ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ความตายนี้ให้เรานึกเตือนจิตเตือนใจเราให้ได้ (หลวงปู่สิม)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=60237
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  Hanako [ 04 พ.ค. 2021, 17:08 ]
หัวข้อกระทู้:  ความตายนี้ให้เรานึกเตือนจิตเตือนใจเราให้ได้ (หลวงปู่สิม)

รูปภาพ

หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่

คำว่า “ปัจจุบัน” คำว่าเดี๋ยวนี้นั้นให้ดู “ลมหายใจ” ก็รู้ ลมที่เข้าออกอยู่เดี๋ยวนี้เวลานี้เป็นปัจจุบัน อดีตมันล่วงไปแล้ว ก็ไม่ต้องไปเป็นทุกข์เป็นร้อนเพราะสิ่งใดล่วงไปแล้วสิ่งนั้นก็หมดไปแล้ว สิ่งใดที่ยังไม่มาถึงสิ่งนั้นก็ยังไม่มาถึง ไม่ควรไปคิดคำนึง ดีใจเสียใจเป็นเรื่องของกิเลส เวลานี้เรามาละกิเลส ละกิเลสราคะตัณหา ละกิเลสโทสะ ละกิเลสโมหะ

กิเลสเหล่านี้มันอยู่ที่จิตใจหลง จิตใจไม่ภาวนา จิตใจไม่รู้สึกในใจของตัวเองอยู่ ให้มารู้สึกในเวลาปัจจุบันนี้ว่า “มรณํ เม ภวิสฺสติ” มรณะ มะระณัง คือความตายนี้ให้เรานึกเตือนจิตเตือนใจเราให้ได้ เดี๋ยวนี้ที่เราจำได้ว่าความตาย ก็มักจะเห็นว่าคนโน้นตาย คนนี้ตาย ที่ล่วงมาแล้วบ้าง อันความตายที่มันมีอยู่ในตัวเราต้องมองให้เห็น อะไรที่มันอยู่ในตัวของเราที่มันตายไป คำว่าตายไปคือมันหมดไป สิ้นไป เปลี่ยนแปลงไป นั่นล่ะคือมันตายไป

แรกเริ่มเดิมทีทุกคนก่อนที่จะได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในโลกนี้ เราทุกคนไปปฏิสนธิวิญญาณในครรภ์มารดาทุกคน เมื่อได้นานเก้าเดือนสิบเดือนก็อยู่ไม่ได้ จำเป็นต้องคลอดออกมา ที่คลอดออกมานั้นก็คือว่า ตายจากในท้องแม่มาอยู่ข้างนอก อันนั้นก็ตายอย่างหนึ่ง แสดงว่าแต่ก่อนอยู่ในท้องแม่ในท้องมารดา เมื่อได้เก้าเดือนสิบเดือนแล้วไปไหนมาไหนลำบาก อุ้มท้องไปอย่างนั้นแหละ เพราะมันยังไม่ได้มาเกิดมันยังไม่คลอด พอคลอดออกมาแล้วก็มาอยู่ข้างนอก แล้วก็ให้เตือนใจเราว่า เกิดหรือว่าอยู่ในท้องแม่ลำบากลำบนที่สุด บางคนในท้องแม่คนเดียวอยู่ได้ตั้งสองคนสามคนขึ้นไปก็ยังมี ความทุกข์อยู่ในท้องแม่นั้นท่านว่ามีความลำบากที่สุด ที่จะแก้ได้ก็คือว่าแก้ภาวนานี่แหละ ไม่ให้จิตใจมาหลงในรูปในเสียงในกลิ่นในรสในโผฐฐัพพะธรรมารมณ์ แล้วจิตใจอันนี้จะไม่ได้ไปนอนในท้องแม่อันแสนทุกขเวทนานั้น

แต่เมื่อคลอดออกมาเกิดออกมาอยู่ข้างนอกแล้วเราก็มักจะลืม ให้นึกดูเสียเวลานี้ว่า ความทุกข์ที่เราอยู่ในท้องแม่ลำบากที่สุด แล้วเป็นสิ่งปฏิกูลโสโครกที่สุดการอยู่ในท้องมารดา ที่เราเกิดมานี้ก็คือว่า มันตายออกมานั่นเอง แต่คนเราไม่เรียกว่าตาย ตายคือมันเคลื่อนที่ไปจากที่หนึ่งไปที่หนึ่ง มาร้องไห้น้ำตาไหลอยู่ภายนอกอีกหลายเดือนหลายเวลาเหมือนกัน ที่เราว่าปวดแข้งปวดขาเวลาภาวนานี้มันเป็นเรื่องเล็ก เวลาเราอยู่ในท้องแม่นั้นเจ็บกว่านี้ยังทนได้ตั้งสิบเดือน การนั่งภาวนาข้างนอกไม่ถึงสิบเดือน ชั่วโมงหรือว่าสามสิบนาทีกว่าๆ ต้องมีความอดทน เราจะภาวนาแก้กิเลสในใจนี้แหละจึงจะไม่มานอนในท้องแม่อีก


:b44: :b44:

ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“หัดนั่งสมาธิ พร้อมด้วยการฟังธรรมะ”


:b47: รวมคำสอน “หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=42673

:b47: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=21573

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/