ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ชีวิตน้อย ด้วยเหตุ 2 ประการ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=29588
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 17 ก.พ. 2010, 15:05 ]
หัวข้อกระทู้:  ชีวิตน้อย ด้วยเหตุ 2 ประการ

ชีวิต เป็นของน้อย.

ชีวิต ได้แก่ อายุ ความตั้งอยู่ ความดำเนินไป ความให้อัตภาพดำเนินไป ความเคลื่อนไหว ความ
เป็นไป ความเลี้ยง ความเป็นอยู่ ชีวิตินทรีย์.

ชีวิตน้อยโดยเหตุ ๒ ประการ คือ
ชีวิตน้อยเพราะตั้งอยู่น้อย ๑
ชีวิตน้อยเพราะมีกิจน้อย ๑.


ชีวิตน้อยเพราะตั้งอยู่น้อยเป็นอย่างไร?

ชีวิตเป็นอยู่แล้วในขณะจิตเป็นอดีต ย่อมไม่เป็นอยู่ จักไม่เป็นอยู่.
ชีวิตจักเป็นอยู่ ในขณะจิตเป็นอนาคต ย่อมไม่เป็นอยู่ ไม่เป็นอยู่แล้ว.
ชีวิตย่อมเป็นอยู่ในขณะจิตเป็นปัจจุบัน ไม่เป็นอยู่แล้ว จักไม่เป็นอยู่.



สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

ชีวิต อัตภาพ สุขและทุกข์ทั้งมวล
เป็นธรรมประกอบกันเสมอด้วยจิตดวงเดียว ขณะย่อมเป็นไปพลัน
เทวดาเหล่าใดย่อมตั้งอยู่ตลอดแปดหมื่นสี่พันกัป เทวดาเหล่านั้น ย่อมไม่เป็นผู้ประกอบด้วยจิตสองดวง
ดำรงอยู่เลย

ขันธ์เหล่าใดของสัตว์ผู้ตายหรือของสัตว์ที่เป็นอยู่ในโลกนี้ดับแล้ว
ขันธ์เหล่านั้นทั้งปวงเทียว เป็นเช่นเดียวกันดับไปแล้ว มิได้สืบเนื่องกัน


ขันธ์เหล่าใด แตกไปแล้วในอดีตเป็นลำดับและขันธ์เหล่าใดแตกไปแล้วในอนาคตเป็นลำดับ
ความแปลกกันแห่งขันธ์ทั้งหลาย ที่ดับไปในปัจจุบันกับด้วยขันธ์เหล่านั้น ย่อมมิได้มีในลักษณะ

สัตว์ไม่เกิดแล้วด้วยอนาคตขันธ์ ย่อมเป็นอยู่ด้วยปัจจุบันขันธ์

สัตว์โลกตายแล้วเพราะความแตกแห่งจิต นี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์
ขันธ์ทั้งหลายแปรไปโดยฉันทะ ย่อมเป็นไป ดุจน้ำไหลไปตามที่ลุ่ม
ฉะนั้นย่อมเป็นไปตามวาระ อันไม่ขาดสายเพราะอายตนะ ๖ เป็นปัจจัย


ขันธ์ทั้งหลายแตกแล้ว มิได้ถึงความตั้งอยู่
กองขันธ์มิได้มีในอนาคต
ขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแล้วย่อมตั้งอยู่ เหมือนเมล็ดพันธุ์ผักกาด ตั้งอยู่บนปลายเหล็กแหลม ฉะนั้น

ก็ความแตกแห่งธรรมขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแล้วนั้นสกัดอยู่ข้างหน้าแห่งสัตว์เหล่านั้น
ขันธ์ทั้งหลายมีความทำลายเป็นปกติ มิได้รวมกับขันธ์ที่เกิดก่อน ย่อมตั้งอยู่

ขันธ์ทั้งหลายมาโดยไม่ปรากฏ
แตกแล้วก็ไปสู่ที่ไม่ปรากฏ
ย่อมเกิดขึ้นและเสื่อมไป เหมือนสายฟ้าแลบในอากาศ ฉะนั้น.

ชีวิตน้อยเพราะตั้งอยู่น้อยอย่างนี้.

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 17 ก.พ. 2010, 15:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ชีวิต น้อยด้วยเหตุ 2 ประการ

ชีวิตน้อยเพราะมีกิจน้อยอย่างไร?

ชีวิตเนื่องด้วยลมหายใจออก
ชีวิตเนื่องด้วยลมหายใจเข้า
ชีวิตเนื่องด้วยลมหายใจออกและลมหายใจเข้า
ชีวิตเนื่องด้วยมหาภูตรูป
ชีวิตเนื่องด้วยไออุ่น
ชีวิตเนื่องด้วยอาหารที่กลืนกิน
ชีวิตเนื่องด้วยวิญญาณ.


กรัชกายอันเป็นที่ตั้งแห่งลมหายใจออกและลมหายใจเข้าเหล่านี้ก็ดี
อวิชชา สังขาร ตัณหา อุปาทาน และภพอันเป็นเหตุเดิม แห่งลมหายใจออกและลมหายใจเข้าเหล่านี้ก็ดี ปัจจัยทั้งหลายก็ดี ตัณหาอันเป็นแดนเกิดก่อนก็ดี
รูปธรรมและอรูปธรรมที่เกิดร่วมกันแห่งลมหายใจออกและลมหายใจเข้าเหล่านี้ก็ดี
อรูปธรรมที่ประกอบกันแห่งลมหายใจออกและลมหายใจเข้าเหล่านี้ก็ดี
ขันธ์ที่เกิดร่วมกันแห่งลมหายใจออกและลมหายใจเข้าเหล่านี้ก็ดี


ตัณหาอันประกอบกันก็ดีก็มีกำลังทราม
ธรรมเหล่านี้มีกำลังทรามเป็นนิตย์ต่อกันและกัน มิได้ตั้งมั่นต่อกันและกัน ย่อมยังกันและกันให้ตกไป

เพราะความต้านทานมิได้มีแก่กันและกัน
ธรรมเหล่านี้จึงไม่ดำรงกันและกันไว้ได้

ธรรมใดให้ธรรมเหล่านี้เกิดแล้ว ธรรมนั้นมิได้มี
ก็แต่ธรรมอย่างหนึ่งมิได้เสื่อมไปเพราะธรรมอย่างหนึ่ง
ก็ขันธ์เหล่านี้แตกไปเสื่อมไปโดยอาการทั้งปวง



ขันธ์เหล่านี้อันเหตุปัจจัยมีในก่อนให้เกิดแล้ว
แม้เหตุปัจจัยอันเกิดก่อนเหล่าใด เหตุปัจจัยเหล่านั้นก็ตายไปแล้วในก่อน


ขันธ์ที่เกิดก่อนก็ดี ขันธ์ที่เกิดภายหลังก็ดี มิได้เห็นกันและกันในกาลไหนๆ

ฉะนั้น ชีวิตจึงชื่อว่าเป็นของน้อยเพราะมีกิจน้อยอย่างนี้.

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 17 ก.พ. 2010, 15:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ชีวิต น้อยด้วยเหตุ 2 ประการ

อนึ่ง
เพราะเทียบชีวิตของเทวดาชั้นจาตุมมหาราชิกา ชีวิตมนุษย์ก็น้อยคือ เล็กน้อยนิดหน่อย เป็นไปชั่วขณะ เป็นไปพลัน เป็นไปชั่วกาลบัดเดี๋ยวเดียว ตั้งอยู่ไม่ช้า ไม่ดำรงอยู่นาน.

เพราะเทียบชีวิตของเทวดาชั้นดาวดึงส์ ... เพราะเทียบชีวิตของเทวดาชั้นยามา ... เพราะ
เทียบชีวิตของเทวดาชั้นดุสิต ... เพราะเทียบชีวิตของเทวดาชั้นนิมมานรดี ... เพราะเทียบชีวิตของ
เทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัสดี ... เพราะเทียบชีวิตของเทวดาที่เนื่องในหมู่พรหม ชีวิตมนุษย์น้อย
คือ เล็กน้อย นิดหน่อย เป็นไปชั่วขณะ เป็นไปพลัน เป็นไปชั่วกาลบัดเดี๋ยวเดียว ตั้งอยู่ไม่ช้า
ดำรงอยู่ไม่นาน.

สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อายุของพวกมนุษย์นี้น้อยจำต้องละไปสู่ปรโลก มนุษย์ทั้งหลายจำต้องประสบความตายตามที่รู้กันอยู่แล้ว ควรทำกุศล ควรประพฤติพรหมจรรย์ ไม่มีมนุษย์ที่เกิดมาแล้วจะไม่ตาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดย่อมเป็นอยู่นานผู้นั้นก็เป็นอยู่ได้เพียง ๑๐๐ ปี หรือที่เกินกว่า ๑๐๐ ปี ก็มีน้อย.


พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

อายุของพวกมนุษย์น้อย บุรุษผู้ใคร่ความดี พึงดูหมิ่นอายุที่น้อยนี้
พึงรีบประพฤติให้เหมือนคนถูกไฟไหม้ศีรษะ ฉะนั้น เพราะภาวะความ
ตาย จะไม่มาถึงมิได้มี วันคืนย่อมล่วงเลยไป ชีวิตก็กระชั้นเข้าไป
สู่ความตาย อายุของสัตว์ทั้งหลาย ย่อมสิ้นไป เหมือนน้ำในแม่น้ำ
น้อยย่อมสิ้นไป ฉะนั้น.


http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=29&A=487&Z=1310&pagebreak=0

เจ้าของ:  เอรากอน [ 17 ก.พ. 2010, 15:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ชีวิต น้อยด้วยเหตุ 2 ประการ

:b12: :b12: :b12:

อิ อิ เอกอนขอเข้ามาทำร่องรอยเอาไว้ก่อน...

smiley smiley smiley

:b17: :b17: :b17:

ทำเป็น collection ของท่านนะ...เจ้าคะ...

:b8: :b16: :b8: :b16:

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 17 ก.พ. 2010, 16:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ชีวิต น้อยด้วยเหตุ 2 ประการ

สวัสดีครับ มังกรน้อย
อย่าเก็บไว้เป็นเพียง collection นะครับ
น้อมนำพระธรรมบท เป็นบทตั้งแห่งอารมณ์กรรมฐาน
มีสติตั้งไว้กับลมหายใจเข้าลมหายใจออก
เจริญวิปัสสนา พิจารณากายในกาย
ด้วยธรรมบทด้วย อนิจจสัญญา หรือ ทุกขสัญญา

ด้วยจิตที่น้อมไปในพระธรรมบท พิจารณาธรรมอันเป็นภายใน
ก็เป็นอัน สติปัฏฐานนั้นตั้งมั่นด้วยความบริบูรณ์

มีความเพียร เพ่งเผากิเลส ระมัดระวังไม่เผลอเลอ

เจริญธรรม

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 21 ก.พ. 2010, 20:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ชีวิต น้อยด้วยเหตุ 2 ประการ

ปณฺฑุปลาโสว ทานิสิ
ยมปุริสาปิ จ ตํอุปฏฺฐิตา
อุยฺโยคมุเข จ ติฏฺฐสิ
ปาเถยฺยมฺปิ จ เต น วิชฺชติ.
โส กโรหิ ทีปมตฺตโน
ขิปฺปํ วายม ปณฺฑิโต ภว
นิทฺธนฺตมโล อนฺคโณ
ทิพฺพํ อริยภูมิเมหิสิ.

บัดนี้ ท่านเป็นดุจใบไม้เหลือง, อนึ่ง บุรุษแห่งพระยายม
(คือความตาย) ปรากฏแก่ท่านแล้ว. ท่านตั้งอยู่ใกล้ปาก
แห่งความเสื่อม, อนึ่ง แม้เสบียงทางของท่าน ก็ยังไม่มี.
ท่านนั้น จงทำที่พึ่งแก่ตน, จงรีบพยายาม จงเป็นบัณฑิต
ท่านกำจัดมลทินได้แล้ว ไม่มีกิเลสเพียงดังเนิน จักถึง
อริยภูมิอันเป็นทิพย์.

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 06 มี.ค. 2010, 23:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ชีวิต น้อยด้วยเหตุ 2 ประการ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
อัจเจนติสูตรที่ ๔


[๙] เทวดานั้น ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วแล ได้กล่าวคาถา
นี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า

กาลทั้งหลายย่อมล่วงไป ราตรีทั้งหลายย่อมผ่านไป ชั้นแห่ง
วัยย่อมละลำดับไป บุคคลเมื่อเห็นภัยนี้ในมรณะ พึงทำบุญ
ทั้งหลายที่นำความสุขมาให้ ฯ


(พระผู้มีพระภาคตรัสว่า)
[๑๐]กาลทั้งหลายย่อมล่วงไป ราตรีทั้งหลายย่อมผ่านไป ชั้น
แห่งวัยย่อมละลำดับไป บุคคลเมื่อเห็นภัยนี้ในมรณะ พึงละอามิสในโลกเสีย มุ่งสันติเถิด ฯ

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 25 มี.ค. 2010, 13:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ชีวิต น้อยด้วยเหตุ 2 ประการ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
นันทนวรรคที่ ๒
นันทนสูตรที่ ๑


[๒๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาค
ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระดำรัสของ
พระผู้มีพระภาคแล้ว ฯ

[๒๔] พระผู้มีพระภาคตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว

พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์องค์หนึ่งแวดล้อมด้วยหมู่นางอัปสร
อิ่มเอิบพรั่งพร้อมด้วยเบญจกามคุณอันเป็นทิพย์ พวกนางอัปสรบำเรออยู่ในสวนนันทวัน
ได้กล่าวคาถานี้ในเวลานั้นว่า


เทวดาเหล่าใดไม่เห็นนันทวัน อันเป็นที่อยู่ของหมู่นรเทพสามสิบ ผู้มียศ เทวดาเหล่านั้นย่อมไม่รู้จักความสุข ฯ


[๒๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเทวดานั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว เทวดาองค์หนึ่งได้ย้อนกล่าวกะเทวดานั้นด้วยคาถาว่า

ดูกรท่านผู้เขลา ท่านย่อมไม่รู้จักคำของพระอรหันต์ทั้งหลายว่า

สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง มีความเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ความสงบระงับสังขารเหล่านั้นเสียได้เป็นสุข ฯ

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 08 ก.ค. 2013, 00:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ชีวิต น้อยด้วยเหตุ 2 ประการ

rolleyes

เจ้าของ:  ศิษย์หลวงปู่ทา [ 08 ก.ค. 2013, 08:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ชีวิตน้อย ด้วยเหตุ 2 ประการ

ขออนุโมทนาครับ สาธุขอบคุณครับ :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/