วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 02:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2010, 12:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ


ความสุข คืออะไร

ความสุข คืออะไร ความสุข เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา
และพากันแสวงหา ด้วยวิธีการต่างๆ
ตามแต่ระดับของสติและปัญญา ที่จะอำนวยให้ได้
แต่ถ้าระดับของสติและปัญญาอ่อนลงมากเท่าไร
การแสวงหาความสุขนั้นๆ
ก็ย่อมจะพาเอาความทุกข์ พ่วงเข้ามาด้วยมากเข้าเท่านั้น


ความหมายของความสุข คือ ความสบาย หรือ ความสำราญ
เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา และพากันแสวงหาตามแต่สติและปัญญา
ด้วยวิธีการต่างๆ แยกออกได้เป็นสองฝ่าย
คือ ความสุขทางกาย กับความสุขทางใจ



ความหมายของความสุขทางกาย ได้แก่
ความสุขที่สัมผัสได้จากประสาททั้ง 5
คือ รูป เสียง กลิ่น รส และผิวหนัง
เรียกว่า "กามคุณ 5"
หรือความสุขที่เกิดจากเนื้อหนังมังสา อันเป็นสิ่งสกปรก



ความหมายของความสุขทางใจ ได้แก่
ความสุขที่สัมผัสได้จากจิต คือ ความสบายใจ
ความสุขใจ ความอิ่มใจ ความพอใจ
อันเกิดจากจิตใจที่สงบและเย็น
อันเป็นความสุขที่สะอาดเป็น ความสุขที่แท้จริง



ความสุขทั้งทางกายและทางใจ ย่อมมีส่วนสัมพันธ์กัน
ไม่อาจจะแยกให้ขาดจากกันได้
เพราะต่างก็ต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน
จะขาดเสียอย่างใดอย่างหนึ่งหาได้ไม่


ในความสุขทั้งสองฝ่ายนี้
ความสุขทางใจ นับว่าเป็น "ยอดแห่งความสุข"
ถ้าเรากระทำสิ่งใดแล้วจิตใจไม่มีความสุข
แม้ว่าเราจะมีวัตถุมากมายครบถ้วน
คอยอำนวยความสุขทุกรูปแบบ
ก็หาได้ก่อให้เกิดความสุขที่สมบูรณ์หรือแท้จริงไม่


แต่ในทางตรงกันข้าม แม้ว่าทางร่างกายจะขาดแคลนวัตถุ
ที่จะอำนวยความสุข แต่ถ้าจิตใจมันมีปีติหล่อเลี้ยง
มีความพอใจ มีความสงบใจ คนก็ย่อมจะประสบความสุขได้



ในคำสอนของพระพุทธเจ้า
ที่ทรงพร่ำสอนพระ ทรงย้ำให้พระมีชีวิตอยู่อย่าง
"สันโดษ" และ "มักน้อย" ให้มีอาหารหรือปัจจัย 4 หล่อเลี้ยงชีวิต
เหมือนน้ำมันหยอดเพลาเกวียนเท่านั้น!


จากพุทธปฏิปทานี้ ชาวบ้านผู้ครองเรือน
ก็สามารถประยุกต์เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
นั่นคือ อย่าให้ตึงจนถึงเดือดร้อน และอย่าให้หย่อนจนตัวเป็นขน


หลักมัชฌิมาปฏิปทา คือ ทางสายกลาง ไม่ตึงไม่หย่อน
จึงเป็นแนวทางที่ควรนำมาดำเนินชีวิต
เพื่อให้เกิดความสุขในชีวิตประจำวันได้อย่างดีเยี่ยม
ถ้าใช้เป็นและใช้ให้ถูกต้องกับกาลเทศะ บุคคลและอัตภาพของตน


สรุปว่า ความสุขก็คือความสบายกาย และสบายใจ ในสองอย่างนี้
ความสุขใจ นับว่าเป็นยอดแห่งความสุขในโลก
และทุกคนก็สามารถที่จะบรรลุความสุขใจนี้ได้
หากปฏิบัติตามหลัก "มัชฌิมาปฏิปทา" คือ ทางสายกลาง
ไม่ตึงไม่หย่อนเกินไป จึงเป็นแนวทางที่ควรนำมาดำเนินชีวิต
เพื่อให้เกิดความสุขในชีวิตประจำวันได้อย่างดีเยี่ยม


พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ. ๙)
เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร
watdevaraj@hotmail.com

ที่มา...หนังสือพิมพ์ข่าวสด


:b48: :b8: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2010, 16:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

:b8: อนุโมทนา..สาธุ..จร้า..น้องลูกโป่ง :b8:

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 148 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron