ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ตัณหาไม่มีคำว่าแม่หรือลูก
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=41852
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  wincha [ 22 เม.ย. 2012, 02:34 ]
หัวข้อกระทู้:  ตัณหาไม่มีคำว่าแม่หรือลูก

ตัณหาไม่มีคำว่าแม่หรือลูก

พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสาวัตถี มีมารดาและบุตร ๒ คน มารดาเป็นภิกษุณี ลูกชายเป็นภิกษุทั้งสองใกล้ชิดกัน คลุกคลีกันอยากเห็นกันเนืองๆ เมื่อเห็นกันเนืองๆจึงเกิดราคะแล้วเสพเมถุนกัน พระพุทธองค์ทรงทราบจึงตรัสว่า

ภิกษุทั้งหลาย โฆษบุรุษนั้นคิดหรือว่า มารดาจะไม่กำหนัดในบุตร หรือบุตรจะไม่กำหนัดในมารดา

ภิกษุทั้งหลาย เรามองไม่เห็นรูปอย่างอื่น แม้รูปเดียวซึ่งจะเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด รักใคร่ มัวเมา และทำอันตรายแก่การบรรลุธรรมอันยอดเยี่ยม เหมือนรูปแห่งหญิงเลย

สัตว์ทั้งหลายกำหนัด ยินดี ใฝ่ใจ หมกมุ่น พัวพัน ในรูปหญิง เป็นผู้ตกอยู่ใต้อำนาจรูปหญิง ย่อมเศร้าโศกตลอดกาลนาน

ภิกษุทั้งหลาย หญิงเดินอยู่ก็ดี ยืน นั่ง นอน นอนหลับ หัวเราะ พูด ขับร้อง ร้องไห้ บวมขึ้น ตายแล้วก็ดี ย่อมครอบงำจิตของบุรุษได้

ภิกษุทั้งหลาย บุคคลเมื่อจะกล่าวสิ่งใดๆ พึงกล่าวโดยชอบว่าบ่วงรวบรัดแห่งมาร ก็พึงกล่าวมาตุคามนั่นแหละว่าเป็นบ่วงแห่งมารโดยชอบได้

บุคคลพึงสนทนาด้วยเพชฌฆาตก็ดี ด้วยปีศาจก็ดี พึงถูกต้องอสรพิษที่กัดตายก็ดี ก็ยังไม่ร้ายแรงเหมือนสนทนาตัวต่อตัวด้วยหญิงเลย พวกหญิงชอบผูกพันชายผู้ลุ่มหลงด้วยการมองดู การหัวเราะ การนุ่งห่มลับล่อ และการพูดจาอ่อนหวาน หญิงมิใช่ผูกพันชายเพียงเท่านี้ แม้บวมขึ้น ตายไปแล้วก็ยังผูกพันชายได้

กามคุณ ๕ นี้ คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ย่อมปรากฏในหญิง ผู้ไม่กำหนดรู้กาม ย่อมเกิดในภพน้อยใหญ่ ส่วนผู้กำหนดรู้กาม ไม่มีภัยแต่ที่ไหนๆ ย่อมข้ามฝั่งสงสารได้

มาตุปุตติกสูตร ๒๒/๖๘

ที่มาhttp://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16196

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/