| ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
| ธรรมในคำกลอน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=8&t=23655 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
| เจ้าของ: | เจ้านาง [ 10 ก.ค. 2009, 09:37 ] |
| หัวข้อกระทู้: | ธรรมในคำกลอน |
การงาน อันการงาน คือค่า ของมนุษย์ของมีเกียรติ สูงสุด อย่าสงสัย ถ้าสนุก ด้วยการงาน เปิกบานใจ ไม่เท่าไร รู้ธรรม ฉ่ำซึ้งจริง ตัวการงาน คือตัวการ ประพฤติธรรมพร้อมกันไป หลายส่ำ มีค่ายิ่ง ถ้าจะเปรียบ ก็เหมือนคน ฉลาดยิง นัดเดียววิ่ง เก็บนก หลายพกเอยฯ
|
|
| เจ้าของ: | ariyachon [ 10 ก.ค. 2009, 10:01 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมในคำกลอน |
สาธุจร้า
|
|
| เจ้าของ: | เจ้านาง [ 10 ก.ค. 2009, 11:25 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมในคำกลอน |
ศึกษากันเท่าไร? โลกยุคนี้ มีศึกษา กันท่าไหนยุวชน รุ่นใหม่ ได้คลุ้มคลั่ง บ้างติดยา เสพติด เป็นติดตัง บ้างก็ฝัง หัวสุม ลุ่มหลงกาม บ้างดูหมิ่น พ่อแม่ ไม่มีคุณบ้างก็เห็น เรื่องบุญ เป็นเรื่องพล่าม บ้างลุ่มหลง love free เป็นดีงาม บ้างประนาม ศาสนา ว่าบ้าบอ บ้างไปเป็น ฮิปปี้ มีหลายชนิดบ้างทวงอิส- ระพ้น จนเหลือขอ บ้างที่มี ดีกรีมาก โฮกฮากพอ โลกเราหนอ ให้ศึกษา กันเท่าไรฯ
|
|
| เจ้าของ: | rawisada [ 10 ก.ค. 2009, 11:40 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมในคำกลอน |
ขอรวมด้วยนะค่ะ เงิน คือ พระเจ้า ที่สามารถดลบันดาล ทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ไม่อาจดลบันดาล ให้มนุษย์พบแสงสว่าง แห่งความจริงได้ว่า ชีวิต คือ ความทุกข์ เพราะว่า เงิน คือ สิ่งที่โกหกมนุษย์ อยู่ตลอดเวลาว่า ชีวิต คือ ความสุข เกี่ยวกันไหม ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ
|
|
| เจ้าของ: | เจ้านาง [ 11 ก.ค. 2009, 08:32 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมในคำกลอน |
ตาบอด - ตาดี หมู่นกจ้อง มองเท่าไร ไม่เห็นฟ้าถึงฝูงปลา ก็ไม่เห็น น้ำเย็นใส ไส้เดือนมอง ไม่เห็นดิน ที่กินไป หนอนก็ไม่ มองเห็นคูถ ที่ดูดกิน คนทั่วไป ก็ไม่ มองเห็นโลกต้องทุกข์โศก หงุดหงิด อยู่นิจศีล ส่วนชาวพุทธ ประยุกต์ธรรม ตามระบิล เห็นหมดสิ้น ทุกสิ่ง ตามจริงเอยฯ
|
|
| เจ้าของ: | เจ้านาง [ 12 ก.ค. 2009, 09:55 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมในคำกลอน |
เป็นอยู่ด้วยจิตว่าง จงทำงาน ทุกชนิด ด้วยจิตว่างยกผลงาน ให้ความว่าง ทุกอย่างสิ้น กินอาหาร ของความว่าง อย่างพระกิน ตายเสร็จสิ้น แล้วในตัว แต่หัวที ท่านผู้ใด ว่างได้ ดังว่ามาไม่มีท่า ทุกข์ทน หม่นหมองศรี "ศิลปะ" ในชีวิต ชนิดนี้ เป็น"เคล็ด"ที่ ใครคิดได้ สบายเอยฯ
|
|
| เจ้าของ: | เจ้านาง [ 13 ก.ค. 2009, 10:19 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมในคำกลอน |
กิเลสคุย คุยเสียดี ที่แท้ แพ้กิเลสน่าสมเพช เตือนเท่าไร ก็ไม่เห็น ว่าเป็นทาส กิเลส อยู่เช้าเย็น จะอวดเป็น ปราชญ์ไป ทำไมนา ค้นธรรมะ หาทางออก อุ้มกิเลสน่าสมเพช จริงๆ เที่ยววิ่งหา ตำรานี่ ตำรานั่น สรรหามา ได้เป็นข้า กิเลสไป สมใจเอยฯ
|
|
| เจ้าของ: | ภัทร์ไพบูลย์ [ 13 ก.ค. 2009, 12:48 ] |
| หัวข้อกระทู้: | กามาวจรโสภณจิต24 ดวง |
[size=150]กามาวจรโสภณจิต คือ จิตที่ดีงามเป็นไปในกามภูมิ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1 กามาวจรโสภณกุศลจิต หรือเรียกว่า มหากุสลจิต มี 8 ดวง2 กามาวจรโสภณกุศลจิต หรือเรียกว่า มหาวิปากจิต มี 8 ดวง3 กามาวจรโสภณกุศลจิต หรือเรียกว่า มหากิริยาจิต มี 8 ดวง [size=150]มหากุศลจิต คือ จิตที่เป็นความดี มีจำนวนมากที่ใหญ่กว่ากุศลทั้งหลาย ยิ่งทำยิ่งเพิ่มพูนขึ้น มีธรรมชาติประหานอกุศล มีประโยชน์มาก กว่ากุศลอื่นๆ เพราะพระอริยเจ้าเหล่าใด ได้มีแล้วในอดีตกาล และจะมีในอนาคตกาล และปรากฎอยู่ในปัจจุบันนี้ ย่อมอาศัยมหากุศลจิต 8 ดวง นี้เป็นมูลเป็นบันใด แล้วเข้าสู่พระนิพพาน[ ดังจะแสดงชื่อดังต่อไปนี้ดวงที่ 1 ชื่อว่า โสมนสฺสสหตํ ญาณสมฺปยุตํ อสงฺขาริกเมกํ แปลว่า จิตมหากุศลที่เกิดพร้อมด้วยความดีใจ ประกอบด้วย ปัญญา โดยไม่มีการชักนำ 1 ดวง/size]/size] ดวงที่ 2 ชื่อว่า โสมมนสฺสสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกเมกํ แปลว่า จิตมหากุศลที่เกิดพร้อมด้วยดีใจ ประกอบด้วย ปัญญา โดยชักนำ 1 ดวง ดวงที่ 3 ชื่อว่า โสมนสฺสสหตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกเมกํ แปลว่า ชื่อว่า จิตมหากุศลที่เกิดพร้อมด้วยความดีใจ ไม่ประกอบด้วย ปัญญา โดยไม่มีการชักนำ 1 ดวง ดวงที่ 4 ชื่อว่า โสมนสฺสสหตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกเมกํ แปลว่า จิตมหากุศลที่เกิดพร้อมด้วยความดีใจ ไม่ประกอบด้วย ปัญญา โดยไม่มีการชักนำ 1 ดวง ดวงที่ 5 ชื่อว่า อุเปกฺขาสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกเมกํ แปลว่า จิตมหากุศลที่เกิดพร้อมด้วยความเฉยๆ ประกอบด้วย ปัญญา โดยไม่มีการชักนำ 1 ดวง ดวงที่ 6 ชื่อว่า อุเปกฺขาสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกเมกํ แปลว่า จิตมหากุศลที่เกิดพร้อมความเฉยๆ ประกอบด้วย ปัญญา โดยไม่มีการชักนำ 1 ดวง ดวงที่ 7 ชื่อว่า โสมนสฺสสหตํ ญาณวิปฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกเมกํ แปลว่า จิตมหากุศลที่เกิดพร้อมด้วยความวางเฉยๆไม่ประกอบด้วย ปัญญา โดยไม่มีการชักนำ 1 ดวง ดวงที่ 7 ชื่อว่า อุเปกฺขาสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกเมกํ แปลว่า จิตมหากุศลที่เกิดพร้อมด้วยความวางเฉยๆไม่ ประกอบด้วย ปัญญา โดยไม่มีการชักนำ 1 ดวง ดวงที่ 8 ชื่อว่า อุเปกฺขาสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกเมกํ แปลว่า จิตมหากุศลที่เกิดพร้อมด้วยความวางเฉยๆไม่ ประกอบด้วย ปัญญา โดยไม่มีการชักนำ 1 ดวง เทพบุตร ขอทุกท่านมีดวงตาเห็นธรรมทุกท่านเทอญ
|
|
| เจ้าของ: | เจ้านาง [ 20 ก.ค. 2009, 10:43 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมในคำกลอน |
สหายเอ๋ย สหายเอ๋ย "ตัวเรา" มิได้มีแต่พอเผลอ "ตัวเรา" มี ขึ้นมาได้ พอหายเผลอ "ตัวเรา" ก็หายไป หมด"ตัวเรา" เสียได้ เป็นเรื่องดี สหายเอ๋ย จงถอน ซึ่ง"ตัวเรา"และถอนทั้ง "ตัวเขา" อย่างเต็มที่ ให้มีแต่ ปัญญา และปราณี อย่าให้มี "เรา-เขา" เบาเหลือเอยฯ
|
|
| เจ้าของ: | เจ้านาง [ 23 ก.ค. 2009, 01:28 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมในคำกลอน |
โลภะ ศัตรูแห่งศานติ สมัยนี้ ละโมบกล้า อย่างป่าเถื่อนจะรวบเดือน ดาวใส่ ในกระเป๋า ศิวิไลซ์ ล้วนแต่หมาย ว่าจะเอา โลกของเรา ย้อนกลับหลัง ยังป่าเอยฯ
|
|
| เจ้าของ: | ภัทร์ไพบูลย์ [ 23 ก.ค. 2009, 22:19 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมในคำกลอน |
อนุโมทนาสาธุๆครับขอท่านกัลญาณมิตรพึงเจริญสุขเจริญธรรมสูงยิ่งๆเถิด เทพบุตร |
|
| เจ้าของ: | เจ้านาง [ 11 ก.ย. 2009, 23:22 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมในคำกลอน |
ปิด - ปิด - ปิด ปิด-ปิดปาก อย่าพูดมาก เกินจำเป็นจะเป็นคน ปากเหม็น เขาคลื่นไส้ ต้องเกิดเรื่อง เยิ่นเย้อ เสมอไป ถ้าหุบปาก มากไว้ ได้แท่งทองฯ
|
|
| เจ้าของ: | เจ้านาง [ 11 ก.ย. 2009, 23:27 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมในคำกลอน |
ปิด - ปิด - ปิด ปิด-ปิด หู อย่าให้แส่ ไปฟังเรื่องที่เป็นเครื่อง กวนใจ ให้หม่นหมอง หรือเร้าใจ ให้ฟุ้งซ่าน พาลลำพอง ผิดทำนอง คนฉลาด อนาถใจฯ
|
|
| เจ้าของ: | เจ้านาง [ 11 ก.ย. 2009, 23:30 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมในคำกลอน |
ปิด - ปิด - ปิด ปิด-ปิด ตา อย่าสอดส่าย ให้เกินเหตุบางประเภท แกล้งทำบอด ยอดกุศล มัวสอดรู้ สอดเห็น จะเป็นคน เอาไฟลน ตนไป จนไหม้พองฯ
|
|
| เจ้าของ: | เล็ก อจินไตย [ 12 ก.ย. 2009, 00:12 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรมในคำกลอน |
ขอแจมด้วยคนนะครับ จิตตั้งมั่น ต่อนิพพาน อยู่ไกลลิบแต่คนดิบ อย่างเรา หน้าสงสาร ริจะสู้ ซึ่งหน้า พญามาร แต่สันดาน กิเลสหนา ท้วมทวี ห้วงวัฏฏะ สงสาร ยาวนานนักห้วงความรัก ยิ่งยากเกิน จะหลบหนี จะหาใคร หน้าใหน ในปฐพี เป็นผู้ชี้ ทางสว่าง ได้ดังใจ แล้วเมื่อไหร่ จะถึงฝั่ง ที่พ้นทุกข์มัวเสพสุข กามโลกีย์ จนเหลวใหล แต่ไม่รู้ ว่านั้น มันคือไฟ เผาดวงใจ ยับเยิน จนเกินพอ จิตตั้งมั่น สูงสุด คือพุทธะแต่จะละ กิเลสใจ อยากจริงหนอ จะก้าวไป สู่ฝัน วันที่รอ (ก).จะไม่ท้อ จะไม่หวั่น อันตราย (ข).เหนื่อยจนท้อ ขอเที่ยวก่อน ก็แล้วกัน
|
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|