ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ทุกข์ไม่ได้มีในจิต จิตไม่ได้มีในทุกข์ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=51216 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Hanako [ 12 ต.ค. 2015, 08:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | ทุกข์ไม่ได้มีในจิต จิตไม่ได้มีในทุกข์ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ |
![]() หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ถ้าเราจะพูดกันไปเรื่องอื่นมันก็ห่างจากทุกข์ แท้ที่จริงคนเรานี้จิตใจเลื่อนลอยฟุ้งซ่าน ก็เพราะว่าสู้ความทุกข์ไม่ได้นี้เองนะ เหตุนั้นจึงอยากจะย้ำเรื่องทุกข์นี้ให้มากๆ ให้ถือว่า "มันไม่ใช่เราเป็นทุกข์ ความทุกข์ไม่ใช่มีในเรา" ให้มันรู้ชัดในใจอย่างนั้น เรื่องมันน่ะ ทุกข์มันเป็นเรื่องของ "ขันธ์ห้า" ที่เคยพูดมาบ่อยๆ อยู่นั้นแหละ ฉะนั้นอย่าไปลืมข้อนี้น่ะ ก็ให้เตือนจิตของตนอย่างนี้ เมื่อมันเกิดทุกขเวทนาอะไรขึ้นมาก็ให้เตือนจิตว่า ทุกขเวทนาเหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของขันธ์ห้า ไม่ใช่ตัวตนของเรา "ทุกขเวทนาเหล่านี้ไม่ได้มีในจิต จิตไม่ได้มีในทุกข์" เราก็หาอุบายแยกจากกันอย่างนี้แหละ ถ้าเราไม่หาอุบายแยกอย่างนี้มันก็เป็นอันเดียวกันเลยบัดนี้นะ เออ มันเป็นอย่างนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ก็พ้นทุกข์ไม่ได้แล้ว ไปสู่โลกหน้าทุกข์นี้ก็ติดตามไปอยู่อย่างนั้นแหละ ดังนั้น เราจะรู้ได้ว่าคนเกิดมาในโลกนี้น่ะ มันเอาทุกข์ติดตามมาด้วยไม่ใช่เหรอ พอเจ็บไข้ได้ป่วย หรือพอมีใครกระทบกระทั่งเสียอกเสียใจบ้าง ร้องไห้ร่ำไร สาปแช่งคนอื่นหรือพอเจ็บพอปวดอะไร รุนแรงเข้าไปก็ร้องไห้ร่ำไร นั่นแหละแสดงว่า จิตมันไม่มั่น มันไม่หนักแน่น มันไม่ได้กำหนดรู้เท่าทุกข์มาแต่ก่อนโน้น มันยึดเอาทุกข์ติดตามมา พอเกิดมาชาตินี้แล้วก็จึงว่า มาหวั่นไหวกับทุกขเวทนาเหล่านี้จิตใจอันนี้นะมันเป็นอย่างนั้น หวั่นไหวกับคนเขาด่าเขาว่าเสียดสี ตัวเองเถียงสู้เขาไม่ได้ก็ร้องไห้บางคนมันเป็นอย่างนั้น เรื่องหมู่นี้นะมันเป็นเรื่องหลงเรื่องเมาของจิตใจ เมามาในสงสารนับไม่ถ้วนแล้ว เราควรจะตื่นตัวกันได้แล้วบัดนี้นะ เกิดมาในชาตินี้ มาได้ฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว บอกว่า "ทุกข์นั้นมีจริง ทีนี้ทุกข์มีจริงแล้วผู้รู้เท่าทุกข์นั้นมันมี" งี้นะ "ถ้าไม่มีผู้รู้..ทุกข์ก็ไม่มี" ขอให้เข้าใจ เอ้าใครล่ะจะมาบ่นเพ้อพิไรรำพัน จะมาแสดงออกทางกายทางวาจา ร้องไห้ร่ำไร อันนี้มันก็เพราะอิทธิพลของจิตนั่นเองแหละ จิตสู้กับความทุกข์ไม่ไหวก็เลยแสดงให้กายร้องไห้ร่ำไร เศร้าโศกเสียใจออกมา แท้ที่จริงก็จิตนั้นนะร้องไห้ มันเลยกระเทือนถึงร่างกาย ร่างกายนี้ก็เลยร้องไห้ตามไป ถ้าหากว่าจิตไม่ร้องไห้แล้ว ร่างกายนี้ก็ไม่ร้องไห้เลย มันเป็นอย่างนั้น จิตไม่ทุกข์ร้อนอะไรแล้วอย่างนี้ ร่างกายนี้มันก็ต้องแปรปรวนไปตามเรื่องของมันเท่านั้นแหละ "ไม่มีผู้เป็นทุกข์" บัดนี้นะ เพราะว่าจิตใจมันไม่หวั่นไหวแล้ว มันไม่ถือว่าทุกข์เป็นของตน ไม่ได้ถืออย่างนั้น กำหนดรู้ว่า "ทุกข์ไม่ใช่ของตน" เป็นเรื่องของขันธ์ห้าต่างหาก ![]() ![]() :: ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |