ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

อานุภาพแห่งความดี (พระไพศาล วิสาโล)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=31656
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 13 พ.ค. 2010, 13:19 ]
หัวข้อกระทู้:  อานุภาพแห่งความดี (พระไพศาล วิสาโล)

รูปภาพ

อานุภาพแห่งความดี

พระไพศาล วิสาโล



การทำความดี หมั่นสร้างบุญกุศล ไม่เพียงช่วยให้มีชีวิตที่ผาสุกเท่านั้น
หากยังอำนวยให้มีความสุขในเวลาละโลกนี้ไป
ดังพระพุทธองค์ตรัสว่า “บุญย่อมทำให้เกิดสุขในเวลาสิ้นชีวิต”



คนเป็นอันมากกลัวตายก็เพราะไม่แน่ใจว่าเมื่อตายแล้วจะไปไหน
จะไปทุคติหรือไม่ แต่ความกลัวเช่นนี้
จะไม่เกิดกับผู้ที่มั่นใจในความดีที่ทำมาทั้งชีวิต
เพราะรู้ดีว่าบุญกุศลที่ได้ทำนั้นย่อมส่งผลให้ไปสู่สุคติ
ในชาดกตอนหนึ่ง พระโพธิสัตว์ได้กล่าวอย่างองอาจว่า
“ข้าพเจ้าไม่มีความชั่ว ซึ่งทำไว้ ณ ที่ไหน ๆ เลย
ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงไม่หวั่นเกรงความตายที่จะมาถึง”



อย่างไรก็ตามผู้ที่จะมั่นใจในความดีของตนถึงขนาดนั้น เห็นจะมีไม่มาก
คนส่วนใหญ่ย่อมมีบ้างที่พลั้งเผลอทำความชั่ว
หรือทำสิ่งที่ไม่สมควร และหากเป็นคนไกลวัด
ใจไม่แนบแน่นกับธรรมะ ก็ย่อมหวั่นไหวเมื่อความตายใกล้เข้ามา
ส่วนหนึ่งกลัวว่าจะไปอบาย แต่มีจำนวนไม่น้อยที่กลัว
เพราะจะต้องพลัดพรากจากทุกอย่างที่รักและหวงแหน รวมทั้งชีวิตนี้



ความกลัวดังกล่าวทำให้ผู้คนเป็นอันมากไม่สามารถตายอย่างสงบได้
มิพักต้องเอ่ยถึงความเจ็บปวดทางกาย
และความทุกข์ทางใจที่รุมเร้าในยามใกล้ตาย
ทำให้จิตใจกระสับกระส่ายและทุรนทุรายจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต


ในยามนี้สิ่งหนึ่งที่จะช่วยน้อมใจให้สงบจนสิ้นลมก็คือ
การระลึกถึงสิ่งดีงามอันเป็นที่ยึดเหนี่ยวของจิตใจ
สำหรับชาวพุทธก็ได้แก่ พระรัตนตรัย หรือพระโพธิสัตว์ เป็นต้น
สิ่งศักดิ์สิทธิ์และสูงส่งเหล่านี้ หากผู้ใดศรัทธานับถืออยู่ก่อนแล้ว
เมื่อระลึกนึกถึงคราใดย่อมเกิดความอบอุ่นใจ
และมั่นใจว่าจะได้รับการปกป้องคุ้มครองจนปลอดภัย
ความอบอุ่นและมั่นใจดังกล่าวเป็นโอสถอย่างดีที่เยียวยาจิตใจให้หายทุกข์
บรรเทาความกระสับกระส่ายให้คลายไป



ส่วนผู้ไกลวัด ที่ไม่รู้สึกแนบแน่นกับพระรัตนตรัย
ก็ใช่ว่าจะหมดโอกาสพบกับความสงบใจในวาระสุดท้าย
เพราะอย่างน้อยยังมีสิ่งดีงามอีกอย่างหนึ่งที่ควรแก่การระลึกนึกถึง
นั่นคือความดีที่ตนได้ทำ
มนุษย์ทุกคนย่อมเคยกระทำความดีมาแล้วไม่มากก็น้อย
ความดีเหล่านี้ไม่เคยสูญเปล่า
ยังสามารถช่วยเหลือเราได้ในยามใกล้ตาย



อย่างไรก็ตามเมื่อวาระสุดท้ายใกล้มาถึง
ปุถุชนมักถูกบีบคั้นด้วยทุกขเวทนา
อีกทั้งถูกครอบงำด้วยความกลัวและอารมณ์อกุศลต่างๆ
จนไม่มีสติมากพอที่จะนึกถึงความดีที่ตนเคยทำ
จึงจำเป็นที่ญาติมิตรจะช่วยน้อมใจเขาให้ระลึกถึงความดีงามเหล่านี้
การกระทำดังกล่าวสำคัญไม่น้อยไปกว่า
การบรรเทาความเจ็บปวดทางกายหรือการรักษาด้วยยา



ชายชราผู้หนึ่งป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ ในช่วงท้ายของชีวิต
เขามีอาการทรุดลงบ่อยครั้ง ทุกครั้งลูกหลานต้องรีบพาไปโรงพยาบาล
เมื่ออาการทุเลาจึงพากลับบ้าน สถานการณ์เป็นเช่นนี้อยู่หลายเดือน
ทั้งผู้ป่วยและลูกหลานมีความทุกข์ถ้วนหน้า
กระทั่งเดือนสุดท้าย มีหลานคนหนึ่งได้ไปเฝ้าไข้ผู้ป่วยแทบทุกวัน
หลานได้ชวนผู้ป่วยคุยเรื่องชีวิตในอดีต
เขาจึงเล่าเรื่องความภาคภูมิใจในวัยหนุ่ม
อาทิ การได้ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ ๑
และการรับราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต


หลานสังเกตว่าตลอดเวลาที่คุยเรื่องเหล่านี้ผู้ป่วยมีแววตาเป็นประกาย
สีหน้าเบิกบานและดูสงบมากขึ้น
ยิ่งเมื่อได้คุยกันเรื่องแก่นธรรมของพุทธศาสนาในตอนท้ายๆ
ผู้ป่วยก็ปล่อยวางได้มากขึ้น
หลังจากนั้นไม่นานผู้ป่วยก็เรียกลูกหลานมาสั่งเสีย
และจากไปอย่างสงบ ด้วยสีหน้าที่มีรอยยิ้มน้อย ๆ


ที่น่าแปลกก็คือ ตลอดหนึ่งเดือนเต็มที่หลานมานั่งคุยกับผู้ป่วย
เขาไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลยแม้แต่ครั้งเดียว


การเตือนใจให้ผู้ป่วยนึกถึงความดีของตนนั้น
สามารถทำได้แม้ในยามที่ผู้ป่วยอยู่ในภาวะโคม่าหรือไม่รู้สึกตัว
หญิงชราผู้หนึ่งใกล้จะสิ้นลมแล้ว ไม่มีอาการตอบสนองใดๆ
ลูกๆอยากให้แม่ถวายสังฆทานเป็นครั้งสุดท้าย
จึงไปนิมนต์พระรูปหนึ่ง ซึ่งบังเอิญมาอุปัฏฐากครูบาอาจารย์ของท่าน
ที่อาพาธในห้องใกล้ ๆ กัน เมื่อท่านรับสังฆทานเสร็จ
ก็สังเกตว่าผู้ป่วยมีอาการกระตุกไม่หยุด
สัญญาณชีพบนจอมอนิเตอร์พุ่งขึ้นลงเร็วมาก


ท่านอยากช่วยให้ผู้ป่วยจากไปอย่างสงบ
ดังนั้นเมื่อทราบจากลูกหลานว่าผู้ป่วยชอบใส่บาตรวันพระ
และไปกราบพระประธาน ที่วัดไตรมิตร
ท่านจึงบอกผู้ป่วยว่า โยม วันนี้เป็นวันพระ ให้คดข้าวใส่ขัน
เตรียมดอกไม้ธูปเทียนให้พร้อม จะไปใส่บาตรกัน
พร้อมแล้วก็ให้ไปที่หน้าบ้าน ทีนี้ท่านถามผู้ป่วยว่า ซ้ายมือมีพระไหม
ปรากฏว่าผู้ป่วยส่ายหน้า ท่านถามต่อว่า ขวามือมีพระไหม ทีนี้ผู้ป่วยพยักหน้า
พร้อมกับพนมมือ แล้วท่านก็พูดนำผู้ป่วยให้ใส่บาตรพระทีละองค์
จนครบ ๙ องค์ ถึงตอนนี้ผู้ป่วยมีอาการสงบอย่างเห็นได้ชัด
จากนั้นท่านก็พูดนำผู้ป่วยให้ไปกราบหลวงพ่อทองที่วัดไตรมิตร
พร้อมกับนั่งภาวนา หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ


ระหว่างที่พระนำจิต หญิงชราไม่มีอาการกระตุกอีกเลย
ส่วนสัญญาณชีพก็ค่อย ๆ ลดลง ในที่สุดก็แบนราบ
ลูก ๆ ดีใจมากที่แม่จากไปอย่างสงบ



ความดีหรือบุญกุศลนั้น นอกจากจะนำความแช่มชื่นเบิกบานมาสู่จิตใจ
ในขณะกระทำแล้ว ยังอำนวยให้เกิดความอิ่มเอิบปลาบปลื้มใจ
เมื่อระลึกนึกถึง จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในยามใกล้ตาย



ที่มา... รูปภาพ
นิตยสาร ซีเครท : No.34 26 November 2009 Vol.2
Joyful Life & Peaceful Death อานุภาพแห่งความดี
พระไพศาล วิสาโล
http://www.visalo.org


:b48: :b8: :b48:

เจ้าของ:  ธรรมบุตร [ 13 พ.ค. 2010, 14:23 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานุภาพแห่งความดี (พระไพศาล วิสาโล)

รูปภาพ

:b8: อนุโมทนา..สาธุ..จร้า..น้องลูกโป่ง :b8:

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 13 พ.ค. 2010, 16:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานุภาพแห่งความดี (พระไพศาล วิสาโล)

:b48: :b8: :b48:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ smiley smiley smiley

:b48: :b8: :b48:

เจ้าของ:  คนเดินทาง [ 14 พ.ค. 2010, 15:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานุภาพแห่งความดี (พระไพศาล วิสาโล)

อนุโมทนา สาธุค่า

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/