วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 07:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2013, 17:13 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2876


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

สัมมาสังกับโป กับ โสเครติส

(คมชัดลึก พึ่งตนพึ่งธรรม, ส.ค. ๒๕๕๔)
พิสุทธิ์ เกรียงบูรพา


ไม่ผิดหรอกครับ ชื่อบทความน่ะ ... หลายคนคงสงสัย “นักปราชญ์ชาวกรีก” เกี่ยวอะไรด้วย กับ “มรรคมีองค์ ๘” ของพระพุทธเจ้าของเรา? เดี๋ยวผมจะเล่าให้ท่านฟัง

กว่า ๒,๖๐๐ ปี ล่วงมาแล้ว ด้วยคำสอนอันทนต่อการต่อการพิสูจน์ ไม่ขึ้นกับกาลเวลา (อะกาลิโก) ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงวิธีแห่งการสิ้นสุดกรรมที่เจ๋งที่สุด แต่พวกเราชาวพุทธส่วนใหญ่ มองไม่ค่อยเห็นกันเลย จึงเที่ยววิ่งหาผู้วิเศษต่างๆ นานา ที่สามารถจะแก้กรรม ตัดกรรม สแกนกรรม เอ๊กซเรย์กรรม ฯลฯ (อีกหน่อยคงมีอุลตร้าซาวน์กรรม และ แกมม่าเรย์กรรม ตามมาติดๆ) ให้ตัวเองกันเป็นบ้าเป็นหลัง ดังมงคลตื่นข่าว มีแม้กระทั่ง ตาที่สาม จิตสัมผัส คนเห็นกรรม คนเห็นผี มั่วกันไปหมด

ทั้งๆที่ พระพุทธองค์ก็ทรงตรัสสอน วิถีแห่งการสิ้นสุดกรรม อันใครจะเรียกว่า แก้กรรม ก็ดี ตัดกรรมก็ดี ฯลฯ ไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ... นั่นก็คือ มรรคา ทางประเสริฐอันประกอบด้วยองค์ ๘ (หรือไตรสิกขา) นั่นเอง หากเรียงกันตามภาคปฏิบัติ ก็ต้องเริ่มด้วย ปัญญา ศีล สมาธิ ... คือ สัมมาทิฏฐิ, สัมมาสังกัปโป, สัมมาวาจา ฯลฯ จนถึง สัมมาสมาธิ อาจารย์พุทธทาสว่า ๘ องค์ประกอบ (Factors) รวมกันเป็นทางสายเดียว เดี่ยวไป เหมือนเส้นเชือกเส้นเดียว ที่ประกอบด้วยกอเชือกเล็กๆ ๘ ฝั้นอันไม่อาจแยกจากกันได้ และทางสายเดี่ยวนี่เองแหละ ... ตัดกรรม ทำที่สุดแห่งทุกข์ให้ได้จริงๆ

ย้ำอีกครั้ง “ตัดกรรม” คือเดินตามมรรคาอันประเสริฐแห่งพุทธองค์

ตามที่กล่าวมาแล้ว ... มรรคมีองค์ ๘ หรือบางคนแบ่งแบบสิกขา ๓ (ไตรสิกขา) และถ้าผมเลือกเฟ้นมาเฉพาะ ปัญญาสิกขา ก็จะได้ มรรค มาเพียง ๒ องค์แรก คือ สัมมาทิฏฐิ และ สัมมาสังกัปโป นั่นเอง
สัมมาทิฏฐิ (Right View) หรือ ความเห็นชอบ (ตั้งเข็มทิศทางที่ถูกต้อง) ความเห็นชอบคือเห็นอริยสัจ ๔ อันมี “ทุกขสัจ” เป็นจุดตั้งต้น เมื่อเห็นชีวิตอยู่ในทะเลทุกข์ ทุกคนที่เห็นเช่นนี้ ก็อยากจะหาทางออกจากทุกข์ ในที่สุด

สัมมาสังกัปโป (Right Intention) หรือ ความดำริ/ ตั้งใจชอบ มรรคองค์นี้ ชาวพุทธเรา ส่วนใหญ่ได้แต่ท่องจำ ยังไม่ค่อย get นัก ตั้งใจชอบ ตั้งใจอะไร ตั้งใจไปเพื่ออะไร เป็นต้น ผมจึงอยากนำมาขยายความ

ก็ไม่รู้เป็นไง เมื่อผมนึกจะอธิบายเรื่อง “สัมมาสังกัปโป” ทีไร เป็นต้องนึกถึง “โสเครติส” ทุกที ... Socrates นักปรัชญาชาวเอเธนส์ผู้นี้ เกิดก่อนคริสตศักราช ๔๖๙ ปี เรียกได้ว่า คาบเกี่ยวพุทธกาล ช่วงที่พระพุทธเจ้าเรายังมีชีวิตอยู่ในวัยสนธยา มีเรื่องเล่าถึง วิธีการแปลกๆของแก เวลาจะรับลูกศิษย์ น่าสนใจอยู่เรื่องหนึ่ง

สมัยนั้นนักปรัชญาหัวแถวไม่มีใครดังเกินท่านโสเครติส ดังนั้น ผู้คนมากมายจึงอยากสมัครเป็นศิษย์กับแกโดยตรง แคนดิเดตมีมากมาย จนบางทีแกเองก็เซ็งเหมือนกัน ครั้งหนึ่งมีชายคนหนึ่งอยากสมัครเป็นศิษย์ ครั้นเมื่อเห็นโสเครติสเดินผ่านมา ก็ปรี่เข้าไปเสนอหน้าแจ้งเจตจำนงค์ทันที คุยไปเดินไปไม่ให้เสียเวลา ว่างั้นเถอะ

“เธออยากเป็นศิษย์ฉัน ก็จงเดินตามข้าฯมา”

หลังจากได้รับคำแนะนำจากว่าที่อาจารย์ ชายผู้นั้นก็เดินตามโสเครติสไม่ลดละ ไม่ว่าจะเดินผ่านตลาด ผ่านถนนใหญ่น้อย แกจะไปไหนไปด้วยหมด จนกระทั่ง เดินมาถึงริมฝั่งทะเลแห่งหนึ่ง โสเครติส ก็ยังไม่ยอมหยุด แม้จะสุดแผ่นดินแล้วก็ตาม แกค่อยๆ ย่ำเท้าต่อลงไปในทะเลเรื่อยๆ ต่อหน้าว่าที่ลูกศิษย์ที่หยุดชะงักอยู่ริมฝั่งด้วยความงงงวย จึงยังไม่เดินตามลงมา ผู้เป็นอาจารย์จึงหันหน้ามาตาม

“เอ้า ... รออะไรอยู่ ไฉนจึงไม่เดินตามข้าฯลงมา ไม่อยากเป็นศิษย์แล้วเหรอ?”

ชายผู้นั้น จึงได้สติรีบเดินลุยน้ำทะเล ตามผู้ที่ตนปรารถนาจะให้เป็นอาจารย์ลงไปอย่างรวดเร็ว กลัวว่า ถ้าช้าแล้วแกอาจเปลี่ยนใจ พอเดินไปจนน้ำทะเลลึกท่วมถึงครึ่งค่อนตัวทั้งคู่ โสเครติสหันมาหาศิษย์ กระทำสิ่งที่ไม่คาดคิด จับหัวศิษย์กดน้ำสุดแรง หวังจะไม่ให้ขึ้นมาหายใจได้เลย! ... แต่ศิษย์ก็พยายามดันทุรังสู้แรงอาจารย์ โผล่หัวขึ้นมาสูดอากาศได้เป็นครั้งคราว ผลุบๆ โผล่ๆ อย่างทุลักทุเล อยู่อย่างนั้น ๓-๔ ที โสเครติสจึงหยุดท่ามกลางความตกใจของผู้คนริมฝั่งที่มองเห็น แล้วศิษย์ก็หอบแฮกๆ สักพัก จึงได้โอกาสพูดโวยวาย ต่อว่าอาจารย์ด้วยความโกรธ

“ท่านทำแบบนี้กับข้าฯ ทำไมๆๆ ???”
โสเครติส ทำเย็นใจ ไม่ได้รู้สึกผิดแต่อย่างใด หนำซ้ำยังถามกลับไปว่า

“ตอนเจ้าอยู่ในน้ำ เจ้าตั้งใจนึกถึงอะไร?”
ชายหนุ่มงง ยอมสงบอารมณ์ลง แล้วคิด ...

“ข้าฯนึกถึงอากาศ ... ข้าอยากได้อากาศ ... ใช่แล้วข้าอยากได้อากาศ”

โสเครติสกล่าวอย่างสรุปโดยพลัน “ใช่แล้ว ... เมื่อเจ้าอยู่ในน้ำ เจ้าต้องการอากาศ แม้ข้าฯ ผู้เป็นอาจารย์ จะกดหัว ใช้สุดแรงยับยั้งไม่ให้เจ้าขึ้นมาสูดอากาศ เจ้ายังไม่ยอมจำนน ... เจ้ายังคงดื้อดึง แข็งขืน ยืนยันจะไขว่คว้าในสิ่งที่เจ้าต้องการ อย่างมิอาจมีใครมาห้ามปรามได้ ... เช่นนี้แล้ว เจ้ายังจำเป็นต้องมีอาจารย์อีกหรือ?” ปรากฏว่า ... ชายหนุ่มผู้นี้ บรรลุธรรมกลางทะเลนั้นเลยครับ นี่แหละครับ สัมมาสังกัปโป สไตล์โสเครติส

นี่กระมัง เป็นเหตุที่ท่านพุทธทาสภิกขุ เน้นย้ำ ให้เริ่มจากการทำความชัดเจนที่มรรคองค์ที่เป็นปัญญา ๒ องค์นี้ก่อน (ปัญญาสิกขา) โดย มรรคองค์ ๑ สัมมาทิฏฐิ; คือต้อง มองเห็นทิศทางที่ถูกต้อง Address The Right View ก่อน (อากาศ) แล้วจึงตามด้วย มรรคองค์ที่ ๒ สัมมาสังกัปโป; คือ มุ่งเจตจำนงค์ (Express for The Target) ตรงไปเพื่อจะบรรลุเป้าหมายในการสนับสนุนมรรคองค์ที่ ๑ (ยันหัวโผล่ขึ้นมาจากน้ำเพื่อสูดอากาศให้จนได้) อย่างจริงจัง ใครก็ห้ามไม่ได้ แล้วมรรคองค์ถัดๆไป ตั้งแต่ ๓, ๔, ... จนถึง ๘ จะตามมาเองโดยปริยาย

ฉันใดก็ฉันนั้น ... หากชาวพุทธเรา มีทิฏฐิที่ถูกต้องตามพุทธประสงค์ เป็นสัมมาทิฏฐิที่ชัดเจนหนักแน่นแล้วไซร้ สัมมาสังกัปโป ก็จะบังเกิดขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจของพวกท่านเองโดยไม่จำเป็นต้องมีคนมาคอยกระตุ้น หรือแม้จะมีใครห้ามปราม ก็มิอาจยับยั้งสังกัปโปท่านได้ นี่แหละ ... สัมมาสังกัปโป ของพวกเราชาวพุทธ

Pisut Kriangburapa
July 30, 2011


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2013, 14:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2011, 14:07
โพสต์: 278


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2014, 22:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


sirinpho เขียน:
ฉันใดก็ฉันนั้น ... หากชาวพุทธเรา มีทิฏฐิที่ถูกต้องตามพุทธประสงค์ เป็นสัมมาทิฏฐิที่ชัดเจนหนักแน่นแล้วไซร้ สัมมาสังกัปโป ก็จะบังเกิดขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจของพวกท่านเองโดยไม่จำเป็นต้องมีคนมาคอยกระตุ้น หรือแม้จะมีใครห้ามปราม ก็มิอาจยับยั้งสังกัปโปท่านได้ นี่แหละ ... สัมมาสังกัปโป ของพวกเราชาวพุทธ

Pisut Kriangburapa
July 30, 2011


:b44: (♡✿◕‿◕✿♡) กราบอนุโมทนาบุญกับท่านผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่าน ขอให้ทุกท่านมีดวงตาเห็นธรรม มีความสว่างทั้งทางโลกทางธรรม ท่านใดมีทุกข์ขอให้พ้นทุกข์ ท่านมีสุขขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครอง ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะเจ้าค่ะ (♡✿◕‿◕✿♡) :b8: :b8: :b8: :b20:

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 51 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร