ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
อบรมหมู่คณะเรื่อง อาหารสำคัญต่อการภาวนา : หลวงปู่เหรียญ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=51050 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Hanako [ 23 ก.ย. 2015, 07:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | อบรมหมู่คณะเรื่อง อาหารสำคัญต่อการภาวนา : หลวงปู่เหรียญ |
![]() หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย การทำครัวทำอาหารนี่เป็นของหนักไม่น้อยเหมือนกันนะให้ช่วยกันน่า ช่วยกันทั้งแม่ดำแม่ขาว เรามาทำบุญน่ะ เราบวชเป็นชีเป็นขาวก็ดี บารมีเรายังไม่แก่เราก็ต้องทำความดีหลายอย่างประกอบกันเข้า จะเอาแต่ภาวนาอย่างเดียวไปไม่รอด ต้องให้เข้าใจนั่นแหละ เรียกว่า ในพุทธศาสนานี้พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนให้คนเรา “ลงมือกระทำ” ไม่ใช่เพียงแต่อ้อนวอน อ้อนวอนให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ มาช่วยเหลือให้ตนมีความสุขความเจริญ..พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอนอย่างนั้น ทรงสอนให้เราลงมือทำ การทำมันก็ต้องทำหลายอย่าง ไม่ใช่แต่เพียงนั่งภาวนาอย่างเดียว ปากท้องมันหิว ไม่มีอาหารหล่อเลี้ยง นั่งภาวนาก็ไม่ได้ ร่างกายอันนี้มันเนื่องอยู่ด้วยอาหาร เพราะฉะนั้นจึงต้องหาอาหารมาหล่อเลี้ยงมัน มันถึงมีกำลังสามารถนั่งสมาธิภาวนาได้ อันนี้มันก็ยังดีนะ เรายังมีเงินจ่ายค่าเครื่องครัวต่างๆ ได้มาทำยาไส้กันน่ะ แต่บางแห่งไม่มีเงินพอ อยู่ด้วยกันมากก็ไม่ได้ ไม่มีอาหารจะเลี้ยงกันอย่างนี้นะ ดังนั้นพวกเราที่อยู่ร่วมกันนะเรามีพร้อมแล้วจึงได้ช่วยกันทำเท่านั้นแหละ ควรช่วยกันทำช่วยกันคิด คิดให้มันเห็นเหตุเห็นผล โลกมันหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่คงที่ แม้แต่ครั้งพระพุทธเจ้า นางภิกษุณีเพื่อนก็เที่ยวบิณฑบาตมาเลี้ยงอัตภาพอันนี้ไป แต่ในสมัยปัจจุบันนางภิกษุณีหมดไปแล้วบัดนี้มีผู้นุ่งขาวห่มขาว โกนผมโกนคิ้ว รักษาศีล ๘ เรียกว่า แม่ชี อันนี้เพื่อนก็ไม่นิยมบิณฑบาตกัน เราจะไปทำอย่างนั้นมันก็ไม่ถูกต้อง เพราะว่าคนส่วนใหญ่ไม่นิยม เหตุนั้นเมื่อเป็นแม่ชีมาแล้ว ก็จึงต้องทำหน้าที่เป็นแม่ครัว ช่วยกันทำอาหารเลี้ยงพระบ้าง เลี้ยงตัวเองบ้าง ก็เป็นอย่างนั้นนี่ขอให้เข้าใจเน้อ เรียกว่า ไม่มีใครที่จะคอยล้างมือเปิบเอาเลยอย่างนี้ไม่มี แม้พระสงฆ์สามเณรก็ต้องบิณฑบาตตามกิจวัตรเป็นอย่างนั้น เราเป็นแม่ขีก็ทำหน้าที่ของแม่ชีเกี่ยวกับเรื่องอาหาร เรียกว่าเป็นแม่ครัว นั่นแหละต่างฝ่ายต่างก็มีงานทำ มารวมกันเข้าก็จึงพอเป็นอยู่ได้ นั่นแหละอย่าไปเข้าใจว่า เรื่องอาหารไม่เป็นเรื่องสำคัญนะ จะไม่สำคัญยังไงเล่า อัตภาพร่างกายนี้เพียงขาดอาหารหรือน้ำวันหนึ่งนี่ มันก็เปลี่ยนแปลงแล้ว รูปร่างกายนี้นะแปรผันไปแล้ว ทรุดโทรมไปแล้ว อย่างนี้ที่เราอยู่ได้มานี้ก็เพราะมีอาหารหล่อเลี้ยงอยู่ ที่เราประพฤติพรหมจรรย์ทำความเพียรภาวนาอะไรต่ออะไรได้อยู่ เพราะมีอาหารหล่อเลี้ยงร่างกายนี้ให้มีกำลังพอเป็นไปได้ แม้ท่านที่ได้บรรลุมรรคผลธรรมวิเศษ ท่านก็มีอาหารหล่อเลี้ยงร่างกายนี้ แล้วก็จึงมีกำลังวังชาไปนั่งฟังเทศน์ของพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ทั้งหลาย มีกำลังเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา ไม่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าง่ายๆ หมู่นี้นะมันล้วนแต่อาศัยอาหารทั้งนั้นเลย เป็นเครื่องบำรุงกำลังกายให้ทำกิจวัตรต่างๆ ได้ ดังนั้นแหละขอให้พากันเข้าใจ ![]() ![]() :: รวมคำสอน ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |