วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 18:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2014, 15:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 มี.ค. 2011, 13:32
โพสต์: 245


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

เทศนาวันที่ 12 ก.พ. 2520


วันนี้เป็นโอกาสอันดีของพี่น้องทั้งหลาย ที่มาจากทั้งทางใกล้และทางไกล มาเคารพนบน้อมศพของท่านพระอาจารย์ฝั้น ซึ่งเป็นผู้มีอุปการคุณแก่โลกมามากมายก่ายกอง และเป็นเวลานาน เราท่านทั้งหลายที่เป็นพุทธบริษัท และได้นับถือท่านว่าเป็นครูเป็นอาจารย์ เมื่อทราบถึงการล่วงลับของท่าน ซึ่งเป็นธรรมดาของกฎอนิจจังที่มีอยู่กับทุกคน แล้วก็ได้อุตส่าห์สละจากบ้านจากเรือน หน้าที่การงาน แม้ที่สุดชีวิตก็ยอมสละ เพื่อมากราบไหว้บูชาคุณท่าน

ในเบื้องต้นก็ได้สวดบทธรรมหลายบทให้เราท่านทั้งหลายฟัง แต่การสวดบทธรรมนั้นท่านสวดเป็นบทบาลี จึงพอเข้าใจบ้างสำหรับท่านผู้เคยได้ศึกษาเล่าเรียนมา แต่จะไม่เข้าใจเป็นจำนวนมากว่าท่านหมายความว่าอย่างไรที่สวดเหล่านั้น หลังจากนั้นแล้ว เราท่านทั้งหลายก็จะได้ฟังธรรมที่เป็นเนื้อความแห่งภาษาเรา จะเรียกว่าจากบทบาลีก็ได้ เพราะบทบาลีก็เป็นธรรมที่มีเนื้อความอยู่ในตัวแล้ว แต่เราทั้งหลายแปลไม่ออก และสิ่งที่เราแปลไม่ออกนั้นก็มีอยู่กับเราทุกคน

ดังที่ท่านสวดในวันนี้ ล้วนแล้วตั้งแต่เรื่อง อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา ดังที่ท่านสวดอนัตตลักขณสูตร วันนี้ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เที่ยงหรือไม่เที่ยง

บรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายที่ฟัง ท่านก็ฟังด้วยความเต็มอกเต็มใจ ฟังเพื่อความรู้เหตุรู้ผลในสิ่งที่มีอยู่กับตนแต่ตนยังไม่รู้ อาศัยพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นผู้มีความฉลาดแหลมคมได้ทรงรู้ทรงเห็นมาแล้วในสิ่งที่มีอยู่กับตนนี้ ได้แสดงให้บรรดาพระสงฆ์เหล่านั้นฟัง จนพระสงฆ์เหล่านั้นได้รู้เห็นตามเป็นจริงในสิ่งทั้งหลาย ในบทสุดท้ายท่านว่า สมฺมปฺปญฺญาย ทฏฺฐพฺพํ คือ รู้ตามเป็นจริงของรูป ของเวทนา ของสัญญา ของสังขาร ของวิญญาณ ว่าเป็นสิ่งไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นตามความจริงของมัน ความยึดมั่นถือมั่น มีรากฐานอันลึกขนาดไหนก็ตาม เมื่อปัญญาได้หยั่งลงถึงความจริงแล้ว ย่อมปรากฏเป็นความจริงขึ้นมา ถอนตนออกมาจากที่หล่มลึก คำว่าหล่มลึก ก็คือความจมดิ่งแห่งความยึดมั่นถือมั่นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเราเป็นของเรา

เฉพาะอย่างยิ่งวันหนึ่งๆ ควรจะระลึกถึงความตายในตัวบ้างอย่างน้อย ๕ หนก็ยังดี จิตใจของเราจะได้มีการยับยั้งจากความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ความโลภก็จะไม่มากนัก ความโกรธก็จะไม่มากนัก ความหลงก็จะไม่มากนักเพราะมองเห็นป่าช้า

รูปภาพ


ที่มา : http://www.luangta.com/thamma/thamma_ta ... 57&CatID=2

.....................................................
"องค์ใดพระสัมพุทธ สุวิสุทธสันดาน ตัดมูลเกลศมาร บ มิหม่นมิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว ราคี บ พันพัว สุวคนธกำจร"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2014, 11:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอโมทนาสาธุค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2014, 21:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


:b44: กราบอนุโมทนาบุญกับผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านนะเจ้าค่ะ มีดวงตาเห็นธรรม มีความสว่างทั้งทางโลกและทางธรรม มีความสุขความเจริญ และอยู่เย็นเป็นสุขนะเจ้าค่ะ :b8: :b8: :b8: :b20:

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 78 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร