วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 18:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 81 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2013, 21:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รักตัวเองก่อน

จะว่าไปแล้ว คนที่มีความสุขนี่คือ คนฉลาดนะ
คนฉลาดเท่านั้นจึงจะหาความสุขได้
คนทั่วไปยังไม่เข้าใจจุดหนึ่งว่า
ความสุขจะเกิดขึ้นได้นั้น
เราต้อง "รักตัวเราก่อน"
ไม่ใช่เป็นการเห็นแก่ตัว แต่เป็นการรักตัวเรา
ทุกวันนี้เรารักตัวเองกันรึเปล่า ?
ถ้าเรารักตัวเองเป็น เราจะไม่ใช้กายเราไปเบียดเบียนใคร
เพราะตัวเราก็เป็นที่รัก ตัวเขาก็เป็นที่รัก
เราจะเบียดเบียนกันทำไม
การเบียดเบียนเกิดจากเราไม่ได้รักตัวเอง
เพราะความรักเกิดขึ้นที่ไหน ?
เกิดขึ้นที่ใจ ใจอยู่ที่ไหน ? อยู่ที่ตัวเรา
เราคิดเบียดเบียนเขา
ก็เท่ากับเบียดเบียนใจเรานี่เอง

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2013, 08:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ที่พึ่งภายใน

การแสวงหาความสุข-สงบ-เย็นภายใน
ถือเป็นความสุขที่แท้จริง
มันเกิดจาก "จิต-ที่-ไม่-เป็นทุกข์" นั่นแหละ
ฉะนั้น เรื่องการแสวงหาความสุขนี่
ไม่ต้องไปแสวงหาไกลตัวเลย
เพียงแต่ลดปริมาณความทุกข์ในจิตใจเราลง
ความสุขก็จะมาแทนที่

"การเจริญสติ" นี่แหละ เป็น "ธรรมะโอสถ"
ที่ช่วยเยียวยาชีวิตเราให้เข้าสู่ภาวะปกติ
เป็นการสร้างที่พึ่งที่พึ่งได้จริงๆ
เท่ากับเป็นการเปลี่ยนชีวิตใหม่
จากเลวร้ายให้กลับมาเป็นดีได้



ร้อยรู้หมื่นรู้ ไม่สู้หนึ่งทำ

เป็นคำเปรียบที่ท้าทายให้เราอยากจะทำ
การงานใดๆ ก็ตามถ้าเราต้องการ
จะให้งานนั้นประสบผลสำเร็จ
ต้องมีการกระทำขึ้นมา เป็นการสร้างเหตุ
คิดรู้สักเท่าไร ถ้าไม่ลงมือกระทำ
งานนั้นก็ไม่มีวันประสบผลสำเร็จไปได้

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2013, 08:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รู้สึกตัว...อนัตตาแห่งธรรม

การทำความรู้สึกตัว
ถือเป็น "มรรค" ส่วนตัว
ไม่ต้องไปสนในสิ่งอื่นหรอก
ยิ่งมองออกนอกตัว
ยิ่งพลัดไปสู่ "ความหลง" ได้ง่าย

ใครที่สนใจเรื่องดับทุกข์
แค่มาสนใจตัวเรานี่แหละ
สติ คือ ความรู้สึก
ตัว คือ กาย คือ จิต


มันไม่ไปไกลกว่าสองสิ่งนี่หรอก
เมื่อมีการเคลื่อนไหวของกาย เราก็รู้สึก
จะเดิน-ก็รู้สึก นั่ง-ก็รู้สึก นอน-ก็รู้สึก
จะเคลื่อนไหวทำอะไรก็ตาม
เพียง "เติม-ความรู้สึกตัว-เข้าไป"
ไม่มีอะไรมาก เมื่อเรารู้สึกตัวไปเรื่อยๆ
จิตเราจะผ่อนคลาย เพราะหมดการปรุงแต่ง
มันจะเห็นสิ่งแปลกปลอมที่เกิดขึ้นกับจิต
(ความคิด อารมณ์ต่าง) และจะจัดการกับสิ่งผ่านมา
โดยการปล่อยให้สิ่งนั้นผ่านไป โดยไม่ได้ทำอะไร
เป็นเพียงการเกิดขึ้นและดับไปเอง เป็นการเห็นว่า
ไม่มีตัวตนอยู่จริง นี่คือ อานุภาพของการรู้สึกตัวล้วนๆ

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2013, 14:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ที่เนื้อที่ตัว

ผู้ฉลาดในการใช้ชีวิต
อย่าไปรอให้โอกาสมันมาหาเรา
เราต้องพาตัวเราไปหาโอกาส
การปฏิบัติต้องพึ่งตัวเรา
จะไปหาอาจารย์ท่านใดก็ตาม
ท่านก็ชี้มาที่ตัวเรา
จะไปปฏิบัติธรรมที่ไหนก็ตาม
ก็ต้องปฏิบัติที่ตัวเรา
เพราะธรรมะอยู่ที่ตัวเรา

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 เม.ย. 2013, 17:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


สุคะโต

การปฏิบัติธรรมนี่ จะเป็นสมถหรือวิปัสสนากรรมฐาน
ขณะปฏิบัติ เราไม่ต้องไปแบ่งแยกหรอก
มีประโยชน์ทั้งคู่ แยกกันไม่ออกหรอก
เหมือนอย่างกับไม้ท่อนหนึ่ง มีทั้งทางโคนและทางปลาย
อาหารที่เรารับประทานเข้าไปกับอุจจาระที่ออกมา
มันก็ไม่ต่างกัน เป็นเรื่องเดียวกัน
ขวานหนึ่งด้าม ทางสันใช้ตอก ทางคมใช้ถาก ให้ประโยชน์ได้ทั้งนั้น
บางครั้งเราก็ต้องการให้จิตสงบ เพื่อเป็นการพักจิตพักใจ เป็นสมาธิ
แต่บางครั้งมันก็หลงคิดนึกปรุงแต่งฟุ้งซ่าน
เราก็ต้องใช้ "สติ" ดูการปรุงแต่งแล้วปล่อยวาง
เราอาศัยทั้งสองอย่าง ปฏิบัติควบคู่กันไปเลย โดยไม่แบ่งแยก
ในชีวิตประจำวัน เราควรจะมีเรื่องของกรรมฐานเข้ามาเกี่ยวข้อง
จะเป็นบุญเป็นกุศล จะทำอะไรอยู่ก็ตาม จะนั่ง นอน ยืน เดิน ให้เรารู้ตัว
มีสติจดจ่ออยู่กับการทำงาน เป็นสมาธิ จิตใจไม่เลื่อนลอย
เมื่อมันเกิดความคิด หงุดหงิด ชอบใจ-ไม่ชอบใจ เราก็ "รู้เท่าทันความคิด"
เป็นการปฏิบัติอยู่กับการทำงาน ไม่ต้องไปไหน อยู่กับตัวเรานี่เอง
พอนานวันเข้า มันเป็นอุปนิสัย จิตมันก็จะ "เต็ม" ของมันเอง
นำไปสู่ความเป็น "สุคะโต" คือ ผู้ที่ไปแล้วด้วยดี


:b8: fb.วัดป่าสุคะโต. ธรรมชาติที่พักใจ
https://www.facebook.com/surinrukid

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2016, 07:12 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 81 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร