ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ต้องการ : ไม่ต้องการ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=28662 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ธรรมบุตร [ 15 ม.ค. 2010, 12:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | ต้องการ : ไม่ต้องการ |
ต้องการ : ไม่ต้องการ ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการและความไม่ต้องการ แท้จริงแล้ว ความต้องการนั้นมีอำนาจบั่นทอนความสุข และความไม่ต้องการนั้นมีพลังปิดกั้นความสุข ขณะที่ต้องการหรือไม่ต้องการสิ่งใด ความสุขจะหลบไปชั่วขณะไม่ปรากฏที่ใจ หากไม่รีบคลี่คลายสู่ภาวะอันควร ความสุขอาจจะหายไปเลย ดังนั้น หากมีความต้องการหรือความไม่ต้องการ ต้องรีบบริหารใจโดยด่วน ความต้องการของมนุษย์มีหลายชั้น คือ • ความต้องการที่จินตนาการผสมแต่งต่อ • ความต้องการที่ตลาดโน้มน้าว • ความต้องการที่สังคมยัดเยียดให้ • ความต้องการที่ตนปรารถนา • ความต้องการตามธรรมชาติ ความต้องการเหล่านี้ทุกชั้นสามรถแตกตัวได้ไม่รู้จบความต้องการของมนุษย์และสังคมมนุษย์เพิ่มขึ้นทุกปี ทุกยุค ไม่เคยลดลง มีแต่เพิ่มขึ้น ความต้องการจึงมีธรรมชาติขยายพันธุ์ไม่สิ้นสุด การวิ่งตามความต้องการจึงไม่เคยจบหรือสำเร็จบริบูรณ์ ทั้งนี้ไม่ว่ามนุษย์คนใดในโลก หรือพระเจ้าองค์ใดในสวรรค์ ชีวิตที่โลดแล่นตามความต้องการจึงเป็นชีวิตที่ลอยละล่องอยู่บนริ้วคลื่นแห่งปรารถนาที่ไม่มีวันจบสิ้น การกลั่นกรองความต้องการ แท้จริงแล้ว ในบรรดาความต้องการทั้งหมดที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทุกวันนั้น มีเพียงไม่กี่ความต้องการที่มีคุณสมบัติควรค่าแก่การพิจารณาปฏิบัติตาม ความต้องการที่ควรดำเนินตามคือ • ความต้องการที่ยังคุณค่าให้เกิดแก่ตนเองและคนอื่นจริง • ความต้องการที่ยังประโยชน์ทั้งปัจจุบันและอนาคต • ความต้องการที่ไม่นำผลร้ายใด ๆ ต่อเนื่องตามมาแม้นหากมีอยู่ ก็อยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้ • ความต้องการที่มีความเป็นไปได้จริง • ความต้องการที่เหมาะสมกับกาลเวลาและสถานการณ์ • ความต้องการที่ไม่ทำให้สูญเสียความสุขปัจจุบันและความสุขในอนาคต ต่อไปนี้เมื่อมีความต้องการใด จงเอามาตรเหล่านี้ไปกลั่นกรองดูเถิด จะพบว่าในบรรดาความต้องการทั้งหมดที่ปรากฏต่อชีวิต และที่สังคมยัดเยียดให้ มีให้ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ที่ควรดำเนินตาม คนที่จะประสบความสำเร็จสุขได้ต้องไม่วิ่งตามความต้องการสะเปะสะปะ ไม่ว่าจะเป็นของตนหรือของคนอื่นแต่ต้องกลั่นกรองเฟ้นหาความต้องการที่ดีจริง คุ้มค่าจริงอย่างแม่น ๆ ไม่กี่อย่าง แล้วทุ่มเททำจริง ๆ จัง ๆ ก็จะประสบความสำเร็จได้ ส่วนคนที่ปรนเปรอความต้องการอันไม่รู้จบทั้งของตนหรือของคนอื่น คือข้าทาสผู้วิ่งตามกระแสอารมณ์และปรารถนาที่ในที่สุดก็ไม่รู้ว่าพาไปไหนกัน เพราะมนุษย์เกือบทั้งโลกวิ่งตามความต้องการกันอย่างไม่ได้ประเมินผลสุดท้าย ณ ปลายทางเลย ดังนั้น อยากมีความสุข อย่าวิ่งตามความต้องการอันไม่รู้จบ ไม่ว่าของตนหรือของคนอื่น แต่จงกลั่นกรองเลือกเฟ้นให้แม่น ๆ และทำให้เหมาะ ๆ ก็จักสำเร็จได้จริง ความไม่ต้องการ ในขณะที่ความต้องการนำไปสู่ความเพ้อเจ้อและไม่คุ้มค่า ความไม่ต้องการก็นำไปสู่ความคับแคบและไร้ค่า ได้เช่นกัน ความไม่ต้องการเกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่ • ปัญญาเห็นความไม่คุ้มค่า จึงไม่ต้องการ • ขี้เกียจ จึงไม่ต้องการ • กลัว จึงไม่ต้องการ • เคยเสียใจ จึงไม่ต้องการ • ถูกเสี้ยมสอนผิด ๆ หรือได้ข้อมูลผิด ๆ จึงไม่ต้องการ • ถูกตีกรอบปิดกั้นห้ามปรามจึงไม่ต้องการ จะเห็นได้ว่า เหตุแห่งความไม่ต้องการหลายประการทีเดียวที่เป็นกิเลสหรืออวิชชา มีเพียงความไม่ต้องการจากเหตุแห่งปัญญาประเมินผลแจ้งชัดในความคุ้มค่าตลอดสายแล้วเท่านั้นที่ควรนำมาพิจารณา ดังนั้น เมื่อมีความไม่ต้องการเกิดขึ้น จงวิเคราะห์เสียก่อนว่าความไม่ต้องการนี้มาจากสาเหตุใด หากเป็นความไม่ต้องการจากกิเลสหรืออวิชชา ก็จงขจัดความไม่ต้องการนั้นออกไป เพราะไม่เช่นนั้น ความไม่ต้องการเหล่านั้นจะบีบชีวิตจิตใจให้คับแคบ จนอาจต้องขุดรูอยู่อย่างขลาดกลัวในที่สุด เมื่อชีวิตลอยคออยู่กลางสมุทรแห่งโลกที่ปรุงแต่งความต้องการตลอดเวลา อยู่ ๆ จะบอกว่าฉันไม่ต้องการอะไรเลยก็จะจมน้ำตายเสียก่อน คือถูกความจำเป็นบีบรัดและระบบรอบด้านท่วมทับเอาได้ ดังนั้น อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีความต้องการที่จะออกจากระบบทั้งหลายที่เห็นว่าไร้สาระ ต้องการอย่างกลางก็พึงต้องการสรรหาสาระเพื่อพัฒนาชีวิตจิตใจให้สูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป หากต้องการอย่างมาก ก็ต้องการบริหารคุณค่าให้เกิดประโยชน์สุขสูงสุดที่เป็นไปได้ตามกำลัง เพราะต้องการจึงมีการใคร่ครวญหาทาง เพราะปัญญาใคร่ครวญจึงเกิดความรู้ เพราะความรู้ จึงเกิดการตกลงใจ เพราะการตัดสินใจ จึงเกิดการกระทำ เพราะการกระทำ จึงเกิดการพัฒนา เพราะการพัฒนา จึงเกิดความสำเร็จ เพราะความสำเร็จ จึงมีสิทธิ์เสวยผลอันคือประโยชน์สุขที่ยิ่ง ความต้องการที่แม่นยำและชอบธรรมจึงคือปฐมบทแห่งความสำเร็จทั้งหลายในโลก ดังนั้น อย่าปิดประตูชีวิตไว้ในกรงแห่งความไม่ต้องการตลอดไป ชีวิตจะเฉาตาย สรุป ด้วยเหตุนี้ อย่าขังตนไว้ในคุกความไม่ต้องการทั้งของตนและของใคร ๆ โดยไม่ได้พิจารณา จะติดกับดับวิภวตัณหา กระนั้นการพลัดเข้าไปสู่กระแสความต้องการไม่รู้จบ ก็จะหลุดเข้าสู่ทะเลแห่งภวตัณหาอันเสี่ยงภัย เหนื่อยยาก และไม่คุ้มค่า ลองประเมินเข้าไปในชีวิตจริงดู การมีในสิ่งที่ไม่ควรมีล้วนนำมาซึ่งความเหนื่อยมา เดือดร้อน ทุกข์ระทม และการไม่มีในสิ่งที่ควรมีก็นำมาซึ่งความอัตคัด ฝืดเคือง แห้งแล้ง ทุกข์ระทวย ด้วยเหตุนี้ การทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ จึงเป็นความผิด และการไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ จึงเป็นความพลาด หากไม่อยากให้ชีวิตผิดพลาด ต้องกลั่นกรองความต้องการให้ดี จนเหลือแต่ความต้องการที่น้อย ๆ และแม่น ๆ หาไม่จะเป็นชีวิตดักแด้ เริ่มต้นใหม่ไม่รู้จบกับความต้องการที่ไม่รู้สิ้น และอย่าเหวี่ยงจนตกขอบไปติดคุกตามความไม่ต้องการเพราะจะทำให้ชีวิตดักดาน ไม่พัฒนา เพราะเมื่อความไม่ต้องการครอบงำแล้ว อะไรที่ควรคิดก็จะไม่คิด อะไรที่ควรทำก็จะไม่ทำ อะไรที่ต้องการเพียรก็จะไม่เพียร ก็จะสูญพันธุ์ไปแบบไดโนเสาร์อย่างไร้ค่า ภาวะที่ดีที่สุดคือปลดปล่อยจิตใจให้เป็นอิสระทั้งจากความต้องการและความไม่ต้องการก่อน เมื่อใจเป็นอิสระแล้ว ปัญญาจะกว้างใหญ่มาก แล้วใช้ปัญญาไร้ขอบเขตกอปรจิตใจอิสระนั้นวินิจฉัยโอกาสและข้อจำกัด รวมทั้งผลต่อเนื่องรอบด้านอย่างตรงไปตรงมา เมื่อเห็นชัดแจ้งดีแล้ว จึงตัดสินใจอย่างแม่นยำ จำไว้ว่า คนประสบความสำเร็จ ไม่ใช่คนทำมากหรือทำน้อย แต่คือคนที่ทำพอดี ๆ อย่างแม่นยำเท่านั้น จากหนังสือ ธรรมลีลา ปีที่ 6 ฉบับ 66 พฤษภาคม 2549 โดย ไชย ณ พล |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |