ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
นักปฏิบัติที่แท้จริงเขาไม่หวังผลพรุ่งนี้ พระพุทธเจ้าองค์ปฐม http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=39554 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | สัจจานุรักษ์ [ 16 ก.ย. 2011, 17:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | นักปฏิบัติที่แท้จริงเขาไม่หวังผลพรุ่งนี้ พระพุทธเจ้าองค์ปฐม |
นักปฏิบัติที่แท้จริงเขาไม่หวังผลพรุ่งนี้ เขาเอามรรคเอาผลกันที่ขณะจิตนี้ พระพุทธเจ้าองค์ปฐม ........................................ ที่ผมขึ้นหัวข้อไว้ว่า “นักปฏิบัติที่แท้จริงเขาไม่หวังผลพรุ่งนี้ เขาเอามรรคเอาผลกันที่ขณะจิตนี้” เป็นพระเมตตาของพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ที่ทรงกล่าวสอนไว้อย่างน่าฟังและควรพิจารณาทำตามเป็นอย่างยิ่ง และอีกเรื่องในตอนนี้คือเรื่อง “อารมณ์จิตของคนเรามันไวยิ่งกว่าลิง” ตอนนี้องค์ที่เมตตาสอนคือหลวงปู่บุดดารายละเอียดเป็นอย่างไรลองอ่านนะครับ พระธรรมในชุดนี้ผมนำมาจากหนังสือธรรมนำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๕ เดือนมิถุนายน ๒๕๓๖ ตอน ๑ รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่ทุกๆท่านครับ ............................................... เรื่องอารมณ์จิตของคนเรามันไวยิ่งกว่าลิง ที่มาของพระธรรมเรื่องนี้มีความสำคัญโดยย่อ ๆ ดังนี้ เพื่อนผู้ปฏิบัติธรรมของผม ๒ ท่าน สมมุติชื่อเธอ จอ กับ มอ ท่านมาร่วมสนทนาธรรมกับผม แล้วผมสังเกตดูความสามารถของเธอทั้งสองต่างกัน มีความดีก็ต่างกัน ตามจริตนิสัยและกรรมที่สะสมกันมาในอดีตชาติ โดยย่อดังนี้ ๑. จอ มีสมถะภาวนาดี เข้มแข็งแต่วิปัสสนาภาวนาอ่อน มีผลทำให้เมื่อถูกกระทบโดยอายตนะสัมผัสภายนอก (รูป - เสียง - กลิ่น - รส - สัมผัส และธรรมารมณ์) มากระทบกับอายตนะสัมผัสภายใน (ตา - หู - จมูก - ลิ้น - กายและใจ) แล้วมักจะหวั่นไหวไม่มั่นคง จึงทำให้เกิดอารมณ์ ๒ (พอใจกับไม่พอใจ หรือราคะกับปฏิฆะ) ง่าย หรือเป็นอยู่เกือบปกติธรรมดา ๒. มอ สมถะภาวนาก็ดี แต่ยังสู้ จอ ไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญ คือ วิปัสสนาภาวนา ซึ่งสามารถใช้ตัดกิเลสให้ตายได้ ท่านดีกว่าจอมาก (ตัวสมถะภาวนาไม่สามารถจะฆ่ากิเลสได้ ได้แค่ระงับกิเลสไว้ชั่วคราวเท่านั้น) ๓. จากเหตุผลในข้อ ๒ ทำให้ มอ หวั่นไหวต่ออายตนะสัมผัสที่เข้ามากระทบใจเธอมีน้อย เพราะกำลังของวิปัสสนามีมาก เธอจึงจับทุกสิ่งที่กระทบมาพิจารณาเป็นวิปัสสนาได้ เมื่อเธอมีปัญญาบารมีดีกว่า จึงทำให้สัจจะบารมีของเธอเข้มแข็งมาก ตั้งใจจะทำสิ่งใด เธอก็ไม่พลาดในสิ่งที่เธอตั้งใจไว้ ๔. มอ ใช้อริยสัจเป็นหลักสำคัญในการแก้ปัญหา หรืออุปสรรคใด ๆ ที่เข้ามากระทบอารมณ์ของเธอ (กรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ) ๕. มอ ตื่นเช้าขึ้นมาก็ใช้บารมี ๑๐ ให้เกิดประโยชน์แก่เธอ โดยใช้อธิษฐานบารมีว่า จะทำทุกอย่างเพื่อพระนิพพานจุดเดียว เป็นต้น ๖. มอ ใช้วิปัสสนาญาณ ๙ ข้อที่ ๑ - ๔ อยู่เป็นปกติ คือ ขั้น ๑ มองทุกสิ่งในโลกล้วนไม่เที่ยง เพราะตกอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์ ขั้น ๒ มองทุกสิ่งในโลกนี้ที่สุดพังหมดไม่มีอะไรเหลือ ขั้น ๓ มองหาทุกข์จากความไม่เที่ยง ทั้งโลกภายนอกและโลกภายใน คือ ขันธโลก หรือขันธ์ ๕ ที่จิตเธออาศัยอยู่ชั่วคราว ขั้นที่ ๔ พิจารณาถึงภัยอันเกิดจากกฎของกรรม ซึ่งตามมาให้ผลกับร่างกายที่จิตเธออาศัยอยู่ ซึ่งไม่มีใครจะหนีภัยตัวนี้พ้นได้ เพราะกฎของกรรมนั้นเที่ยงเสมอ และให้ผลไม่ผิดตัวด้วย เป็นต้น ๗. ทั้ง จอ และ มอ พูดถึงหลวงปู่บุดดา มอ ว่าหลวงปู่ท่านเมตตาให้เห็นจิตของท่านซึ่งใสเป็นแก้ว ข้างในมีลิงตัวเล็ก ๆ สีขาว แต่ใสเป็นแก้วนั่งอยู่ ลิงขยับหน้าตาแบบลิงอยู่ข้าง ใน น่ารักมาก เมื่อสนทนากันมาถึงจุดนี้ หลวงปู่บุดดา ท่านก็เมตตามาสอน จอ ว่า ๑. ข้าก็ให้มันเห็นว่า อารมณ์จิตของคนเรามันไวยิ่งกว่าลิง ปุถุชนตามจับลิงไม่ทัน บัดเดี๋ยวส่งออกนอกจิตไปโน่นไปนี่ ทั้งวันทั้งปีไม่รู้เรื่อง มันออกไปตีกับชาวบ้าน กับวัตถุสิ่งของ กับสัตว์ต่าง ๆ อยู่เรื่อย ลิงมันไปไว เพราะ ราคะ - โทสะ - โมหะ มันเข้ามาจูงจมูก ทางอายตนะทั้ง ๖ ไปมีเรื่องกับเขาทั้งปี ทั้งชาติ แต่อย่างพระอริยเจ้าเขาอบรมลิง จับลิงมาขังไว้ในจิตได้ตามลำดับ จนในที่สุด ถ้าจิตใสเป็นแก้วอย่างข้านี้ ลิงมันก็เคลื่อนไหวได้ คือมีอารมณ์รับรู้ธรรมภายนอกที่มากระทบ ๒. เอ็งอย่าว่าพระอรหันต์ไม่มีอารมณ์ไม่ได้นา รู้แต่รู้อยู่ในจิต ลิงมันรับรู้ แต่ไม่มีกำลังวิ่งออกไปเต้นอยู่นอกจิต มันจะรับรู้อย่างสงบอยู่ในจิต อายตนะ ๖ ยังคงมีวิญญาณสัมผัส รายงานมาให้ทราบตามปกติ รูปสวย-รูปไม่สวย เสียงเพราะ - ไม่เพราะ กลิ่นหอม - ไม่หอม รสอร่อย - ไม่อร่อย กายสัมผัสดี - ไม่ดีรู้หมด ไม่ใช่ไม่รู้ มันรู้ดีเสียด้วยซิ ตาเห็นรูป เห็นตามปกติ เพราะตาท่านไม่บอด หูไม่หนวก จมูกไม่ตัน ลิ้นไม่พิการ ร่างกายก็ปกติ รู้เท่าที่อายตนะสัมผัสยังดีอยู่ รู้ตามกำลังของอายตนะนั้น และรู้ด้วยจิตหมดอุปาทาน หมดไฟราคะ-โทสะ-โมหะปรุงแต่ง ลิงหรืออารมณ์ของจิตมันก็หลอกเราไม่ได้ จึงออกไปอาละวาดไม่ได้ หมดเรื่องพอดี ๆ (จอคิด อยากมีอารมณ์หมดเรื่องพอดีอย่างหลวงปู่บ้าง) ๓. ก็เอ็งก้มหน้าก้มตาขังลิงเข้าไว้ซิ อย่าปล่อยให้มันถูกจูงจมูกเพ่นพ่านออกไปข้างนอกจิตให้มากนัก ขยันตามจับมันกลับมาให้บ่อย ๆ อย่าปล่อยให้ลิงมันวิ่งไปตามไฟราคะ - โทสะ - โมหะให้มากนัก ถ้ามันดื้อก็ลงแส้ ลงศอกเข้ากับมันให้บ้าง หนัก ๆ เข้ามันก็จะหมดฤทธิ์ วิ่งช้าลง ๆ ตามลำดับ อย่าขี้เกียจตามลิง สักวันหนึ่ง ถ้าเอ็งไม่ทิ้งความเพียร เอ็งก็จะจับลิงขังไว้ในจิตได้อย่างข้านี่แหละ เรื่องประมาทในความตายเสียอย่างเดียว เท่ากับประมาทในธรรมทุกอย่าง ในคืนวันนั้น สมเด็จองค์ปฐม ทรงพระเมตตามาสอน จอ มีความสำคัญดังนี้ ๑. เจ้าดูตัวอย่างความเพียรของ มอ ไว้ให้ดี จงหมั่นคำนึงถึงอารมณ์อันเด็ดเดี่ยวของเพื่อนร่วมเส้นทางของพระโยคาวจรของเธอเอาไว้ เพื่อให้เกิดหิริ-โอตตัปปะขึ้นในจิต ละอายในความชั่ว ความขี้เกียจคือความชั่ว การทำจิตให้ไม่มีกำลังคือความชั่ว จึงพึงละความชั่วนี้ให้ออกไปจากจิต มีความละอายที่พระท่านช่วยสงเคราะห์มากมาย ๒. เจ้ายังทำอารมณ์ใจได้ไม่เท่าเขา จึงเท่ากับเจ้ายังมีความประมาทในชีวิตเป็นอย่างยิ่ง เพราะกาลเวลายิ่งล่วงเลยไปมากเท่าไหร่ ความตายก็จักยิ่งใกล้เข้ามาเท่านั้น มัวแต่มีอารมณ์ท้อถอย ทำจิตให้สิ้นความเพียรอยู่เนือง ๆ แล้วเมื่อไหร่จักถึงจุดหมายปลายทางที่มุ่งหวังไว้ ๓. ประมาทในความตายเสียอย่างเดียว เท่ากับประมาทในธรรมทุกอย่าง นักปฏิบัติที่แท้จริงเขาไม่หวังผลพรุ่งนี้ มะรืนนี้เขาเอามรรคเอาผลกันที่ขณะจิตนี้ กาลเวลาอื่น ๆ สำหรับผู้เอาจริงในธรรมปฏิบัติ เขาไม่มีเวลา มีอยู่เวลาเดียว คือ ขณะจิตนี้ ๔. หมั่นคิดถึงขณะจิตนี้ หรือธรรมในปัจจุบันนี้ให้มาก ๆ อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ พิจารณาธรรมด้วยศีล - สมาธิ - ปัญญา ให้รู้เท่าทันความจริงในธรรมสัมผัสนั้น ๆ รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน ..................................... ที่มาของข้อมูล ธรรมนำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๕ เดือนมิถุนายน ๒๕๓๖ ตอน๑ หนังสือ “ธรรมนำไปสู่ความหลุดพ้น ทุกเล่ม หาข้อมูลศึกษาได้จาก....... http://www.tangnipparn.com/page_book_all.html ต้องขอโมทนาทุกท่านที่ช่วยเผยแพร่ผลงานของพระพุทธเจ้าหรือ หลวงพ่อในทุกรูปแบบทั้งทางหนังสือและอินเตอร์เน็ต ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่ทุกๆท่านครับ………………………………… |
เจ้าของ: | Snow-drop Flower [ 16 ก.ย. 2011, 19:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นักปฏิบัติที่แท้จริงเขาไม่หวังผลพรุ่งนี้ เขาเอามรรคเอาผล |
![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 16 ก.ย. 2011, 19:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นักปฏิบัติที่แท้จริงเขาไม่หวังผลพรุ่งนี้ พระพุทธเจ้าองค์ |
![]() ![]() เพราะเห็นประโยชน์..จึง..ได้ประโยชน์ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |