ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
oo หอระฆัง-หอกลอง โมงยามในวัฒนธรรมไทย (นฤมล สารากรบริรักษ์) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=73&t=55187 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | webmaster [ 22 ธ.ค. 2008, 13:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | oo หอระฆัง-หอกลอง โมงยามในวัฒนธรรมไทย (นฤมล สารากรบริรักษ์) |
![]() หอระฆัง วัดเกาะแก้วสุทธาราม จ.เพชรบุรี หอระฆัง-หอกลอง โมงยามในวัฒนธรรมไทย ในสมัยโบราณ การบอกเวลาในโมงยามต่างๆ จะใช้การตีกลองและระฆังเป็นสำคัญ ดังจะพบว่า มีการสร้างอาคารสำหรับแขวนกลองและระฆังเหล่านี้ในการเป็นศูนย์กลางของการบอกเวลาที่เรียกว่า “หอระฆังและหอกลอง” หอระฆังและหอกลอง เป็นอาคารประเภทหนึ่งที่ปรากฏการสร้างมาแต่ครั้งโบราณจนถึงปัจจุบัน โดยมากพบในวัดทั้งเขตพุทธาวาสและสังฆาวาส ใช้แขวนระฆังและกลองสำหรับตีบอกเวลา เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ทราบเวลาสำหรับการประกอบวัตรปฏิบัติต่างๆ โดยพร้อมเพรียงกันอันได้แก่ การทำวัตรเช้า-เย็น การฉันเพล เป็นต้น รูปแบบและโครงสร้างของหอระฆังและหอกลองนั้นมีความคล้ายคลึงกันมาก อาจแตกต่างกันเฉพาะชื่อเรียกเท่านั้น โดยทั่วไปมักสร้างขึ้นโดยใช้แผนผังรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยเน้นให้มีรูปทรงสูง สามารถจำแนกประเภทได้ ๒ ประเภท คือ ![]() หอกลองวัดโคกบัวราย จ.สุรินทร์ ๑. ชนิดเครื่องไม้ หมายถึงประเภทที่สร้างตัวอาคารด้วยโครงสร้างและองค์ประกอบต่างๆ เป็นไม้ทั้งสิ้น มีไม้พาดเป็นขื่อสำหรับแขวนระฆังหรือกลอง มีความโปร่งโล่ง เพราะไม่ได้ก่อฝาผนังทึบตัน เช่น หอระฆัง วัดเกาะแก้วสุทธาราม อ.เมือง จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย สันนิษฐานว่า รูปแบบของหอระฆังนี้น่าจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ยังคงความเป็นเรือนเครื่องไม้แบบโบราณ นอกจากนี้ยังพบหอกลองชนิดเครื่องไม้ที่มีคุณค่ายิ่ง คือ หอกลอง วัดโคกบัวราย อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นหอกลองสูงสามชั้น มีความเรียบง่ายแบบพื้นบ้าน โครงสร้างก็เป็นแบบโปร่งโล่งและมีเอกลักษณ์ของศิลปกรรมท้องถิ่น ที่เน้นประโยชน์ใช้สอยมากกว่า ![]() หอระฆัง วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ ๒. ชนิดเครื่องก่อ หมายถึงประเภทที่สร้างด้วยโครงสร้างแบบก่ออิฐถือปูนเช่นเดียวกับตึก ชั้นล่างโถงโล่ง มีบันไดเชื่อมต่อชั้นบน หอระฆังและหอกลองชนิดเครื่องก่อนี้มีทั้งที่ก่ออิฐเป็นผนังทึบตันและแบบโปร่งเช่นเดียวกับเครื่องไม้ อาทิ หอระฆังที่วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบจัตุรมุข คือมีมุขยื่นออกมาทั้งสี่ด้าน ยกพื้นสูงมีบันไดทางขึ้นเตี้ยๆ ผนังโล่ง โครงสร้างไม่สูงมากนัก สำหรับหอกลองที่มีความน่าสนใจ ได้แก่ หอกลองประจำพระนคร ซึ่งเป็นหอสูงสามชั้น สร้างด้วยไม้ผสมการก่ออิฐ หลังคาเป็นทรงยอดสูง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ทรงได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างหอกลองประจำเมืองขึ้นที่บริเวณใกล้คุกเก่า ตรงข้ามกับวัดพระเชตุพนฯ ปัจจุบันคือที่ตั้งกรมการรักษาดินแดน ภายในประดิษฐานกลองขนาดใหญ่ ๓ ใบ คือ กลองย่ำพระสุริย์ศรี สำหรับตีบอกเวลา กลองอัคคีพินาศ สำหรับตีเมื่อเกิดเพลิงไหม้ และ กลองพิฆาตไพรี สำหรับตีเมื่อเกิดศึกสงคราม ปัจจุบันได้รับการบูรณะให้มีความแข็งแรงตามรูปแบบเดิม ในปัจจุบัน วัดยังคงใช้การตีระฆังและกลองเพื่อบอกเวลาปฏิบัติกิจของสงฆ์เช่นเดิม นอกจากเป็นเสียงที่ดังกังวาลและเยือกเย็นแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของการสร้างหอระฆังและหอกลองของไทยไว้ด้วย ![]() หอกลองประจำเมือง กรุงเทพฯ เอกสารอ่านประกอบ • กรมศิลปากร. วัดหลวงสมัยรัตนโกสินทร์. กรุงเทพฯ : กรม, ๒๕๔๐. • สงวน รอดบุญ, พุทธศิลปรัตนโกสินทร์, กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์รุ่งวัฒนา, ๒๕๒๖. • สมคิด จิระทัศนกุล. วัด : พุทธศาสนสถาปัตยกรรมไทย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๔. ![]() ![]() ![]() คัดลอกมาจาก...หนังสือพิมพ์ผู้จัดการออนไลน์ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |