วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 06:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 12:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

มั คี

บุคคล ผู้เกิดมาในโลกนี้ จะอยู่คนเดียวเสียไม่ได้เลย
จำเป็นจะต้องอยู่รวมกันเป็นหมู่เป็นคณะ

การอยู่รวมกันเป็นหมู่ เป็นคณะเป็นครอบครัว เป็นสังคม เป็นประเทศชาตินั้น
ในบางครั้งจะต้องมีความเห็นไม่ตรงกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์โลก
ดังนั้นพออยู่รวมกันเป็นหมู่เป็นคณะจึงจำเป็นจะต้องมี ความสามัคคี


ความ สามัคคี ก็คือความพร้อมเพรียงพร้อมใจกัน
กลมเกลียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน รู้จักตกลงกันด้วยไมตรีจิต

ใน ทางพระพุทธศาสนา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัส
หลักธรรมอันจะเป็นแนวทางในการเสริมสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในสังคม
เอา ไว้ ประการด้วยกันคือ


๑. เ ม ต ต า ม โ น ก ร ร ม

หมายถึง การคิดดี การมองกันในแง่ดี
มีความหวังดีและปรารถนาดีต่อกัน รักและเมตตาต่อกัน คิดดีต่อกัน
ไม่อิจฉาริษยา ไม่คิดอคติ ไม่พยาบาท ไม่โกรธแค้นเคืองกัน
รู้จักให้โอกาสและให้อภัยต่อกันและกันอยู่เสมอ

๒. เ ม ต ต า ว จี ก ร ร ม

หมายถึง การพูดแต่สิ่งที่ดีงาม พูดกันด้วยความรักความปรารถนาดีต่อกัน
รู้จักการพูดให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ไม่นินทาว่าร้ายทั้งต่อหน้าและลับหลัง
พูดแนะนำในสิ่งที่ดีและมีประโยชน์

๓. เ ม ต ต า ก า ย ก ร ร ม

หมาย ถึง การทำความดีต่อกัน สนับสนุนช่วยเหลือกันทางด้านกำลังกาย
มีความอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่เบียดเบียนหรือรังแกกัน
ไม่ทำร้ายกัน ให้ได้รับความทุกขเวทนา ทำแต่ในสิ่งที่ถูกต้องต่อกันอยู่เสมอ

รูปภาพ

๔. ส า ธ า ร ณ โ ภ คี

หมายถึง การช่วยเหลือกัน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน
ไม่เอารัดเอาเปรียบ และมีความเสมอภาคต่อกัน เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันอยู่เสมอ

. สีลสามัญญตา

หมายถึง การปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับหรือวินัยต่างๆ อย่างเดียวกัน
เคารพในสิทธิเสรีภาพของบุคคล

๖. ทิ ฏ ฐิ ส า มั ญ ญ ต า

หมายถึง มีความคิดเห็นเป็นอย่างเดียวกัน คิดในสิ่งที่ตรงกัน ปรับมุมมองให้ตรงกัน
ไม่ยึดถือความคิดของตนเป็นใหญ่ รู้จักยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นอยู่เสมอ

หลักธรรมทั้ง ประการข้างต้น
เป็นหลักธรรมสำหรับการเสริมสร้างความสามัคคีและความเป็นปึกแผ่นให้เกิดขึ้น ในสังคม
อันจะนำ มาซึ่งความสุข ความสันติ ความมั่นคง และความเจริญก้าวหน้า


ดั่งพุทธภาษิตที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า

"สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี ความสามัคคีของหมู่คณะเป็นเหตุนำความสุขมาให้"

เพราะฉะนั้นบุคคลผู้อยู่ร่วมกันเป็นส่วนรวม
เช่น เป็นหมู่ เป็นคณะ เป็นครอบครัว เป็นสังคม เป็นประเทศชาติ
หากขาดความปรองดองพร้อมเพรียงกันแล้ว
การทำกิจการงานเพื่อส่วนรวมก็สำเร็จลงได้น้อย หรืออาจไม่สำเร็จเลยก็เป็นได้

ชนใด หมู่ใด คณะใด ครอบครัวใด ประเทศใด มีความพร้อมเพรียงกันทั้งทางกายทางใจ
ชนนั้น หมู่นั้น คณะนั้น ครอบครัวนั้น ประเทศนั้น ก็เจริญงอกงาม ไม่มีความเสื่อมเลย


:b8: :b8: :b8:

(ที่มา : คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด ใน นสพ.ข่าวสดรายวัน
ประจำวันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ปีที่ ๑๙ ฉบับที่ ๗๐๕๑, หน้า ๓๑)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 67 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร