ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

บั ณ ฑิ ต คื อ ใ ค ร ?
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=38575
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 14 มิ.ย. 2011, 23:30 ]
หัวข้อกระทู้:  บั ณ ฑิ ต คื อ ใ ค ร ?

รูปภาพ

บั ณ ฑิ ต คื อ ใ ค ร ?

"ผ้าที่ห่อหุ้มของหอม ย่อมพลอยหอมตลบอบอวลตามไปด้วยฉันใด
ผู้ที่คบบัณฑิต ก็ย่อมพลอยได้รับความรู้ ความสามารถ
และความดีตามบัณฑิตไปด้วยฉันนั้น"


:b44: บั ณ ฑิ ต คื อ ใ ค ร ? :b44:

บัณฑิต คือคนที่มีใจผ่องใสอยู่เป็นปกติวิสัย ทำให้มีความเห็นถูกยึดถือค่านิยมที่ถูกต้อง
สามารถดำเนินชีวิตอยู่ด้วยปัญญา

-เป็นผู้รู้ดี คือ รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว
-เป็นผู้รู้ถูก คือ รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด
-เป็นผู้รู้ชอบ คือ รู้ว่าอะไรบุญอะไรบาป


บัณฑิต อาจเป็นใครก็ได้ เช่น อาจเป็นผู้อ่านหนังสือไม่ออก อาจเป็นชาวไร่ชาวนา
อาจเป็นผู้ทีมีการศึกษาสูง อาจเป็นญาติของเรา ฯลฯ
แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามจะต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจผ่องใสและดำเนินชีวิตอยู่ด้วยปัญญา
คือเป็นคนดีนั่นเอง

คนทั่วไปมักเข้าใจว่า ผู้ที่เรียนหนังสือจนได้รับปริญญานั้นคือ บัณฑิต
แท้จริงนั่นเป็นเพียงบัณฑิตทางโลกเท่านั้น
ยังไม่ใช่บัณฑิตที่แท้จริงเพราะผู้ที่ได้รับปริญญาแล้ว
ถ้าความประพฤติไม่ดี อาจไปทำผิดติดคุกติดตะรางได้
แต่บัณฑิตที่แท้จริงย่อมเป็นผู้ตั้งใจละชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่ความดี
ความถูกต้อง ความสุจริตสามารถป้องกันตนให้พ้นจากคุกจากตะรางและแม้กระทั่งจากนครได้ "
บัณฑิตมิใช่ผู้มีเพียงปริญญา แต่คือผู้อุดมศีล สมาธิ ปัญญา"

:b44: ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง บั ณ ฑิ ต :b44:

เนื่องจากบัณฑิตเป็นผู้มีจิตใจผ่องใส มีความเห็นถูก ดำเนินชีวิตอยู่ด้วยปัญญา
ฉลาดในการสอดส่องหาเหตุผล จึงมีลักษณะพิเศษสูงกว่าคนทั้งหลาย ๓ ประการคือ

๑.ชอบคิดดีเป็นปกติวิสัย

ได้แก่ คิดให้ทาน คิดให้อภัยอยู่เสมอไม่ผูกพยาบาท
คิดเห็นถูกต้องตามความเป็นจริง เช่น เห็นว่าบุญบาปมีจริง พ่อแม่มีพระคุณต่อเราจริง เป็นต้น

๒.ชอบพูดดีเป็นปกติวิสัย

ได้แก่พูดคำจริง พูดคำสมานไมตรี พูดคำมีประโยชน์
พูดถูกต้องตามกาลเทศะและพูดด้วยจิตที่ประกอบด้วยเมตตา

๓.ชอบทำดีเป็นปกติวิสัย

ได้แก่ เว้นการฆ่ากัน ไม่ลักขโมย ไม่ประพฤติผิดในกาม
พอใจเฉพาะคู่ครองของตนเท่านั้น

:b44: อ ง ค์ คุ ณ ข อ ง บั ณ ฑิ ต :b44:

๑.กตัญญู รู้อุปการะคุณที่ท่านทำแล้วแก่ตน
๒.อัตตสุทธิ ทำตนให้บริสุทธิ์จากบาป
๓.บริสุทธิ์ ทำผู้อื่นให้บริสุทธิ์จากบาป
๔.สังคหะ สงเคราะห์แต่ชุมชนทั้งหลาย

:b44: วิ ธี สั ง เ ก ต บั ณ ฑิ ต :b44:

บัณฑิต มักกระทำในสิ่งต่อไปนี้คือ

๑.บัณฑิตชอบชักนำในทางที่ถูก

เช่น ชักนำให้เลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มสุรา เลิกเล่นการพนัน
ชักนำให้สวดมนต์ก่อนนอนให้รักษาศีล ให้ทำมาหากินในทางสุจริต เป็นต้น

๒.บัณฑิตชอบทำแต่สิ่งที่เป็นธุระ ไม่เกะกะเกเรใคร ๆ

เร่งรีบทำการงานในหน้าที่ของตนให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ไม่ปล่อยงานให้คั่งค้างและไม่ก้าวก่ายงานในหน้าที่ของคนอื่น
เว้นแต่เมื่อได้รับการขอร้องหรือเพื่ออนุเคราะห์

๓.บัณฑิตชอบทำแต่สิ่งที่ถูกที่ควร

เช่น ชอบพูดและทำตรงไปตรงมาชอบสนทนาธรรม
รังเกียจการนินทาว่าร้าย ชอบบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ทั้งแต่ตนเองและต่อผู้อื่นเป็นต้น

๔.บัณฑิตเมื่อถูกว่ากล่าวตักเตือนโดยดีย่อมไม่โกรธ

มีนิสัยถือเอาความถูก
ความดีและความมีประโยชน์เป็นที่ตั้งไม่ถือตัวอวดดีดื้อรั้น

แต่เห็นว่าผู้ที่ตักเตือนคนคือผู้ที่ชี้ขุมทรัพย์ให้
แล้วพยายามแก้ไขปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นตามคำแนะนำนั้น
โดยไม่นึกรังเกียจว่าผู้ที่ตักเตือนจะมีอายุ ยศศักดิ์ ฐานะสูงหรือต่ำกว่า


หากมีผู้อื่นเข้าใจผิดพูดก้าวร้าวไม่สมควร
ก็อดทนไว้ไม่โกรธตอบแล้วพยายามหาโอกาสชี้แจงให้เขาเข้าใจภายหลัง
จึงทำความอบอุ่นและเย็นใจให้แก่ทุกคน

๕.บัณฑิตย่อมรับรู้ระเบียบวินัย

รักที่จะปฏิบัติตนตามระเบียบวินัยของหมู่คณะอย่างเคร่งครัด
เพราะตระหนักดีว่า วินัยเป็นเครื่องยกหมู่คณะให้เจริญขึ้นได้จริง
ทำให้หมู่คณะสงบเรียบร้อยไม่วุ่นวายจริง ทำให้เกิดความประหยัดจริง ฯลฯ
จึงรังเกียจความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ความไม่สะอาดรกรุงรัง

:b44: วิ ธี ค บ บั ณ ฑิ ต :b44:

๑.หมั่นไปมาหาสู่
๒.หมั่นเข้าไปนั่งใกล้
๓.มีความจริงใจ ให้ความเกรงอกเกรงใจต่อท่าน
๔.ฟังคำแนะนำ คำพูดของท่าน (ฟังธรรม)
๕.จำธรรมที่ได้ฟังนั้นไว้
๖.พิจารณาใจความของธรรมที่จะได้นั้นให้ดี
๗.พยายามปฏิบัติตามธรรมที่ได้ฟัง

:b44: ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง บั ณ ฑิ ต :b44:

บัณฑิตมี ๒ ประเภท ได้แก่

๑.บัณฑิตภายนอก

คือบุคคลทั่วไปไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นผู้ประพฤติดี มีคุณธรรม ดำเนินชีวิตด้วยปัญญา

๒.บัณฑิตภายใน

คือ ตัวเราขณะที่คิดดี พูดดี และทำดีนั่นเอง
ดังนั้นการคบบัณฑิตภายในก็คือ การพยายามฝึกตนให้เป็นผู้มีจิตใจผ่องใส
มีสติรำลึกถึงแต่ความคิดดี ๆ เป็นไปเพื่อความสร้างสรรค์

คำพูดดี ๆ เป็นเพื่อยกใจผู้พูดและผู้ฟังให้สูงขึ้น
และการกระทำดี ๆ เป็นไปเพื่อประโยชน์ทั้งแก่ตนและผู้อื่น
ซึ่งทำได้โดยการหมั่นทำทาน รักษาศีล และทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอ


:b44: อ า นิ ส ง ส์ ก า ร ค บ บั ณ ฑิ ต :b44:

๑.ทำให้จิตใจผ่องใส สามารถทำความดีตามไปด้วย
๒.ทำให้ได้ปัญญาเพิ่มขึ้น เป็นคนหนักแน่น มีเหตุผล
๓.ทำให้มีความเห็นถูก เป็นสัมมาทิฐิ
๔.ทำให้ไม่ต้องเศร้าโศกเดือดร้อน เพราะทำผิด
๕.ทำให้เป็นที่ยกย่องสรรเสริญของคนทั่วไป
๖.ทำให้มีความสุข ปลอดภัยจากอุปสรรคภัยพาลต่าง ๆ
๗.ทำให้มีความเจริญก้าวหน้า สามารถตั้งตัวได้เร็ว
๘.ทำให้แม้ละโลกนี้ไปแล้ว ก็ไปสู่สุคติโลกสวรรค์
๙.ทำให้บรรลุมรรคผลนิพพานได้โดยง่าย

“แท้จริง บุคคลผู้มีปกติเที่ยวสมคบคนพาล ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน
เพราะการอยู่ร่วมกับคนพาล เป็นเหตุนำทุกข์มาให้ในกาลทุกเมื่อ
เหมือนการอยู่ร่วมกับศัตรู ส่วนบัณฑิตมีการอยู่ร่วมเป็นสุข เหมือนสมาคมแห่งหมู่ญาติ

เพราะเหตุนั้นแล นรชนพึง คบบัณฑิต ผู้มีปัญญา เป็นพหูสูต
เอาการเอางาน มีศีล มีวัตร ไกลจากกิเลส และเป็นสัตบุรุษ
เปรียบดังพระจันทร์คบอากาศอันเป็นทางโคจรแห่งดวงดาวฉะนั้น”


:b8: :b8: :b8:

(พุทธพจน์)

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/