ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สิ้นสุดพุทธศาสนา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=29294 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ccc [ 03 ก.พ. 2010, 09:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | สิ้นสุดพุทธศาสนา |
![]() ![]() ![]() เมื่อกล่าวถึงพุทธธรรม เขาบอกว่าศาสนาพุทธนี้มีอายุยืนยาวอยู่แค่ 5,000 ปี จริง ๆ แล้วไม่ได้มีในคัมภีร์ทางพุทธศาสนา ชั้นบาลีแต่อย่างใด แต่มีอยู่ในเวสสันดรชาดก ซึ่งเป็นวรรณกรรมที่ เพิ่งเกิดประมาณ 800 ปี แต่ถูกจริตฮิตในสังคมไทยเรามาก พุทธพจน์ที่ได้รับปรารภกับพระอานนท์ซึ่งเป็นผู้ขวนขวายให้ ผู้หญิงบวช ความเล่าว่าแม่เลี้ยงของท่าน (นางมหาปชาบดีโคตมี) พร้อมนางสากิยานีอีก 500 คนไปฟังธรรม อินทรีย์สุกงอม ก็อยาก บรรลุธรรม จึงได้มีการขอบวชในเวลาต่อมา พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า ![]() ![]() ![]() "อานนท์ ธรรมวินัยนี้ การปฏิบัติธรรมหรือธรรมะแบบนี้ ถ้าให้ผู้หญิงเข้ามาบวช จะทำให้อายุของพระธรรมวินัยนี้ลดลงครึ่งหนึ่ง เช่นหากสมมุติว่ามี 10,000 ปี ก็จะเหลือ 5,000 ปี" อาศัยเงื่อนปมต้นเค้าจากเหตุการณ์นั้น ได้กลายมาเป็น สมมุติฐานความเข้าใจ และได้นำมาสร้างเรื่องปกรณ์ขยายไว้ ในเวสสันดรชาดก และมาลัยสูตร ท่านอาจจะตรัสถึงในใจของคนก็ได้ เพราะจริง ๆ แล้ว ใน คัมภีร์เองก็เพียงแค่สมมุติ บาลีใช้คำว่า "สเจ" แปลว่าถ้าหากว่า หรือสมมุติว่า ในเบื้องแรกของการประพฤติพรหมจรรย์ ณ เวลา นั้นท่านคงไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะให้ผู้หญิงเข้ามายุ่ง มันเป็นเรื่องของพระ เพราะในสังคมอินเดีย นักชวชจะอยู่ตามป่า ถ้าให้ผู้หญิง เข้ามาอยู่ด้วย ก็จะทำให้เกิดความยุ่งยากวุ่นวาย เพราะสมัยแรก ๆ ยังไม่มีการสร้างที่พักวัดวาอาวาสมากมาย ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมก็ได้ สังคมวรรณะอินเดียนิยม ให้ผู้หญิงอยู่บ้าน เป็นแม่ศรีเรือนมากกว่าที่จะอุทิศตนตามหลัก อาศรม 4 ของพราหมณ์ แต่พอมาระยะหลัง สถานธรรมเกิดขึ้น ทั่วไป สังคมเข้าใจ ยอมรับสมณะเพศที่เป็นผู้หญิงได้แล้ว ความ เหมาะสมก็เกิดตามมาด้วยเหตุปัจจัยตามธรรมชาติ ![]() ![]() ![]() เรื่องอายุของพระพุทธศาสนานี้ ความจริงพระพุทธองค์ก็ได้ ตรัสไว้หลายแห่ง ยืนยันถึงสามัญผลว่าเป็นอกาลิโก หากยังมีผู้ปฏิบัติตามธรรมวินัยอยู่ โลกนี้ก็จะไม่ไร้พระอรหัสต์ หรือในสติปัฏฐานสูตรก็รับรองเอาไว้ว่า หากเจริญสติอย่าง ถูกต้องต่อเนื่องแล้ว จะสามารถเข้าถึงความสิ้นทุกข์ได้ในปัจจุบัน ชาตินี้ หรือหากแม้อุปาทิยังเหลืออยู่ ก็จะเป็นพระอนาคามี ภายใจ 7 วัน 7 เดือน หรือย่างมากสุดก็ไม่เกิน 7 ปี ในโพธิราชกุมารสูตรตรัสว่า หากผู้ปฏิบัติทำอย่างถูกต้อง ภายใต้เงื่อนไข 5 ข้อ คือ มีศรัทธา, เวทนาเบาบาง, ไม่โอ้อวดมายาสาไถ, ขยันปรารภความเพียรเป็นนิจ, มีปัญญาเพ่งพินิจเห็นการเกิดดับได้... ปฏิบัติเช้ารู้เย็น หรือปฏิบัติตอนเย็น บรรลุธรรมตอนเช้าได้เลย เรื่องของสมมุตินี้ เราต้องฟังหูไว้หู ศรัทธาอยู่ไหนให้ ปัญญาอยู่ด้วย ที่สำคัญ เราเองควรปฏิบัติตามคำสอนอย่างเคร่งครัด เดินตามรอยตถาคตไปแล้ว จะหายสงสัยในพุทธธรรมได้ทั้งหมด ![]() ![]() ![]() ![]() จิตเป็นอิสระมากเท่าใด ก็เข้าใจชีวิตมากเท่านั้น แต่ถ้าศึกษาพุทธธรรมจนเข้าใจ จิตเป็นอิสระมากเท่าใด เราจะเข้าใจได้มากเท่านั้น ซึ่งความหมายของพุทธศาสนาในแง่ที่ว่า จะอยู่ได้นานหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของความเจริญมรรคผล ดังที่ พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า "ดูก่อนอานนท์ ตราบใดก็ตาม เมื่อยังมีคนเจริญมรรคอยู่ เรื่อย ๆ พระอริยบุคคลจะไม่เว้นจากโลกนี้ จะไม่ขาดจากธรรมวินัย จะมีอยู่อย่างนั้น" ![]() ![]() ![]() เรื่องนี้เป็นการวัดที่คุณภาพทางจิต ซึ่งจิตของเรานั้นมีขันธ์ อยู่ 5 อย่าง ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ตัวขันธ์ 5 นั้นจะถูกผูกพันด้วยอุปาทานทั้ง 5 คือ 1) กามุปาทาน ความยึดมั่นในกาม 2) ทิฏฐุปาทาน ความยึดมั่นในทิฐิหรือทฤษฎี 3) สีลัพพตุปาทาน ความยึดมั่นในศีลและพรต พิธีกรรม 4) อัตตวาทุปาทาน ความยึดมั่นในตัวตน สิ่งเหล่านี้มันมาพันขันธ์ห้า ซึ่งจะถูกผูกด้วยอารมณ์และ อุปาทาน เขาจึงบอกว่าพุทธศาสนั้นมีถึงห้าพัน สิ้นห้าพันแล้ว ก็จะหมดไป แต่ไม่ด้หมายความว่าเป็น หนึ่งพัน สองพัน สามพัน สี่พัน หรือห้าพัน แต่หมายถึงถูกกิเลสมาพันขันธ์ห้าเฉย ๆ เมื่อใดที่เราทำลายได้ เกิดปัญญารู้แจ้งในขันธ์ 5 พุทธศาสนาก็จบ คือจบตรงที่เราไม่ต้องมีพุทธศาสนาเป็นตัวมาศึกษาจิตของเรา เมื่อใดที่ต้องศึกษาอยู่ ยังมีสิกขาทั้งสาม คือศีล สมาธิ ปัญญา มารองรับอยู่ ก็ชื่อว่ายังเป็นที่ต้องมีพุทธะเฝ้าประกันความปลอดภัยในขันธ์ห้าอยู่ ![]() ![]() ![]() แต่เมื่อใดก็ตามที่เราเข้าถึงสภาวะ มันจะไม่มีอะไร คือมันเข้าถึงความเป็นอนัตตาอย่างแท้จริง เราจะไม่ต้องศึกษาอะไรอีกเลย เรียกว่าสิ้นสุดพุทธศาสนาแล้ว เป็นอเสขะ จบพรหมจรรย์ เรียกว่า เป็นศาสนาสากล เรียกว่าเข้าถึงความจริงอันสูงสุด(อันติมะ) พอเข้าถึงภาวะแบบนั้นแล้ว เราก็ไม่ต้องไปทุกข์กับอะไร ไม่ต้องไปเป็นอะไร ไม่ต้องเป็นพุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ หรือฮินดู ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น คัดลอกจาก แค่เฝ้าดู ก็รู้ธรรม ส.มหาปัญโญภิกขุ "ความเชื่อเรื่องอดีตชาติ ชาตินี้ชาติหน้า คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ เพราะมันไม่มีส่วนทำให้ พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง หรือถดถอยลง อยู่ที่ว่า ปัจจุบันมันมี แล้วคุณใช้ชีวิตในปัจจุบันนี้อย่างไร" ว.วชิรเมธี น้ำไหลอายุขัยก็ไหลร่วง ใบไม้ร่วงชีพก็ร้างอย่างความฝัน ฆ่าเวลาก็คือฆ่าพร่าคืนวัน จะกำนัลโลกนี้มีงานใด... ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |