วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 11:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2014, 01:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 มิ.ย. 2014, 09:57
โพสต์: 667

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

พระมหาสิริจันทเถระ
ปรารภการทำบุญแซยิด
ณ วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๙

..........การทำบุญแซยิดนี้ มีประสงค์อย่างไร
ยินดีว่าตัวมีอายุมาก และอยากต่อ
ให้อายุยืนยาวไปอีกอย่างนั้นหรือ
..........อ้อ! ไม่ใช่อย่างนั้นอย่างเดียว คือคนอายุมาก
เขาว่าคนเฒ่าคนแก่ จะยินดีต่อความแก่
ความเฒ่าประโยชน์อะไร ทางที่จะให้เกิดความยินดี
นั้น ดังนี้
คือชีวิตอยู่ได้ถึง ๕ รอบแห่งนักษัตรเช่นนี้ ควรเห็นว่า
เป็นทุลลภวัตถุ เป็นวัตถุได้ด้วยยากอย่างยิ่ง สม
ด้วยพุทธภาษิตว่า กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตํ ชีวิตของสัตว์
ทั้งหลาย เป็นของฝืดเคือง คือว่าได้ด้วยยากดังนี้
ข้อนี้เป็นเครื่องแสดงให้เห็นรับสมอ้างจริง
ในงานคราวนี้
ต้องการพระสหชาติมาเจริญพระพุทธมนต์
ให้สืบดูตามวัดในบริเวณพระมหานครนี้ ได้ ๔ องค์ คือ
พระพรหมมุนี วัดสุทัศน์ ๑ พระเขมาภิมุขธรรม
วัดพิชัยญาติ ๑ พระวิสุทธินายก วัดปรินายก ๑
พระครูโศภณ วัดเทพศิรินทร์ ๑ และไป
ได้ที่เมืองนนทบุรี พระครูอุดมญาณ วัดเสาธงทอง ๑
ไปได้ที่เมืองปทุมธานี พระครูปัญญารัตน์ วัดโพ ๑
ทั้งหัวเมืองด้วยเพียง ๖ องค์เท่านั้น
ในพระมหานครปีหนึ่ง ๆ บวชไม่ต่ำกว่า ๕๐๐ องค์
ยังคงเหลืออยู่เพียง ๔ องค์เท่านั้น
ควรเห็นได้ว่าชีวิตของสัตว์เป็นของได้ด้วยยากจริง
ตนเป็นผู้ได้แล้ว ข้อนี้เป็นเหตุให้เกิด
ความยินดีโสดหนึ่ง
ในการที่ตนได้นำชีวิตมาถึง ๖๑ ปี โดย
ความสวัสดิภาพ ถึงแม้เป็นผู้โง่เขลาไม่สามารถ
จะทรงพระราชเกียรติยศ ซึ่งเป็นสิ่งควรสงวนไว้ได้
เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง ข้อนั้นก็จริง
แต่ควรเห็นว่ากรรมเป็นเครื่องแต่งสัตว์ ย่อมสำเร็จ
ด้วยกุศลากุศล
แต่สิ่งจะให้เกิดความปีติยินดีอย่างสูงสุด หาสิ่งที่
จะลบล้างมิได้นั้น คือนับแต่ตนได้อุปสมบทมาถึง ๔๐
พรรษาปีนี้ ในระหว่างกาลเพียงเท่านั้น เมื่อตรวจดู
ความประพฤติของตน ก็เห็นได้ว่าตนได้นำ
ความบริสุทธิ์มาโดยลำดับ และ
ได้ประกอบกิจพุทธศาสนามาโดยเต็มความสามารถ
ยังไม่เคยได้ทำ
ให้เสื่อมเสียเกียรติยศของพระพุทธศาสนาด้วยทุจริต
ให้ปรากฏแก่โลกแต่อย่างหนึ่งอย่างใดเลย
ข้อนี้ ชื่อว่าได้นำความบริสุทธิ์ลุล่วงมา
โดยทางอันยืดยาวแล้ว ยังเหลือทางอยู่ข้างหน้าน้อย
อาจหมายได้ว่าตนคงจะนำความบริสุทธิ์อันนี้ ไป
ถึงที่สุดได้โดยไม่ต้องสงสัย
เปรียบเหมือนนายเรือผู้ฉลาด
นำเรือของตนฝ่าคลื่นฝืนลมไป
ในกลางทะเลล่วงวันคืนไปโดยลำดับ
จนแลเห็นฝั่งประเทศที่ตนประสงค์ นายเรือคนนั้น
จะคิดดีใจว่า เราเดินเรือมาคราวนี้คงจะ
ถึงฝั่งที่เราประสงค์ได้โดยสวัสดิภาพ ไม่ต้องมี
ความสงสัย ข้ออุปมานี้ฉันใด ถึงอุปไมยก็ฉันนั้น
ข้อนี้ เป็นเครื่องเตือนใจให้เกิดปีติยินดีในการที่
จะทำบุญแซยิด
..........ขอท่านทั้งหลายอย่าเข้าใจไปอย่างอื่นเลย
..........................


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร