วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 13:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2010, 13:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

เปลี่ยนทุกข์เป็นสุข

รินใจ (พระไพศาล วิสาโล)



มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจเกี่ยวกับสามศรีพี่น้อง อารมณ์ อาภรณ์ และอาภา
ครั้งหนึ่งอารมณ์ไปหาหมอดูซึ่งว่ากันว่าทำนายอนาคตได้แม่นยำมาก
หมอดูอ่านไพ่สักพักก็บอกว่า "คุณจะมีสุขภาพไม่ค่อยดี เงินทองจะฝืดเคือง
ชีวิตครอบครัวจะไม่ราบรื่น หมอว่า คุณจะลำบากไป ๕ ปี"


"หลังจากนั้นฉันจะสบายใช่ไหม หมอ ?" อารมณ์ถาม


"เปล่า หลังจากนั้นคุณก็จะชินไปเอง" หมอตอบ


เรื่องต่อมาเป็นประสบการณ์ของอาภรณ์ราว ๆ ๓๐ ปีก่อน
ตอนนั้นเธอไปงานทำบุญเลี้ยงพระที่บ้านเพื่อน
หลวงปู่บุดดารับอาราธนามางานนี้ด้วยตนเอง
หลังจากฉันเสร็จเจ้าภาพได้นิมนต์หลวงปู่ซึ่งชรามากแล้ว
ให้เอนกายพักผ่อนก่อนที่จะเดินทางกลับจังหวัดสิงห์บุรี


ระหว่างนั้นข้างห้องซึ่งเป็นร้านขายของ
มีคนเดินใส่เกี๊ยะขึ้นบันไดส่งเสียงดัง อาภรณ์จึงบ่นกับเพื่อน ๆ
ซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลจากหลวงพ่อมากนักว่า "แหมเดินเสียงดังเชียว"


หลวงปู่บุดดานั้นแม้นอนหลับตาอยู่ แต่ก็รับรู้ตลอดจึงพูดเตือนเบา ๆ ว่า
"เขาเดินของเขาอยูดี ๆ เราเอาหูไปรองเกี๊ยะเขาเอง"


เรื่องที่ ๓ นั้นถอยหลังไปไกลอีก ๒๐ ปีสมัยที่ทั้ง ๓ คนยังเด็ก
คราวหนึ่งแม่กำลังทำครัวอยู่ จึงให้อารมณ์ไปซื้อน้ำปลามา ๑ ขวด
อารมณ์รีบวิ่งไปซื้อทันที ขากลับเดินสะดุดหลุมหกล้ม
ขวดน้ำปลาหลุดมือ อารมณ์หยิบขวดน้ำปลาเดินกลับบ้าน
สีหน้าเศร้าสร้อย บอกแม่ว่า "แย่จัง หนูทำน้ำปลาหกไปตั้งครึ่งขวด"


อาทิตย์ต่อมาแม่ให้อาภรณ์ไปซื้อน้ำมันมา ๑ ขวด
อาภรณ์ซื้อเสร็จ ขากลับเดินสะดุดหิน น้ำมันหกไปครึ่งขวด
แต่เธอกลับไปเล่าให้แม่ฟังอย่างยิ้มแย้มว่า
"เมื่อกี้หนูหกล้ม แต่ยังดีที่คว้าเอาไว้ได้ทัน มีน้ำมันเหลือตั้งครึ่งขวดแน่ะ"


๒-๓ อาทิตย์ต่อมา ถึงเวรของอาภาบ้าง
เธอไปซื้อน้ำส้มสายชูกลับมาก็บอกแม่ว่า
"เมื่อกี้หนูหกล้ม แต่ยังดีที่คว้าเอาไว้ได้ทัน มีน้ำส้มเหลือตั้งครึ่งขวด
แต่หนูรับปากว่าต่อไปจะไม่เผลออีก"
ว่าแล้วเธอก็กลับไปขุดเอาหินที่โผล่ตามทางเดินออกจนหมด
รวมทั้งกลบหลุมที่อาจทำให้ใครต่อใครเดินสะดุดด้วย


ทั้ง ๓ เรื่องนี้แม้จะต่างกัน แต่อย่างหนึ่งที่เหมือนกัน
คือเป็นเรื่องของการประสบกับปัญหาหรือสิ่งที่ไม่น่าพอใจ
ปัญหาหรือสิ่งไม่น่าพอใจเมื่อเกิดกับใคร ก็มักจะทำให้ทุกข์
แต่วิธีที่จะทำให้ไม่ทุกข์ ก็มีอยู่ วิธีแรกคืออดทน ไม่ตีโพยตีพาย
ไม่นานก็จะปรับตัวได้ พูดง่าย ๆ คือชินไปเอง อย่างเรื่องแรก
คนเราไม่ว่าจะทุกข์แค่ไหน จิตใจก็มักจะปรับตัวให้คุ้นชินได้เสมอ
หากมีเวลาพอ หรือไม่คิดสั้นเสียก่อน



:b48: มีคาถาหนึ่งที่จะช่วยให้เราทนได้มากขึ้นก็คือ
เมื่อหายใจเข้า ให้พูดกับตนเอง "ทนได้"
เมื่อหายใจออก ให้พูดในใจว่า "สบายมาก"



:b48: วิธีที่ ๒ คือการใช้ตา หู รวมไปถึงจมูก ลิ้น และกายให้เป็น
เรื่องนี้โยงไปถึงจิตใจ ความทุกข์นั้นบ่อยครั้งเกิดขึ้นก็เพราะใจเราไม่อยู่สุข
ชอบสั่งตาหรือหูให้ไปรับเอาสิ่งไม่ดีมาสร้างปัญหาแก่จิตใจ
เสียงนั้นแม้จะดัง แต่ถ้าไม่ฟัง ปัญหาก็ไม่เกิด ใครเขาจะบ่น จะว่า
ถ้าไม่สนใจเสียอย่าง จะทุกข์ได้อย่างไร
ข้อสำคัญคือต้องรักษาใจให้ดี อย่าปล่อยใจให้เพ่นพ่านออกไปนอกตัวมากนัก
จะทำอย่างนั้นได้ต้องมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ หรือไม่เช่นนั้น
ก็ให้มีสมาธิจดจ่าอยู่กับอะไรสักอย่างที่ดี ๆ
เช่น เสียงเพลงที่ไพเราะ หรือจดจ่าอยู่กับลมหายใจเข้าออกก็ได้


:b48: วิธีที่ ๓ ก็คือ มองแง่ดี เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา
ลองมองให้เห็นแง่ดีของมันบ้าง ไม่มีอะไรที่ไม่มีแง่ดีเลย

เจ็บป่วยก็มีแง่ดี คือได้พักผ่อน ได้มีเวลาทำสิ่งที่ชอบ อยู่กับครอบครัว
หรือเข้าหาธรรมะ อย่างน้อย ๆ แง่ดีอย่างหนึ่งที่ต้องมีแน่ ๆ
ก็คือ ดีที่ไม่หนักกว่านั้น เงินหาย ๑,๐๐๐ บาท
ก็ยังนับว่าดีที่ไม่หาย ๑๐,๐๐๐ บาท
เวลาถูกคนนินทา ก็ยังดีที่เขาไม่ทำร้ายเรามากกว่านั้น


อย่างไรก็ตามมองแง่ดีอย่างเดียวคงไม่พอ
ต้องลงมือจัดการกับปัญหาหรือป้องกันมิให้เกิดซ้ำอีก
การมองแง่ดีทำให้อาภาไม่เป็นทุกข์กับการสะดุดหกล้ม
แต่เธอไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น หากยังออกไปขุดหินและกลบหลุม
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซากอีก
มองแง่ดีทำให้เราไม่ทุกข์เวลาเจ็บป่วย
แต่ก็ต้องหาทางป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยอีก เช่น ออกกำลังกายมากขึ้น
กินอาหารให้สมดุลกว่าเดิม เป็นต้น


ความทุกข์นั้นเราสามารถแปรเปลี่ยนให้เป็นความไม่ทุกข์
หรือเปลี่ยนให้กลายเป็นความสุขได้ สิ่งเลวร้ายไม่น่าพอใจ
เมื่อเกิดขึ้นกับเรา ใช่ว่าจะทำให้เราทุกข์ไปเสียหมด ก็หาไม่
ทุกข์หรือไม่ทุกข์อยู่ที่ตัวเรา ไม่ได้อยู่ที่ว่าอะไรเกิดขึ้นกับเรา


ปีใหม่ ใคร ๆ ก็อยากให้ตนเองประสบสิ่งดี ๆ
แต่จะดีกว่านั้นถ้าฝึกตนให้มีความอดทน มีสติ สมาธิ และมองแง่ดี
รับรองว่า ไม่ว่าจะเจออะไรก็ตาม ก็ยากจะทำให้เราทุกข์ได้
นี้คือหลักประกันแห่งความสุขที่แท้จริง



ที่มา... budpage.com

:b48: :b8: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2010, 21:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว




775.gif
775.gif [ 4.15 KiB | เปิดดู 2068 ครั้ง ]
:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนา..สาธุ..ครับ smiley smiley smiley

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 68 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร