ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
รถด่วนอวกาศ กาแล็กซี่ 999 http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=32738 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Bwitch [ 23 มิ.ย. 2010, 13:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | รถด่วนอวกาศ กาแล็กซี่ 999 |
![]() รถด่วนอวกาศ กาแล็กซี่ 999 โดย อิกคิว ในสมัยที่ผมจบมาทำงานใหม่ๆ มาใช้ทุนในต่างจังหวัด? เคยดูการ์ตูนญี่ปุ่นธรรมดาๆเรื่องหนึ่งตอนเย็นๆเป็นตอนสั้นๆ? ที่มีเนื้อหาไม่ธรรมดาเลย ไม่ธรรมดาจนต้องหวนกลับไปคิดถึงบ่อยๆ แม้ผ่านมาแล้วนานกว่าสิบปี? เนื้อเรื่องเป็นเรื่องของอนาคตที่คนเราสามารถเอาชนะความตายได้ ทุกคนสามารถอยู่เป็นอมตะได้ โดยการแปลงร่างกายมนุษย์ให้เป็นหุ่นยนต์ สุดท้ายก็จะไม่ต้องหิว ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องแก่ ไม่ต้องเจ็บป่วย และก็มีชีวิตที่เป็นอมตะ ไม่ต้องตายอีกต่อไป ? เด็กชายเท็ตสึโร่ ที่เป็นตัวเอกของเรื่อง อายุประมาณ 10 ปี มีชีวิตอยู่อย่างยากจนบนโลกอนาคตอันห่างไกล โลกซึ่งมนุษย์ที่ไม่ใช่เครื่องจักรกลมีฐานะยากจน ถูกกดขี่ข่มเหง และกำลังถูกกำจัดให้สูญหายไป เขาและแม่อาศัยในเพิงเล็กๆ และยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวสำหรับฤดูหนาวอันโหดร้ายที่กำลังจะมาถึง แต่แล้วเกมล่าของมนุษย์จักรกล ก็มาถึงพวกเขาโดยไม่คาดฝัน พวกนั้นได้ฆ่าแม่ของเท็ตสึโร่ และนำร่างของเธอไปด้วยเป็นรางวัล เท็ตสึโร่สาบานว่าจะแก้แค้นพวกนั้นให้ได้ ? เท็ตสึโร่ต้องการที่จะมีร่างกายจักรกลที่ไม่สามารถทำลายได้ เพื่อที่จะแก้แค้นให้แม่ของเขาได้ แต่ก็เหมือนความฝันอันห่างไกล เพราะร่างจักรกลนั้นมีราคาแพง เขารู้มาว่า ณ จักรวาลอีกด้านหนึ่ง มีดวงดาวที่สามารถทำร่างของเขาให้เป็นจักรกลได้ฟรี และรถด่วนอวกาศ 999 ก็จะพาเขาไปได้ เมื่อได้โอกาส เขาขโมยบัตรผ่านขึ้นรถไฟ และตำรวจก็ตามจับเขา ? ขณะที่เกือบจะโดนจับได้ เท็ตสึโร่ก็ได้พบกับเมเทล ผู้หญิงสวยผมสีทอง สวมชุดสีดำสนิท ผู้ซึ่งทำให้เขารู้สึกประทับใจเหมือนแม่ของเขา เมเทลมาช่วยเขาไว้ได้ทัน และได้ให้บัตรผ่านขึ้นรถด่วนอวกาศ 999 แก่เขา เธอบอกเขาว่า รถด่วนอวกาศ 999 เป็นรถไฟที่สามารถพาเขาจากกาแล็กซี่ทางช้างเผือกไปยังกาแล็กซี่แอนโดรมีด้า ที่นั่นมีดาวซึ่งสามารถทำร่างกายของเขาเป็นจักรกลได้ฟรี เงื่อนไขการให้บัตรผ่านนี้มีเพียงว่า เขาจะต้องให้เธอติดตามไปด้วย แม้จะดูลึกลับ แต่เท็ตสึโร่เห็นว่า บัตรนี้เป็นโอกาสเดียวของเขาที่จะไปจากโลก ได้เห็นจักรวาล และมีร่างกายจักรกลที่เขาต้องการ ? เรื่องราวดำเนินต่อไป เขาหยุดแวะดาวแล้วดาวเล่า เท็ตสึโร่เริ่มเห็นว่า การมีร่างกายจักรกลไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอย่างที่เขาเคยคิดไว้ ในความเป็นจริงแล้ว มนุษย์จักรกลที่เขาพบเจอล้วนแต่ขาดแคลนแรงผลักดันสู่ความสำเร็จอย่างที่มนุษย์ปกติมี ขาดแคลนความต้องการที่จะสร้างสรรค์บางสิ่งที่มีค่ามีความหมาย ภายในช่วงชีวิตอันสั้นของมนุษย์ปกติ ![]() รูปภาพประกอบจาก http://www.siamcomic.com/onstage/files/ ... axy999.php ขณะเดินทางไปกับเมเทล?เท็ตสึโร่เริ่มประหลาดใจว่าจริงๆแล้วเมเทลเป็นใครกัน เธอมักมีอารมณ์เศร้าเสมอ และเขาเริ่มรู้สึกว่าการเดินทางของเมเทลไม่เคยสิ้นสุด เธอน่าจะเคยมีเพื่อนร่วมทางมาก่อน และเขาก็รู้ว่าเธอจะมีเพื่อนร่วมทางใหม่อีกในอนาคต ซึ่งบางตอนในเรื่องก็ทำให้เข้าใจว่า เมเทลมีร่างจักรกลเช่นกัน เมเทลบอกว่า เธอจะต้องเดินทางอย่างไม่มีวันจบสิ้นไปกับเด็กชายเช่นเดียวกับเท็ตสึโร่ เพราะเธอไม่มีวันแก่และไม่มีวันตาย ? เนื้อเรื่องส่วนใหญ่เป็นการผจญภัยร่วมกันระหว่างเท็ตสึโร่กับเมเทล จนตัวเอกทั้งสองสนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง เธอจะคอยถามเด็กอย่างเศร้าๆเสมอว่า เขาต้องการเป็นอมตะจริงหรือ ? แล้วก็มาถึงตอนจบที่สถานีสุดท้าย ก่อนที่เมเทลจะพาเท็ตสึโร่ไปสู่โรงงานที่แปลงร่างมนุษย์ เธอสงสารเด็กจึงพาไปดูสภาพการใช้ชีวิตหลังจากที่คนแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์แล้ว เพื่อให้ข้อมูลในการตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย ? ภาพที่เห็นน่าตกใจมาก เป็นภาพของคนที่ไม่มีจุดมุ่งหมายในชีวิตอีกต่อไป คนส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอย่างสำมะเลเทเมา ทั้งกิน ทั้งดื่ม ทั้งเที่ยว มัวเมาในกามารมณ์ บางคนก็เดินเหม่อลอยไร้จุดหมาย บางคนก็นอนอยู่ที่ข้างถนน สุดท้ายคนที่เบื่อชีวิตมากๆก็กระโดดตึกลงมาเพื่อฆ่าตัวตาย ? เมื่อไม่มีความทุกข์ ความสุขก็หายไป เพราะเมื่อไม่ต้องทุกข์จากความหิว ไม่ต้องทำงานเพื่อที่จะมีเงินมาซื้ออาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ความสุขจากการกินอาหารก็ไม่มี ความสุขจากเครื่องนุ่งห่มดีๆที่จะต้องใส่ไปทำงานหรืออวดฐานะก็ไม่จำเป็น เมื่อไม่ต้องเจ็บป่วยก็ไม่ต้องดูแลตัวเอง เมื่อไม่ต้องคอยหาเงินก็ไม่ต้องคอยทำงานชีวิตก็เลยไม่เหลือคุณค่าอะไร เมื่อไม่มีกายก็เลย ไม่เหลือความสุขที่คอยหล่อเลี้ยงใจอีกต่อไป ? เมเทลเล่าต่อไปอีกว่า เมื่อคนได้ร่างที่เป็นหุ่นยนต์แล้ว เขาก็จะเอาร่างกายของคนๆนั้น ไปแยกอวัยวะเพื่อจำหน่ายให้กับคนมีเงินที่มีโรคร้ายและยังไม่อยากตายไวๆ เงินทองที่ใช้ในการทำหุ่นยนต์และเดินรถไฟ ได้มาจากกำไรจากการขายอวัยวะมนุษย์นี่เอง เธอเองก็รู้สึกผิดที่ต้องทำงานอย่างนี้แต่ก็จำใจต้องทำ ? เมื่อเด็กชายเห็นดังนั้นก็เลยเปลี่ยนใจ เมเทลยิ้มหวานด้วยความดีใจและพาเด็กไปส่งยังสถานที่เดิม แต่คราวนี้ เด็กคนนี้ไม่ได้มองโลกว่าโหดร้ายอีกแล้ว แต่มองเห็นว่า สิ่งที่เป็นอยู่นี่แหละดีที่สุดแล้ว มีสุขบ้าง มีทุกข์บ้าง มีเจ็บป่วยบ้าง มีอายุที่เพิ่มไปตามวัย และตายไปตามธรรมชาตินี้แหละ ดีที่สุดแล้ว เพราะเป็นธรรมชาติของชีวิต ? ความจริงความทุกข์นั้นก็เกิดจากความคิด ความยึดติดของเรานี่เอง เราคิดว่า ถ้าเรารวยเราจะมีความสุข คิดว่าเราแข็งแรงเราจะมีความสุข คิดว่าไม่เจ็บไม่แก่ ไม่ต้องตายจะมีความสุข ครั้นเราได้ทุกอย่างตามที่เราหวัง เราก็จะไม่มีความสุขเลย เพราะเราไม่มีความหวังอีกต่อไป ไม่มีทุกข์ก็หมดสุขไปโดยปริยาย ? ในชีวิตจริง ไม่มีใครได้ทุกอย่างเสมอไป ได้อย่างหนึ่งก็ไม่ได้อีกอย่าง ? ตอนเด็กมีสุขภาพดี มีแรงกิน มีแรงเที่ยว แต่ก็ไม่มีเงิน ไม่มีเวลาเที่ยว เพราะต้องเรียนหนังสือ พอแก่ตัวมีเงินเก็บ ก็ไม่ค่อยมีแรงเที่ยว ไม่อยากเที่ยว จะกินอะไรก็ไม่ค่อยได้เพราะมีโรคประจำตัว แต่ถ้าชีวิตเราไม่มีการแก่ไม่มีการตาย เราจะใช้ชีวิตกันอย่างประมาทกันสักแค่ไหน สังคมเราจะเป็นอย่างไร ? ถ้าไม่มีของที่เป็นคู่กัน ของอีกสิ่งหนึ่งจะไม่มีค่าเลย เช่น ไม่มีทุกข์ก็ไม่มีสุข ไม่มีดี ก็ไม่มีชั่ว ไม่มีผิดพลาดก่อน ก็คงไม่รู้ว่าถูกเป็นอย่างไร ไม่มีวุ่นวาย ก็คงไม่รู้จักว่าความสงบสุขเป็นอย่างไร ไม่มีผิดหวังก็คงไม่รู้ว่าสมหวังเป็นอย่างไร ถ้าไม่เคยอกหัก ก็คงไม่เห็นคุณค่าของความรักที่แท้จริง ฯลฯ ? ของที่เรามีอยู่ทุกวันนี้นี่แหละมีค่าที่สุดแล้ว สิ่งที่เราเป็นอยู่ มีอยู่นี้ มีค่าที่สุดแล้ว รูปร่างหน้าตาจะขี้เหร่ อ้วนไปนิด เตี้ยไปหน่อย ดำไปนิด แก่ไปหน่อย งานที่ทำเงินน้อยไม่ค่อยพอใช้ เจ้านายหรือผู้ร่วมงานไม่ดี แค่ตราบใดที่ยังมีคนที่เรารักและรักเรา มีแรง มีงาน มีรายได้บ้างถึงจะแค่พอใช้ไม่มากนัก แต่ก็ไม่ถึงกับอดตาย ก็น่าจะพอแล้ว ตราบใดที่ยังมีอวัยวะทำงานเป็นปกติดี ไม่มีโรคร้ายแรง ยังมีเวลาในชีวิตเหลืออยู่ ยังมีความหวังเหลืออยู่ ดีที่สุดแล้ว มันดีที่สุดแล้วจริงๆ ท่านคิดเช่นเดียวกับผมบ้างหรือเปล่า ? |
เจ้าของ: | คนเดินทาง [ 23 มิ.ย. 2010, 13:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รถด่วนอวกาศ กาแล็กซี่ 999 |
โอ้โห.. อ่านกระทู้คุณ B- Wich แล้ว เหมือนได้เจอเพื่อนเก่าเลย แต่ดูจากอายุแล้วคุณ B-Wich จะต้องอายุมากกว่าเยอะๆ เลย เพราะตอนที่ดูการ์ตูนเรื่องนี้ คนเดินทางยังเป็นเด็กประถมอยู่เลย ตอนเย็นก็นั่งหน้าทีวี ดูการ์ตูนไป กินข้าวไป การ์ตูนเรื่องนี้ประทับใจมาก แต่ด้วยความที่เด็กมากจึงจำเรื่องปะติดปะต่อไม่ค่อยถูก ชื่อเรื่องก็จำไม่ได้ นึกได้แต่คำว่า แกแล็คซี่ แล้วก็เพียงบางฉากที่นึกได้แต่ไม่ปะติดปะต่อกัน เวลาเล่าให้น้องฟังถึงการ์ตูนที่เราชอบดูตอนเด็กให้เค้าฟัง เค้าจะบ่นทุกที ว่าเล่าอะไรไม่เห็นรู้เรื่องเลย >0< ก็จะเล่าซ้ำไปซ้ำมาแค่ว่า มันมีรถไฟแกแล็คซี่เดินทางไปในอวกาศ แล้วเด็กตัวเอกของเรื่อง เค้าอยากจะมีร่างกายเป็นหุ่นยนต์ จึงออกเดินทางขึ้นไปบนรถไฟ ซึ่งระหว่างนั้นเค้าต้องผจญกับพวกหุ่นยนต์ที่จะเข้ามาเอาอวัยวะของเขาไป เพราะพวกหุ่นยนต์อยากกลับมาเป็นมนุษย์ อะไรประมาณนี้ ฮ่าๆ ดิฉันเป็นคนสมองเฉื่อยมาก ดูการ์ตูนแล้วชอบก็รู้ว่าชอบ แต่อย่าถามนะ ตอบไม่เคยถูกเลย ฮ่าๆ คนทำการ์ตูนเรื่องนี้ ถ้ามาเห็นที่ดิฉันเล่า คงอยากเอาหัว (ของดิฉัน ) โขกโต๊ะพันๆ ครั้ง ฮิฮิ ดังนั้น เมื่อคุณ B-Wich มาฟื้นความทรงจำแต่ครั้งยังเยาว์ให้ขนาดนี้ ก็ขอกราบอนุโมทนาอย่างซาบซึ้งยิ่งนัก เนื่องจากเป็นการ์ตูนที่ชอบจริงๆ แต่ยังเด็กมาก ภาพส่วนใหญ่จึงถูกตัดไป ด้วยกาลเวลา อิๆ เหลือเพียงบางชิ้นส่วนที่นำมาประกอบเท่าไหร่ ก็ไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่างสักที ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Bwitch [ 23 มิ.ย. 2010, 16:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รถด่วนอวกาศ กาแล็กซี่ 999 |
คนเดินทาง เขียน: โอ้โห.. อ่านกระทู้คุณ B- Wich แล้ว เหมือนได้เจอเพื่อนเก่าเลย แต่ดูจากอายุแล้วคุณ B-Wich จะต้องอายุมากกว่าเยอะๆ เลย เพราะตอนที่ดูการ์ตูนเรื่องนี้ คนเดินทางยังเป็นเด็กประถมอยู่เลย ตอนเย็นก็นั่งหน้าทีวี ดูการ์ตูนไป กินข้าวไป การ์ตูนเรื่องนี้ประทับใจมาก แต่ด้วยความที่เด็กมากจึงจำเรื่องปะติดปะต่อไม่ค่อยถูก ชื่อเรื่องก็จำไม่ได้ นึกได้แต่คำว่า แกแล็คซี่ แล้วก็เพียงบางฉากที่นึกได้แต่ไม่ปะติดปะต่อกัน เวลาเล่าให้น้องฟังถึงการ์ตูนที่เราชอบดูตอนเด็กให้เค้าฟัง เค้าจะบ่นทุกที ว่าเล่าอะไรไม่เห็นรู้เรื่องเลย >0< ก็จะเล่าซ้ำไปซ้ำมาแค่ว่า มันมีรถไฟแกแล็คซี่เดินทางไปในอวกาศ แล้วเด็กตัวเอกของเรื่อง เค้าอยากจะมีร่างกายเป็นหุ่นยนต์ จึงออกเดินทางขึ้นไปบนรถไฟ ซึ่งระหว่างนั้นเค้าต้องผจญกับพวกหุ่นยนต์ที่จะเข้ามาเอาอวัยวะของเขาไป เพราะพวกหุ่นยนต์อยากกลับมาเป็นมนุษย์ อะไรประมาณนี้ ฮ่าๆ ดิฉันเป็นคนสมองเฉื่อยมาก ดูการ์ตูนแล้วชอบก็รู้ว่าชอบ แต่อย่าถามนะ ตอบไม่เคยถูกเลย ฮ่าๆ คนทำการ์ตูนเรื่องนี้ ถ้ามาเห็นที่ดิฉันเล่า คงอยากเอาหัว (ของดิฉัน ) โขกโต๊ะพันๆ ครั้ง ฮิฮิ ดังนั้น เมื่อคุณ B-Wich มาฟื้นความทรงจำแต่ครั้งยังเยาว์ให้ขนาดนี้ ก็ขอกราบอนุโมทนาอย่างซาบซึ้งยิ่งนัก เนื่องจากเป็นการ์ตูนที่ชอบจริงๆ แต่ยังเด็กมาก ภาพส่วนใหญ่จึงถูกตัดไป ด้วยกาลเวลา อิๆ เหลือเพียงบางชิ้นส่วนที่นำมาประกอบเท่าไหร่ ก็ไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่างสักที ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่าคะ อิอิ.. ประเดี๋ยวเหอะ ![]() ![]() ![]() อย่าไปคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว และอย่ามัวกังวลเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ทุกๆ เช้า ถ้าลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วไม่เคยได้ยินเสียงไก่ขันว่า..."อยู่ไปก็รกโลก อยู่ไปก็รกโลก"... ก็นับว่าดีแล้วคร๊าาาาาาาาาาาาาา ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |