไว้ ด้วยน้ำธรรม :b27:

เจริญในธรรมค่ะ :b48:

ไฟล์แนป:

50 1.jpg [ 66.18 KiB | เปิดดู 7353 ครั้ง ]

เจ้าของ:

มหาราชันย์ [ 28 ต.ค. 2009, 17:09 ]

หัวข้อกระทู้:

Re: พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??

เอรากอน เขียน:

พอดีจะมาท้วงท่าน มหา น่ะค่ะ
เสี่ยวจิ้ง ทิ้งคำถามไว้ที่กระทู้ นู๊ด ท่านยังไม่ยอมขยายความ หง่ะ

สวัสดี

เอรากอน

อย่าร้อนใจ
ถามมาใหม่ :b42:

ได้ไหม

กระทู้นุ้น
ผมไม่เห็น :b42:

คำถาม

ข้อความคุณ
โปรดการุณ :b42:

ทำลิ้งค์

อ้างอิงมา

เพื่อบัณฑิต :b42:

ในเว็ปนี้

มีใจช่วย
ร่วมตอบด้วย :b42:

ในเวที

จะดีกว่า
ได้ความรู้ :b42:

ทั้งคุณ

มิตรธัมมา
สละเวลา :b42:

ตั้งคำถาม

ตามอีกที

ขออภัย

ที่ไม่เห็น :b42:

เป็นตรงไหน
ที่คุณได้ :b42:

ถามให้

ขยายที่
จึงขอตั้ง :b42:

กระทู้รอ

ขอไมตรี
ถามอีกที :b42:

เอรากอน

อย่าร้อนใจ

เจริญในธรรมครับ

ไฟล์แนป:

R1347-6.jpg [ 7.1 KiB | เปิดดู 7346 ครั้ง ]

เจ้าของ:

กระบี่ไร้เงา [ 28 ต.ค. 2009, 17:57 ]

หัวข้อกระทู้:

Re: พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??

ขอติดตาม อ่านด้วย คงไม่ว่า
เอรากอน เปิดปุจฉา จะได้ไหม
กระบี่ไร้เงา จะได้ ขอเข้าไป
เพิ่มปัญญา ให้คงไว้ ในธัมมา

:b48:

ขออนุญาต ท่านมหา ราชันย์เจ้า
กระบี่ฯ ขอเข้า ไปนั่งรอ ฟังปุจฉา
ของเอรากอน เพื่อรอ ฟัง วิสัชนา
จากมหา ราชา(ชันย์) ผู้ใจบุญ

รูปภาพ

ขอเข้าฟังปุจฉา-วิสัชนา ด้วยค่ะ :b41:

เจริญในธรรมค่ะ :b48:

ไฟล์แนป:

2068862wsz92z3j3z.gif [ 134.1 KiB | เปิดดู 7340 ครั้ง ]

เจ้าของ:	กระดังงาลนไฟ [ 29 ต.ค. 2009, 10:45 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??
อ้างคำพูด: ขออนุญาต ท่านมหา ราชันย์เจ้า กระบี่ฯ ขอเข้า ไปนั่งรอ ฟังปุจฉา ของเอรากอน เพื่อรอ ฟัง วิสัชนา จากมหา ราชา(ชันย์) ผู้ใจบุญ...กระบี่ไร้เงา กระดังงาฯ คงต้องขอ รอดูบ้าง เกาะหน้าต่าง หวังในธรรม ล้ำเกื้อหนุน คำถามดี คำตอบเด่น ย่อมเป็นคุณ จึงขอลุ้น อีกคน ด้วยสนใจ อันปุจฉา ที่ดี มีประโยชน์ มิมีโทษ มีแต่คุณ บุญก็ได้ คนอื่นฟัง ก็ระรื่น ชื่นหทัย ผู้ตอบให้ ก็ได้บุญ หนุนเช่นกัน มาเถิดหนา เอรากอน อย่างอนนะ เราควรจะ พิจารณา ทั้งห้าขันธ์ เดี๋ยวก็เกิด เดี๋ยวดับไป ไม่เว้นวัน หากยึดมั่น ย่อมไม่พ้น ทนทุกข์ระทม...กระดังงาลนไฟ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๑ ขุททกนิกาย มหานิทเทส ปุจฉามีอีก ๓ อย่าง คือ การถามถึงประโยชน์ตน ๑ การถามถึงประโยชน์ผู้อื่น ๑ การถามถึงประโยชน์ทั้งสองอย่าง ๑

หน้า 1 จากทั้งหมด 3	เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/