ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
พระมหาโมคคัลลานะ สอนหญิงโสเภณีที่มายั่วยวน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=45742 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 01 ก.ค. 2013, 18:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | พระมหาโมคคัลลานะ สอนหญิงโสเภณีที่มายั่วยวน |
![]() ![]() พระมหาโมคคัลลานะ สอนหญิงโสเภณีที่มายั่วยวน ...จนบรรลุเป็นพระอรหันต์ (พระวิมลาภิกษุณี) ![]() ![]() ![]() วันหนึ่ง “พระมหาโมคคัลลานะ” ออกรับบิณฑบาตอยู่ในเมืองเวสาลี มีหญิงสาวโสเภณีนางหนึ่งหน้าตางดงาม เธอชื่อ “วิมลา” เมื่อเห็นพระโมคคัลลานะแล้วจิตเกิดปฏิพัทธ์ จึงเดินติดตามพระเถระไปถึงที่อยู่ เมื่อเห็นพระเถระอยู่รูปเดียว จึงได้โอกาสเข้าไปพูดจาและแสดงท่าทางอาการยั่วยวน พระเถระไม่หวั่นไหวและรู้ทันความประสงค์ จึงกล่าวเตือนหญิงโสเภณีวิมลาจนเธอได้สติว่า... “...กระท่อม ก็คือร่างกาย มีกระดูกเป็นโครงสร้าง อันฉาบทาด้วยเนื้อ ร้อยรัดด้วยเส้นเอ็น เต็มไปด้วยของไม่สะอาด มีกลิ่นเหม็น น่าเกลียด คนทั่วไปพากันยึดถือ แต่สำหรับอาตมาเป็นของน่ารังเกียจ ร่างกายของเธอไม่ต่างอะไรกับถุงใส่อุจจาระ มีหนังหุ้มห่อปกปิดไว้เหมือนนางปีศาจ มีผื่นขึ้นที่หน้าอก มีช่อง ๙ ช่องให้สิ่งสกปรกไหลออกอยู่เป็นนิตย์ ภิกษุอย่างอาตมาย่อมไม่เหลียวแลร่างกายเธอ เหมือนชายหนุ่มผู้รักความสะอาดย่อมหลบหลีกอุจจาระปัสสาวะเสียให้ไกล สำหรับคนทั่วไป หากเขาได้เข้าใจร่างกายของเธออย่างที่อาตมาเข้าใจ ต่างก็จะพากันหลีกไกล คล้ายชายหนุ่มผู้รักความสะอาดเห็นหลุมอุจจาระที่ฝนตกใส่ ย่อมหลบหลีกเสียไกล อากาศ คือ ความว่างเปล่า ใครก็ตามที่หวังจะเอาขมิ้นหรือน้ำย้อมอย่างอื่นไปย้อมอากาศ ย่อมเหนื่อยเปล่า จิตของอาตมาว่างเปล่าเหมือนกับอากาศ มั่นคงอยู่ภายในฉะนั้น เธออย่ามาหวังความรักจากจิตที่ว่างเปล่านี้เลย เพราะจะพบแต่ความปวดร้าวเช่นเดียวกับแมลงบินเข้ากองไฟ...” เมื่อนางวิมลาได้ฟังพระมหาโมคคัลลานะตำหนิแล้ว ก็เกิดสังเวชใจละอายและกลัวบาป ในขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาหาเหตุผลตามที่พระเถระกล่าว ก็ทำให้เกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เธอจึงประกาศตนเป็นอุบาสิกาเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ทั้งเลิกประกอบอาชีพโสเภณีนับตั้งแต่นั้นมา ต่อมา เมื่อนางวิมลาอายุย่างเข้าใกล้วัยชรา เธอก็ได้สละทรัพย์สมบัติทั้งหมดแล้วออกบวชเป็นพระภิกษุณี ไม่นานเธอก็บรรลุเป็นพระอรหันต์รูปหนึ่งในบวรพระพุทธศาสนา วันหนึ่ง “พระวิมลาภิกษุณี” ได้มานั่งปฏิบัติธรรมที่โคนต้นไม้ ท่านได้บรรลุทุติยฌาน ท่านอาศัยทุติยฌานนั้นเองเป็นฐานเจริญวิปัสสนาจนกระทั่งได้บรรลุอรหัตผล หลังจากพระเถรีท่านบรรลุอรหัตผลแล้ว ได้พิจารณาดูข้อปฏิบัติของตนแล้วกล่าวถ้อยคำแสดงความรู้สึกว่า “...เมื่อก่อนเรามัวเมาอยู่กับชื่อเสียง รูปร่าง ความงาม และบริวาร เราเองเคยหยิ่งทะนงอยู่กับความสาว จึงได้ดูถูกหญิงอื่นทั้งหมด เมื่อก่อนเราตกแต่งร่างกายนี้ให้สวยงาม ด้วยการเสริมสวยต่างๆ เช่น ย้อมผิว ประทินผิวด้วยเครื่องหอมต่างๆ และเกล้าผม เป็นต้น อันทำให้เหล่าคนโง่พร่ำเพ้อหา ครั้นแล้วก็มายืนดักผู้ชายอยู่ที่ประตูสำนักหญิงแพศยา เช่นเดียวกับนายพรานดักบ่วงล่อเนื้อฉะนั้น ณ ที่นั้น เราทำให้พวกผู้ชายได้เห็นเครื่องประดับทั้งหลายทั้งในที่ลับและในที่เปิดเผย ได้แสดงมายาเย้ายวนต่างๆ เชิญชวนชายให้ยินดีในกาม แต่มาวันนี้ เรากลับโกนศีรษะ ครองผ้าเย็บซ้อนกันเดินบิณฑบาต แล้วมานั่งเข้าณานที่ไม่มีวิตกอยู่โคนต้นไม้ บัดนี้กิเลสเครื่องผูกรัดทั้งของทิพย์และของมนุษย์ เราละได้เด็ดขาดหมดแล้ว เราขจัดกิเลสที่หมักหมมได้หมดจึงสงบเย็น” ----------- ![]() พร้อมทั้งขอน้อมกราบบูชาสักการะพระวิมลาภิกษุณี ที่ยินดีในธรรม ไม่พึงโกรธในคำตำหนิ แต่น้อมนำธรรมนั้นมาพิจารณาตาม และองค์ท่านเป็นแบบอย่างให้อิสตรีได้รู้ว่าผู้หญิงก็สามารถบรรลุธรรมได้ ----------- ![]() ![]() http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7531 ![]() http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=29565 ![]() http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=48213 |
เจ้าของ: | วิริยะ [ 02 ก.ค. 2013, 06:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระมหาโมคคัลลานะ สอนหญิงโสเภณีที่มายั่วยวน |
เมื่อหลวงปู่มั่น พาลูกศิษย์ไปบิณฑบาตตอนเช้า ลูกศิษย์องค์หนึ่ง เผลอตัว เห็นหญิงสาวที่มาใส่บาตรคิดขึ้นในใจว่า "งามหลาย" ท่านจึงพูดเปรย ๆ ว่า "ประสา หนังห่อขี้" .. ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |