เมื่อสองปีที่ผ่านมา เพื่อนคนหนึ่งได้ชวนไปบวชเนกขัมมะ ที่วัดป่าศรัทธารวม โดยอ้างว่าเนื่องจากได้ไปบนไว้ว่า หากทำสิ่งหนึ่งสำเร็จก็จะไปบวชสักสามวัน เห็นว่าการรักษาศีลแปดเป็นเรื่องที่ดี จึงได้ตกลงไปกับเพื่อนคนดังกล่าว
ในช่วงนั้นเป็นช่วงวันสงกรานต์พอดี ปรากฎว่าที่วัดนอกจากเราสองคนแล้ว ก็มีอาจารย์จากโรงเรียนชื่อดังของจังหวัดนครราชสีมา แห่งหนึ่งมาบวชเช่นกัน สอบถามได้ความว่า อาจารย์ท่านนี้ได้มาบวชในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี และได้ทำมาหลายปีแล้ว
อาจารย์ท่านนี้บอกว่า... ตั้งแต่ได้มาปฏิบัติธรรมและบวชเนกขัมมะ ทำให้ชีวิตครอบครัว และการปฏิบัติงานมีความราบรื่น และชีวิตราชการก็เจริญก้าวหน้าตลอดมา ไม่มีปัญหามากมายเหมือนอดีตที่ผ่านมา
และมีนักธุรกิจอีกท่านหนึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร ก็มาบวชเช่นกัน และบอกว่า...ปีใดถ้าไม่ติดธุระสำคัญจะมาบวชที่วัดนี่เช่นกัน เพราะช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่อยากเดินทางไปเที่ยวที่ไหน มีอุบัติเหตุมาก และการที่มาบวชในแต่ละครั้ง หลังจากกลับไปแล้วจะทำให้การปฏิบัติงานและการทำธุรกิจราบรื่น ไม่มีปัญหา จะทำอะไรจะไม่ติดขัด แม้จะไม่ได้กำไรมาก แต่ก็ไม่เคยขาดทุน...
ในช่วงเย็นหลังจากทำวัตรเย็นเสร็จหลวงพ่อสมาน ชิตมาโร(พระครูคุณสารสัมปันโน) เจ้าอาวาสวัดศรัทธารวม จะให้พระและโยมที่มาบวช ไปปรนนิบัติที่กุฎิ บางรูปก็จะนวด บางรูปก็จะชงน้ำยาสมุนไพรให้ท่านฉัน และท่านก็จะเล่าปฎิปทาของครูบาอาจารย์สมัยเก่าให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นวธีปฏิบัติของหลวงปู่ชา หลวงปู่มั่น และหลวงพุธ ฐานิโย เป็นต้น ให้พระและโยมฟัง เพื่อนำแนวทางของบูรพาจารย์ไปเป็นแนวปฏิบัติ 
ทำให้เราได้รับทราบว่าการปฏิบัติของแต่ละท่าน มีปฏิปทา และมีความลำบากยากเข็ญเช่นใด และพระหนุ่มทั้งหลายจะได้เจริญรอยตาม นอกจากนี้ท่านยังได้พูดถึงอดีตในการเดินธุดงค์ของท่าน ว่าพบเหตุการณ์ใดบ้าง ทำให้พระและโยมเกิดความศรัทธาต่อการบำเพ็ญเพียรครูบาอาจารย์ในอดีต
เมื่อวันที่ ๖ - ๙ กันยายน ๒๕๕๒ ที่ผ่านมาเป็นวันครบรอบวันมรณภาพของหลวงพ่อสมาน ชิตมาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าศรัทธารวม ศิษยานุศิษย์จึงได้จัดวันบูรพาจารย์ขึ้น โดยมีกิจกรรม ปฏิบัติธรรม บวชเนขัมมะ ฟังพระธรรมเสนาจากพระปฏิบัติ ทอดผ้าป่าสามัคคี และตั้งโรงทานในบริเวณงานด้วย โดยมีผู้มาร่วมบวชเนกขัมมะประมาณ ๒๐๐ กว่าคน