ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ความมุ่งหมายของการฟังธรรม : เจ้าคุณโชดก http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=37279 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 15 มี.ค. 2011, 17:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | ความมุ่งหมายของการฟังธรรม : เจ้าคุณโชดก |
![]() ความมุ่งหมายของการฟังธรรม พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) ความมุ่งหมายของการฟังธรรมนั้น มีอยู่ ๕ ประการ คือ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() หมายความว่า ฟังธรรมแล้วได้บุญ บุญแปลว่า ชำระ คือ ชำระกายวาจาใจให้สะอาด เพราะกายวาจาใจของคนเราเปื้อนบาป จึงจำเป็นต้องชำระด้วยน้ำ คือ บุญ ดุจชำระเสื้อผ้าที่สกปรกด้วยผงซักฟอกฉะนั้น บาปนั้นมีอยู่ ๓ ขั้น คือ บาปอย่างหยาบ ๑ บาปอย่างกลาง ๑ บาปอย่างละเอียด ๑ บาปอย่างหยาบ คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ล่วงออกมาทางกาย เช่น ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดประเวณี และล่วงออกมาทางวาจา เช่น พูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ เป็นต้น ต้องชำระด้วยบุญขั้นต้นคือ ศีล บาปอย่างกลาง คือ นิวรณ์ทั้ง ๕ ได้แก่ กามฉันทะ พอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ๑ พยาบาท ใจโกรธ ใจขุ่น ๑ ถีนมิทธะ ง่วงเหงาหาวนอน ๑ อุทธัจจะกุกกุจจะ ฟุ้งซ่านรำคาญ ๑ วิจิกิจฉา สงสัยลังเลใจ ๑ บาปทั้ง ๕ นี้ ต้องชำระด้วยบุญอย่างกลาง คือ สมาธิ บาปอย่างละเอียด คือ อนุสัย ได้แก่ กิเลสที่นอนดองอยู่ในใจ ดุจขี้ตะกอนอยู่ก้นตุ่มฉะนั้น มีอยู่ ๑๒ ตัว คือโลภะ ๘ โทสะ ๒ โมหะ ๒ อันเป็นส่วนละเอียดติดมาแต่ภพก่อนชาติก่อน ต้องชำระด้วยบุญขั้นละเอียด คือ วิปัสสนาปัญญา ในขณะที่ท่านทั้งหลายกำลังฟังธรรมอยู่ในขณะนี้ กายกรรม ๓ วจีกรรม ๔ ของแต่ละท่านก็บริสุทธิ์เพราะอำนาจแห่งศีล ศีลแปลว่า รักษากายวาจาให้เรียบร้อย ศีลนี่แหละเป็นบุญขั้นต้น เป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นแม่ของคุณงามความดีทั้งหลาย และเป็นประมุขของกุศลธรรมทั้งปวง จะฟังรู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่องก็ตาม ถ้าตั้งใจฟังแล้วได้บุญทั้งนั้น เพราะจิตดวงนี้เป็นมหากุศล ถ้าตายลงในขณะนี้ก็มีผลให้ไปมนุษย์ก็ได้ ไปเกิดสวรรค์ก็ได้ เช่น แม่ไก่ฟังธรรมถูกฆ่าตาย ได้ไปเกิดเป็นพระราชธิดา กบฟังธรรมถูกฆ่าตายได้ไปเกิดเป็นเทพบุตรชื่อว่า มัณฑูกเทพบุตร ค้างคาว ๕๐๐ ตัว ฟังพระอภิธรรม ตายแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ ผลสุดท้ายได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ได้ออกบวชเป็นพระ ได้ฟังพระอภิธรรม ก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด อย่างนี้เรียกว่า ฟังเอาบุญ ![]() หมายความว่า ฟังแล้วต้องจำได้ ใครจำได้มากเท่าไร ก็เป็นความรู้ของคนนั้น ถ้าจำไม่ได้ต้องจดไว้ บันทึกไว้ หรืออัดใส่เทปไว้ เปิดฟังบ่อยๆ ฟังจนจำได้ สมดังคำโบราณท่านสอนลูกหลานไว้ว่า “เห็นแล้วจดไว้ ทำให้แม่นยำ เหมือนทราบแล้วจำ ไว้ได้ทั้งมวล เมื่อหลงลืมไป จักได้สอบสวน คงไม่แปรปรวน จากที่จดลง” ![]() หมายความว่า ในขณะที่ฟังอยู่นั้น ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง มีเสียงอื่นรบกวน ทำให้หนวกหูบ้าง ง่วงนอนบ้าง กำลังทำกิจอย่างอื่น เช่น ล้างถ้วยล้างชามบ้าง โขลกหมากบ้าง ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นบุญอยู่ ตัวอย่าง ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสปะ งูเหลือมตัวหนึ่งได้ยินเสียงพระนักอภิธรรมกำลังท่องอายตนะกถาอยู่ ถือเอานิมิตในเสียงนั้น ตายแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อพระพุทธเจ้าของเราปรินิพพานแล้ว ได้มาบังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ออกบวชเป็นอาชีวกชื่อว่า ชนะโสณะ ได้ฟังธรรมย่อๆในหัวข้อว่า "อายตนะ" จากพระอุปคุตตเถระ ก็เกิดความเลื่อมใสอย่างแก่กล้า ขอบวชเป็นพระในพระพุทธศาสนา เรียนพระกรรมฐาน เจริญวิปัสสนา จนได้บรรลุมรรคผลนิพพานเป็นพระอรหันต์ ![]() หมายความได้ ๒ อย่าง คือ ฟังแล้วจำไว้ มีโอกาสเมื่อใดก็นำไปปฏิบัติได้เมื่อนั้น นี้อย่างหนึ่ง ถ้าเป็นนักปฏิบัติวิปัสสนา สามารถฟังไปปฏิบัติไปพร้อมกันได้เลย เพราะในขณะที่ได้ยินเสียงพระแสดงธรรมอยู่นั้น ขันธ์ ๕ เกิดแล้ว อารมณ์ของวิปัสสนาเกิดแล้ว คือเสียงกับหูเป็นรูปขันธ์ ได้ยินเสียงธรรมะแล้วสบายใจ เป็นเวทนาขันธ์ จำได้เป็นสัญญาขันธ์ แต่งให้เห็นว่าดีหรือไม่ดีเป็นสังขารขันธ์ ได้ยินเป็นวิญญาณขันธ์ ย่อให้สั้นๆ ก็ได้แก่รูปกับนาม รูปนามนี้แหละเป็นอารมณ์ของวิปัสสนา ดังนั้น นักปฏิบัติวิปัสสนาจึงลงมือปฏิบัติได้ทันที โดยตั้งสติไว้ที่หู ตัวอย่าง พาหิยะทารุจีริยะ ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าที่ตรัสว่า "ได้ยินก็สักว่าแค่ได้ยิน" ไม่ช้าท่านก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ![]() หมายความว่า เราตั้งใจฟังธรรมได้บุญแล้ว ก็อุทิศส่วนบุญนั้นให้แก่ บิดามารดา ครู อาจารย์ ท่านผู้มีบุญคุณ ท่านผู้มีพระคุณ ที่มา...พระธรรมเทศนาอริยธนกถา โดย พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ กรุงเทพมหานคร ๒๕๒๔, อนุสรณ์ คุณหญิงเจือ นครราชเสนี http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=3276 ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 15 มี.ค. 2011, 17:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความมุ่งหมายของการฟังธรรม |
![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Hanako [ 15 มี.ค. 2011, 19:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความมุ่งหมายของการฟังธรรม |
![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 15 มี.ค. 2011, 20:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความมุ่งหมายของการฟังธรรม |
ธัมมัสสวนานิสงส์ คือ อานิสงส์แห่งการฟังธรรม มี 5 อย่างคือ 1. ผู้ฟังธรรมย่อมได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง 2. สิ่งใดเคยฟังแล้วแต่ไม่เข้าใจชัด ย่อมเข้าใจสิ่งนั้นชัด 3. บรรเทาความสงสัยเสียได้ 4. ทำความเห็นให้ถูกต้องได้ 5.จิตของผู้ฟังย่อมผ่องใส (องฺ.ปญฺจก.22/276) (รวมถึงการฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์อื่นๆด้วย) |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 15 มี.ค. 2011, 20:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความมุ่งหมายของการฟังธรรม |
กรัชกาย เขียน: ธัมมัสสวนานิสงส์ คือ อานิสงส์แห่งการฟังธรรม มี 5 อย่างคือ 1. ผู้ฟังธรรมย่อมได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง 2. สิ่งใดเคยฟังแล้วแต่ไม่เข้าใจชัด ย่อมเข้าใจสิ่งนั้นชัด 3. บรรเทาความสงสัยเสียได้ 4. ทำความเห็นให้ถูกต้องได้ 5.จิตของผู้ฟังย่อมผ่องใส (องฺ.ปญฺจก.22/276) (รวมถึงการฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์อื่นๆด้วย) อนุโมทนาสาธุครับผม ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Bwitch [ 15 มี.ค. 2011, 23:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความมุ่งหมายของการฟังธรรม |
![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 16 มี.ค. 2011, 18:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความมุ่งหมายของการฟังธรรม |
กรัชกาย เขียน: ธัมมัสสวนานิสงส์ คือ อานิสงส์แห่งการฟังธรรม มี 5 อย่างคือ 1. ผู้ฟังธรรมย่อมได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง 2. สิ่งใดเคยฟังแล้วแต่ไม่เข้าใจชัด ย่อมเข้าใจสิ่งนั้นชัด 3. บรรเทาความสงสัยเสียได้ 4. ทำความเห็นให้ถูกต้องได้ 5.จิตของผู้ฟังย่อมผ่องใส (องฺ.ปญฺจก.22/276) (รวมถึงการฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์อื่นๆด้วย) ![]() ![]() |
เจ้าของ: | O.wan [ 17 มี.ค. 2011, 15:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความมุ่งหมายของการฟังธรรม |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |