ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
พึงเว้นจากความเท็จทั้งปวง http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=39903 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Hanako [ 18 ต.ค. 2011, 19:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | พึงเว้นจากความเท็จทั้งปวง |
![]() บางคนทำดีเหมือนปิดทองหลังพระ บางคนทำดีแบบผักชีโรยหน้า เรื่องต่อไปนี้เป็นอุทาหรณ์สอนคติธรรมได้อย่างดี คราวหนึ่ง พระมหากัสสปเถระ อยู่ที่กุฎีในป่าเขตเมืองราชคฤห์ ครั้งนั้น ภิกษุหนุ่มสองรูปเป็นอุปฐาก (ผู้ปฏิบัติ) แก่พระเถระ ในภิกษุสองรูปนั้น รูปหนึ่ง เป็นผู้ว่าง่าย ซื่อตรง สุจริตใจ ตั้งใจปฏิบัติพระเถระด้วยดี อีกรูป ว่ายาก คดโกง ทำดีเอาหน้า อย่างเช่น เมื่อภิกษุผู้ซื่อตรงวางน้ำใช้น้ำฉันไว้ให้พระเถระเสร็จแล้ว ภิกษุผู้ว่ายากก็จะเข้าไปเรียนนิมนต์พระเถระว่า น้ำบ้วนปาก น้ำล้างหน้า ได้ตั้งไว้ให้เสร็จแล้ว เป็นต้น เมื่อภิกษุผู้ว่าง่ายลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ ปัดกวาดเสนาสนะเรียบร้อย พอพระเถระจวนจะออกจากห้อง ภิกษุผู้ว่ายากก็จะทำทีฉวยนั่นนี่ประหนึ่งตนเพิ่งทำกิจการงานเสร็จฉันนั้น เหตุการณ์ได้เป็นไปแบบนี้เสมอจนภิกษุผู้ว่าง่ายเอือมระอา อยากจะสอนภิกษุอีกรูปให้รู้บ้างว่ากิริยาเช่นนั้นเลวทรามเพียงใด และประสงค์ให้อาการหลอกลวงของเธอได้ปรากฏต่อพระเถระเสียที ![]() พระมหากัสสปเถระ เอตทัคคะในทางผู้ทรงธุดงค์ อ่านประวัติและศึกษาปฏิปทาของท่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7539 http://www.dharma-gateway.com/monk/grea ... assapa.htm http://www.84000.org/one/1/18.html ครั้นวันหนึ่งเมื่อจวนได้เวลาอาบน้ำของพระเถระ ภิกษุผู้มีวัตรดีได้ต้มน้ำจนเสร็จแล้วนำไปซ่อน และตั้งน้ำใหม่ประมาณครึ่งกระบวยไว้บนเตา ภิกษุผู้ว่ายากเห็นน้ำเดือดมีไอพุ่งก็รีบไปเรียนพระเถระ นิมนต์ท่านมาสรงน้ำ กราบเรียนว่าตนได้เตรียมน้ำไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เมื่อพระมหากัสสปะมาถึง ท่านจะสรงน้ำแต่ไม่เห็นน้ำ เนื่องจากภาชนะนั้นมีน้ำติดอยู่เพียงก้นภาชนะเท่านั้น ภิกษุผู้ว่ายากได้แต่อ้ำอึ้ง ส่วนภิกษุผู้มีวัตรดี ได้นำน้ำที่ซ่อนไว้มาผสมให้พระเถระอาบ ในเวลาเย็น พระเถระให้โอวาทภิกษุผู้ว่ายากนั้นเพื่อเตือนสติว่า “ธรรมดา...สมณะควรเป็นคนพูดจริง ไม่ควรพูดว่าทำในสิ่งที่ตนไม่ได้ทำ ไม่ควรพูดว่ารู้ในสิ่งที่ตนไม่รู้ การพูดเท็จทั้งๆ ที่รู้ (สัมปชานมุสาวาท) เป็นความต่ำทรามของสมณะ เป็นกรรมอันลามกของสมณะ เพราะฉะนั้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เํธอจงอย่าทำอย่างที่เคยทำมาแล้วอีก” ภิกษุผู้ว่ายากผูกโกรธพระเถระ รุ่งขึ้นไม่ยอมไปบิณฑบาตกับพระเถระ ซ้ำยังไปสู่ตระกูลที่อุปฐากพระกัสสปเถระอีก โดยบอกแก่ตระกูลนั้นว่า ที่ตนมาเพียงรูปเดียวนั้นเพราะพระเถระไม่สบาย แล้วได้อาหารชั้นเลิศมาจำนวนมาก แต่ความจริงหาได้นำไปถวายพระเถระไม่ เมื่อพระเถระทราบความเรื่องนี้ก็ได้กล่าวเตือนภิกษุผู้นั้นว่า “เธอประพฤติอนาจารเห็นปานนี้ย่อมไม่ควร เธอขอของฉัน (ภัตตาหาร) จากสกุลนู้น บอกว่าเพื่อเราผู้ไม่สบาย ทั้งที่เธอขอมาเพื่อขบฉันเอง เป็นการหลอกลวงเลี้ยงชีพ ไม่สมควรแก่สมณะ เธออย่าประพฤติอนาจารเช่นนี้อีก” ภิกษุนั้นผูกโกรธพระเถระอย่างยิ่ง รุ่งเช้าเมื่อพระเถระออกบิณฑบาต ภิกษุผู้นั้นได้เอาฆ้อนทุบภาชนะต่างๆ จนสิ้น จุดไฟเผากุฎีแล้วหนีไป ภิกษุนั้นมีชีวิตอย่างเปรต ผ่ายผอมซีดเซียว ทำกาลกิริยา (ตาย) แล้วไปสู่อเวจีมหานรก ต่อมา ภายหลังเรื่องนี้ได้ทราบถึงพระศาสดา โดยภิกษุพวกหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์ของพระมหากัสสปะเป็นผู้เล่าถวาย พระศาสดาตรัสว่า “การเที่ยวไปผู้เดียวของกัสสปะ ประเสริฐกว่าการสมาคมด้วยคนพาลเช่นภิกษุนั้น เพราะคุณความเป็นสหาย...ไม่มีในคนพาล” การเกี่ยวข้องด้วยคนพาลแม้พูดดีด้วย เขาก็โกรธ ดังเช่นที่พระมหากัสสปเถระท่านสั่งสอนด้วยดี แต่ภิกษุนั้นก็ผูกโกรธท่าน และมีพุทธดำรัสเรื่องการพูดเท็จไว้ว่า “คนที่มีปกติพูดเท็จ...จะไม่ทำบาปเป็นไม่มี” ดังนั้น จึงจำเป็นต้องละความเท็จทั้งปวง วาจาเท็จนั้นเข้าใจกันแล้วโดยมาก แต่เท็จทางกาย คือการมีกิริยาหลอกลวงนั้น ต้องตริตรองให้มาก ![]() ![]() ![]() เรียบเรียงจาก...นิตยสารศุภมิตร ปีที่ ๕๑ ฉบับที่ ๕๕๕ เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ หน้า ๙๒-๙๕. |
เจ้าของ: | กล่องธรรม [ 21 ต.ค. 2011, 20:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พึงเว้นจากความเท็จทั้งปวง |
Hanako เขียน: การพูดเท็จทั้งๆ ที่รู้ (สัมปชานมุสาวาท) เป็นความต่ำทราม เป็นกรรมอันลามกของสมณะ “การเที่ยวไปผู้เดียวของกัสสปะ ประเสริฐกว่าการสมาคมด้วยคนพาล เพราะคุณความเป็นสหาย...ไม่มีในคนพาล” “คนที่มีปกติพูดเท็จ...จะไม่ทำบาปเป็นไม่มี” อนุโมทนาครับ พุทธองค์ทรงตรัส ชัดเจน ลึกซึ้น กินใจ คำพูดเพียงนิด แต่ความหมายกว้างและครอบคลุม ยินดีที่ได้ร่วมสนทนาครับ ธรรมประสิทธ์และเจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 21 ต.ค. 2011, 21:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พึงเว้นจากความเท็จทั้งปวง |
" พึงควบคุม ความคนองทางวาจา พึงสำรวมคำพูด พึงละวจีทุจริต ประพฤติวจีสุจริต " " คนที่พูดเท็จเสมอ กับคนที่ทำแล้ว พูดว่า “ฉันไม่ได้ทำ” ตกนรกเหมือนกัน มนุษย์สองจำพวกนั้น ตายไปแล้ว มีกรรมชั่วเหมือนกัน ในโลกหน้า " ![]() ![]() ![]() ที่มา http://www.ruendham.com/book_detail.php ... ey_run=504 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |