ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

อย่าปล่อยใจให้มืดมิด
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=34402
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 09 ก.ย. 2010, 01:17 ]
หัวข้อกระทู้:  อย่าปล่อยใจให้มืดมิด

รูปภาพ


อย่าปล่อยใจให้มืดมิด

ภาวัน

นิตยสาร IMAGE สิงหาคม ๒๕๕๓



มีเรื่องเล่าว่า ชายผู้หนึ่งเดินคอตกอยู่บนสะพานสูง
เมื่อถึงกลางสะพานเขาก็หยุด แล้วก้มลงมองสายน้ำเชี่ยวเบื้องล่าง
ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ก็สังเกตเห็นหญิงสาวผู้หนึ่ง
เดินร้องห่มร้องไห้แล้วมายืนเกาะราวสะพานไม่ไกลจากเขาเท่าไร
พอเธอทำท่าจะปีนขึ้นราวสะพาน เขาก็รีบวิ่งไปฉุดตัวเธอเอาไว้
หญิงผู้นี้ตั้งใจจะฆ่าตัวตาย เธอเพิ่งถูกชายคนรักทิ้งไป
หลังจากรู้ว่าเธอตั้งครรภ์ได้ ๒ เดือน เขาจึงปลอบใจเธอว่า ชีวิตนี้ยังมีหวัง
คนเราถ้าไม่ย่อท้อต่อชีวิต ย่อมพบกับความสมหวังในที่สุด
ไม่มีใครที่จะล้มเหลวไปได้ตลอด

เธอฟังแล้วก็กลับมีกำลังใจอีกครั้ง เธอขอบคุณเขามากที่ทำให้เธอได้คิด
จากนั้นก็เดินหายลับไป
ชายผู้นั้นกลับมายืนนิ่งอยู่กลางสะพานอีกครั้ง
เขาเหม่อลอยอยู่พักใหญ่ จากนั้นเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นเร็วกว่าที่ใครจะคาดคิด
เขาปีนราวสะพานแล้วทิ้งร่างจมหายไปในสายน้ำเชี่ยว

มีผู้พบจดหมายลาตายของเขาในบ้านพัก
เขาขอโทษพ่อแม่และภรรยาที่ตัดสินใจคิดสั้น
อนาคตของเขาหมดสิ้นแล้วเพราะธุรกิจล้มละลาย
เป็นหนี้หลายสิบล้าน อยู่ไปก็ไร้ประโยชน์

เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่า แต่ก็สะท้อนความจริงบางอย่างของมนุษย์
เมื่อเห็นใครประสบปัญหาชีวิต เราสามารถแนะนำเขาได้ว่าควรทำใจอย่างไร
แต่หากปัญหานั้นเกิดขึ้นกับเราเอง เรากลับช่วยตัวเองไม่ได้เลย
เช่นเดียวกับชายในเรื่องที่พูดเตือนใจให้หญิงสาวมีความหวังกับชีวิตจนเลิกฆ่าตัวตาย
แต่เขาเองกลับไม่สามารถทำเช่นนั้นกับตัวเองได้

อย่าว่าแต่เรื่องหนักหนาสาหัสจนคิดฆ่าตัวตายเลย
แม้แต่เรื่องที่เบากว่านั้นก็เหมือนกัน เวลาลูกทำเงินหายไม่กี่ร้อยบาท
เราสามารถปลอบใจลูกได้ว่า เงินทองเป็นของนอกกาย
ดีที่ไม่หายมากกว่านั้น ฯลฯ แต่พอเงินของเราหายเอง
กลับเสียดายและเสียใจเป็นวัน ๆ
เวลาเพื่อนเศร้าโศกเสียใจเพราะสูญเสียคนรัก
เราแนะนำเพื่อนได้ทันทีว่า ทำใจเถิด ชีวิตนี้ไม่เที่ยง
ทุกคนเกิดมาแล้วก็ต้องตาย เขาไปดีแล้ว ฯลฯ
แต่พอเราสูญเสียคนรักบ้าง กลับเศร้าซึมไม่เป็นอันกินอันนอน

เหตุใดเมื่อประสบปัญหากับตัวเอง เราจึงไม่สามารถสอนตัวเองได้
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าจะแนะนำคนอื่นได้อย่างไรหากประสบปัญหาอย่างเดียวกัน
คำตอบน่าจะเป็นเพราะว่าอารมณ์ต่าง ๆ
ครอบงำใจเราจนไม่สามารถคิดอะไรออกได้
คนเรานั้นจะมีปัญญาต่อเมื่อจิตใจแจ่มใส สามารถคิดหาเหตุผลดี ๆ ได้
แต่เมื่อใดที่จิตใจนั้นถูกอารมณ์ฝ่ายลบ เช่น ความโกรธ ความเศร้า
ความหดหู่ครอบงำ ก็จะตกอยู่ในภาวะ “มืดแปดด้าน” คือคิดอะไรไม่ออก
ใช่แต่เท่านั้นบ่อยครั้งยังไม่สามารถรับฟังคำแนะนำที่มีเหตุผลจากใคร ๆ ได้เลย
เปรียบเสมือนแก้วที่เต็มไปด้วยน้ำขุ่น เติมน้ำใสเข้าไปก็ล้นออกมาหมด

ดังนั้นคิดเก่งหรือรู้มากอย่างเดียวย่อมไม่พอ
แต่จะต้องรู้จักเท่าทันอารมณ์ของตัวด้วย
ไม่เช่นนั้นก็จะถูกอารมณ์เหล่านั้นครอบงำจนคิดไม่ออก
หรือเอาความรู้ที่มีอยู่มาใช้แก้ปัญหาของตัวเองไม่ได้
เข้าทำนอง “ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด”


น้อยคนนักที่จะรู้เท่าทันอารมณ์ของตัว
เพราะคนส่วนใหญ่มักสนใจสิ่งนอกตัวมากกว่าจะรู้ใจตนเอง

ดังนั้นการมีเพื่อนที่คอยแนะนำ ให้กำลังใจ
หรือเรียกสติของเรากลับคืนมาเป็นสิ่งสำคัญ
บ่อยครั้งเราก็ไม่ได้ต้องการคำแนะนำที่ฉลาดหลักแหลม
แค่ความเข้าใจจากเพื่อนก็มีความหมายอย่างยิ่งแล้ว

ขอเพียงแค่ความเข้าใจหรือความเห็นใจกันเท่านั้น
ปาฏิหาริย์ก็สามารถเกิดขึ้นได้
หรืออย่างน้อยก็ทำให้เรื่องจริงจบลงอย่างงดงามยิ่งกว่าเรื่องเล่าข้างบน

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หนุ่มรัสเซียผู้หนึ่งตัดสินใจฆ่าตัวตาย
หลังจากสูญเสียแฟนสาวเนื่องจากอุบัติเหตุ
แต่ขณะที่เขากำลังจะกระโดดสะพาน
ก็เห็นหญิงสาวผู้หนึ่งเตรียมจะทำอย่างเดียวกัน
เธอหมดหวังกับชีวิตเพราะนอกจากท้องไม่มีพ่อแล้วยังถูกครอบครัวขับไล่
ชายหนุ่มจึงเข้าไปห้ามหญิงสาว หลังจากปลอบโยนและให้กำลังใจตลอดค่ำคืน
ทั้งคู่ก็ตกหลุมรักและปลงใจแต่งงานกัน

การได้เห็นความทุกข์ของกันและกัน สามารถเปิดใจให้เราเห็นใจกัน
จนสามารถขับไล่ความหดหู่สิ้นหวังไปจากใจได้
ตราบใดที่ไม่ปล่อยใจให้อารมณ์ครอบงำจนมืดมิด ชีวิตย่อมมีทางออกได้ในที่สุด



ที่มา... http://www.visalo.org/article/Image255308.htm

:b48: :b8: :b48:

เจ้าของ:  ทักทาย [ 09 ก.ย. 2010, 03:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อย่าปล่อยใจให้มืดมิด

เรามักจะมองว่า ปัญหาของเรา หนักหนาสาหัส
มากกว่าของใครๆ.....จึงท้อแท้สิ้นหวังก่อนที่จะคิดแก้ไข

อนุโมทนาค่ะ :b8:

เจ้าของ:  O.wan [ 09 ก.ย. 2010, 06:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อย่าปล่อยใจให้มืดมิด

taktay เขียน:
เรามักจะมองว่า ปัญหาของเรา หนักหนาสาหัส
มากกว่าของใครๆ.....จึงท้อแท้สิ้นหวังก่อนที่จะคิดแก้ไข

อนุโมทนาค่ะ :b8:


:b1: เช่นกันค่ะ เวลามีคนมาปรับทุกข์กับเรา
เรามักจะสำคัญตัวเองขึ้นมาทันที
และหาวิธีช่วยเหลือปลอบโยนอย่างจริงใจ
:b10: แต่เมื่อไรที่เราทุกข์ มันเหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบเลยนะคะ :b29:

เจ้าของ:  จักรแก้วรัตนะ [ 09 ก.ย. 2010, 07:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อย่าปล่อยใจให้มืดมิด

การมีคนที่ดี ที่ปรึกษา และให้คำแนะนำที่ดีได้ เรียกว่า กัลยาณมิตร จึงเป็นสิ่งมีค่ายิ่ง
กัลยาณมิตร ไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อน
เป็นคุณพ่อ คุณแม่ หรือ ญาติก็ได้

ผงเข้าตาตัวเอง เขี่ยออกไม่ได้ ก็มี บางครั้งก็ต้องให้คนอื่นช่วยเขี่ยให้

ขออนุโมทนาด้วยครับ

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 09 ก.ย. 2010, 23:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อย่าปล่อยใจให้มืดมิด

tongue ขอบคุณความคิดเห็นดีดีที่มีมาฝากกันนะคะ....กัลยาณมิตรทุกท่าน
ทั้งคุณหมอจักรแก้วฯ คุณทักทาย คุณO.Wanและทุกท่าน

การฝึกสติเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง
ยิ่งเวลาที่ปัญหามา...ถ้าปัญญาไม่มี
เราเองจะรู้สึกอะไรก็แย่ไปหมด
ค้องค่อยๆคิด ค่อยๆตั้งสติ
ค่อยๆแก้ไขทีละปัญหา
แก้ได้ก็แก้...แก้ไม่ได้ก็วาง
หรืออาจขอคำปรึกษาจากกัลยาณมิตร
ให้ช่วยแนะแนวทางให้
แต่สุดท้าย...ตัวเราเองเท่านั้น
ที่จะต้องตัดสินใจด้วยตัวเราเอง
เพราะคนอื่นเป็นเพียงผู้แนะนำ
พึงตัวเองให้ได้...สอนตัวเองให้ได้
บอกตัวเองว่า...เราทำได้
เราจะทำให้ดีที่สุด
แต่ต้องไม่ทำร้ายและไม่เบียดเบียน
ทั้งตัวเองและผู้อื่น

:b48: ธรรมรักษานะคะ :b48:

เจ้าของ:  ธรรมบุตร [ 10 ก.ย. 2010, 02:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อย่าปล่อยใจให้มืดมิด

รูปภาพ

:b8: อนุโมทนา..สาธุ..จร้า..น้องลูกโป่ง :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/