ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

...ความสุขที่ถูกมองข้าม...(พระไพศาล วิสาโล)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=25913
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 30 ก.ย. 2009, 13:03 ]
หัวข้อกระทู้:  ...ความสุขที่ถูกมองข้าม...(พระไพศาล วิสาโล)

รูปภาพ


คุณเป็นคนหนึ่งหรือไม่ที่เชื่อว่า ยิ่งมีเงินทองมากเท่าไร ก็ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น
ความเชื่อดังกล่าวดูเผิน ๆ ก็น่าจะถูกต้องโดยไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์
แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ประเทศไทยน่าจะมีคนป่วยด้วยโรคจิตน้อยลง มิใช่เพิ่มมากขึ้น
ทั้ง ๆ ที่รายได้ของคนไทยสูงขึ้นทุกปี
ในทำนองเดียวกันผู้จัดการก็น่าจะมีความสุขมากกว่าพนักงานระดับล่าง ๆ
เนื่องจากมีเงินเดือนมากกว่า แต่ความจริงก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป


ไม่นานมานี้มหาเศรษฐีคนหนึ่งของไทยได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่า
เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิต เขาพูดถึงตัวเองว่า "ชีวิต(ของผม)เริ่มหมดค่าทางธุรกิจ"
ลึกลงไปกว่านั้นเขายังรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความหมาย
เขาเคยพูดว่า "ผมจะมีความหมายอะไร ก็เป็นแค่....มหาเศรษฐีหมื่นล้านคนหนึ่ง"
เมื่อเงินหมื่นล้านไม่ทำให้มีความสุข เขาจึงอยู่เฉยไม่ได้
ในที่สุดวิ่งเต้นจนได้เป็นรัฐมนตรี ขณะที่เศรษฐีหมื่นล้านคนอื่น ๆ
ยังคงมุ่งหน้าหาเงินต่อไป ด้วยความหวังว่า
ถ้าเป็นเศรษฐีแสนล้านจะมีความสุขมากกว่านี้
คำถามก็คือ เขาจะมีความสุขเพิ่มขึ้นจริงหรือ ?


คำถามข้างต้นคงมีประโยชน์ไม่มากนักสำหรับคนทั่วไป
เพราะชาตินี้คงไม่มีวาสนาแม้แต่จะเป็นเศรษฐีร้อยล้านด้วยซ้ำ
แต่อย่างน้อยก็คงตอบคำถามที่อยู่ในใจของคนจำนวนไม่น้อยได้บ้างว่า
ทำไมอัครมหาเศรษฐีทั้งหลาย รวมทั้งบิล เกตส์ จึงไม่หยุดหาเงินเสียที
ทั้ง ๆ ที่มีสมบัติมหาศาล ขนาดนั่งกินนอนกินไป ๗ ชาติก็ยังไม่หมด


แต่ถ้าเราอยากจะค้นพบคำตอบให้มากกว่านี้ ก็น่าจะย้อนถามตัวเองด้วยว่า
ทำไมถึงไม่หยุดซื้อแผ่นซีดีเสียทีทั้ง ๆ ที่มีอยู่แล้วนับหมื่นแผ่น
ทำไมถึงไม่หยุดซื้อเสื้อผ้าเสียทีทั้ง ๆ ที่มีอยู่แล้วเกือบพันตัว
ทำไมถึงไม่หยุดซื้อรองเท้าเสียทีทั้ง ๆ ที่มีอยู่แล้วนับร้อยคู่
แผ่นซีดีที่มีอยู่มากมายนั้น บางคนฟังทั้งชาติก็ยังไม่หมด
ในทำนองเดียวกัน เสื้อผ้า หรือรองเท้า ที่มีอยู่มากมายนั้น
บางคนก็เอามาใส่ไม่ครบทุกตัวหรือทุกคู่ด้วยซ้ำ
มีหลายตัวหลายคู่ที่ซื้อมาโดยไม่ได้ใช้เลย
แต่ทำไมเราถึงยังอยากจะได้อีกไม่หยุดหย่อน


ใช่หรือไม่ว่า สิ่งที่เรามีอยู่แล้วในมือนั้น
ไม่ทำให้เรามีความสุขได้มากกว่าสิ่งที่ได้มาใหม่
มีเสื้อผ้าอยู่แล้วนับร้อยก็ไม่ทำให้จิตใจเบ่งบานได้เท่ากับเสื้อ ๑ ตัวที่ได้มาใหม่
มีซีดีอยู่แล้วนับพันก็ไม่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นได้เท่ากับซีดี ๑ แผ่นที่ได้มาใหม่
ในทำนองเดียวกันมีเงินนับร้อยล้านในธนาคารก็ไม่ทำให้รู้สึกปลาบปลื้มใจ
เท่ากับเมื่อได้มาใหม่อีก ๑ ล้าน


พูดอีกอย่างก็คือ
คนเรานั้นมักมีความสุขจากการได้ มากกว่าความสุขจากการมี
มีเท่าไรก็ยังอยากจะได้มาใหม่ เพราะเรามักคิดว่าของใหม่
จะให้ความสุขแก่เราได้มากกว่าสิ่งที่มีอยู่เดิม


บ่อยครั้งของที่ได้มาใหม่นั้นก็เหมือนกับของเดิมไม่ผิดเพี้ยน
แต่เพียงเพราะว่ามันเป็นของใหม่ ก็ทำให้เราดีใจแล้วที่ได้มา
จะว่าไปนี่อาจเป็นสัญชาตญาณที่มีอยู่กับสัตว์หลายชนิด
ไม่เฉพาะแต่มนุษย์เท่านั้น ถ้าโยนน่องไก่ให้หมา หมาก็จะวิ่งไปคาบ
แต่ถ้าโยนน่องไก่ชิ้นใหม่ไปให้ มันจะรีบคายของเก่าและคาบชิ้นใหม่แทน
ทั้ง ๆ ที่ทั้งสองชิ้นก็มีขนาดเท่ากัน ไม่ว่าหมาตัวไหนก็ตาม
ของเก่าที่มีอยู่ในปากไม่น่าสนใจเท่ากับของใหม่ที่ได้มา


ถ้าหากว่าของใหม่ ให้ความสุขได้มากกว่าของเก่าจริง ๆ
เรื่องก็น่าจะจบลงด้วยดี แต่ปัญหาก็คือของใหม่นั้นไม่นานก็กลายเป็นของเก่า
และความสุขที่ได้มานั้นในที่สุดก็จางหายไป
ผลก็คือกลับมารู้สึก "เฉย ๆ" เหมือนเดิม
และดังนั้นจึงต้องไล่ล่าหาของใหม่มาอีก
เพื่อหวังจะให้มีความสุขมากกว่าเดิม แต่แล้วก็วกกลับมาสู่จุดเดิม
เป็นเช่นนี้ไม่รู้จบ น่าคิดว่าชีวิตเช่นนี้จะมีความสุขจริงหรือ ?


เพราะไล่ล่าแต่ละครั้งก็ต้องเหนื่อย ไหนจะต้องขวนขวายหาเงินหาทอง
ไหนจะต้องแข่งกับผู้อื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ
ครั้นได้มาแล้วก็ต้องรักษาเอาไว้ให้ได้ ไม่ให้ใครมาแย่งไป
แถมยังต้องเปลืองสมองหาเรื่องใช้มันเพื่อให้รู้สึกคุ้มค่า
ยิ่งมีมากชิ้นก็ยิ่งต้องเสียเวลาในการเลือกว่าจะใช้อันไหนก่อน
ทำนองเดียวกับคนที่มีเงินมาก ๆ
ก็ต้องยุ่งยากกับการตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวลอนดอน
นิวยอร์ค เวกัส โตเกียว มาเก๊า หรือซิดนีย์ดี


ถ้าเราเพียงแต่รู้จักแสวงหาความสุขจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว
ชีวิตจะยุ่งยากน้อยลงและโปร่งเบามากขึ้น
อันที่จริงความพอใจในสิ่งที่เรามีนั้นไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ที่เป็นปัญหาก็เพราะเราชอบมองออกไปนอกตัว
และเอาสิ่งใหม่มาเทียบกับของที่เรามีอยู่
หาไม่ก็เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
เมื่อเห็นเขามีของใหม่ ก็อยากมีบ้าง
คงไม่มีอะไรที่จะทำให้เราทุกข์ได้บ่อยครั้งเ
ท่ากับการชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
การเปรียบเทียบจึงเป็นหนทางลัดไปสู่ความทุกข์ที่ใคร ๆ ก็นิยมใช้กัน


นิสัยชอบเปรียบเทียบกับคนอื่น
ทำให้เราไม่เคยมีความพอใจในสิ่งที่ตนมีเสียที
แม้จะมีหน้าตาดี ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่สวย
เพราะไปเปรียบเทียบตัวเองกับดาราหรือพรีเซนเตอร์ในหนังโฆษณา


การมองแบบนี้ทำให้ "ขาดทุน" สองสถาน
คือนอกจากจะไม่มีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่แล้ว
ยังเป็นทุกข์เพราะไม่ได้สิ่งที่อยาก
พูดอีกอย่างคือไม่มีความสุขกับปัจจุบัน
แถมยังเป็นทุกข์เพราะอนาคตที่พึงปรารถนายังมาไม่ถึง
ไม่มีอะไรที่เป็นอุทธาหรณ์สอนใจได้ดีเท่ากับนิทานอีสปเรื่องหมาคาบเนื้อ
คงจำได้ว่า มีหมาตัวหนึ่งได้เนื้อชิ้นใหญ่มา
ขณะที่กำลังเดินข้ามสะพาน มันมองลงมาที่ลำธาร
เห็นเงาของหมาตัวหนึ่ง (ซึ่งก็คือตัวมันเอง) กำลังคาบเนื้อชิ้นใหญ่
เนื้อชิ้นนั้นดูใหญ่กว่าชิ้นที่มันกำลังคาบเสียอีก
ด้วยความโลภ (และหลง) มันจึงคายเนื้อที่คาบอยู่
เพื่อจะไปคาบชิ้นเนื้อที่เห็นในน้ำ ผลก็คือเมื่อเนื้อตกน้ำ
ชิ้นเนื้อในน้ำก็หายไป มันจึงสูญทั้งเนื้อที่คาบอยู่และเนื้อที่เห็นในน้ำ


บ่อเกิดแห่งความสุขมีอยู่กับเราทุกคนในขณะนี้อยู่แล้ว
เพียงแต่เรามองข้ามไปหรือไม่รู้จักใช้เท่านั้น
เมื่อใดที่เรามีความทุกข์ แทนที่จะมองหาสิ่งนอกตัว
ลองพิจารณาสิ่งที่เรามีอยู่และเป็นอยู่
ไม่ว่า มิตรภาพ ครอบครัว สุขภาพ ทรัพย์สิน รวมทั้งจิตใจของเรา
ล้วนสามารถบันดาลความสุขให้แก่เราได้ทั้งนั้น
ขอเพียงแต่เรารู้จักชื่นชม รู้จักมอง และจัดการอย่างถูกต้องเท่านั้น


แทนที่จะแสวงหาแต่ความสุขจากการได้
ลองหันมาแสวงหาความสุขจากการ มี หรือจากสิ่งที่มี
ขั้นต่อไปคือการแสวงหาความสุขจากการ ให้
กล่าวคือยิ่งให้ความสุข ก็ยิ่งได้รับความสุข
สุขเพราะเห็นน้ำตาของผู้อื่นเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม
และสุขเพราะภาคภูมิใจที่ได้ทำความดีและทำให้ชีวิตมีความหมาย
จากจุดนั้นแหละก็ไม่ยากที่เราจะค้นพบความสุขจากการไม่มี
นั่นคือสุขจากการปล่อยวาง ไม่ยึดถือในสิ่งที่มี
และเพราะเหตุนั้น แม้ไม่มีหรือสูญเสียไป ก็ยังเป็นสุขอยู่ได้
เกิดมาทั้งที น่าจะมีโอกาสได้สัมผัสกับความสุขจากการให้
และ การไม่มี เพราะนั่นคือสุขที่สงบเย็นและยั่งยืนอย่างแท้จริง

เจ้าของ:  O.wan [ 01 ต.ค. 2009, 15:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ...ความสุขที่ถูกมองข้าม...(พระไพศาล วิสาโล)

cool คุณลูกโป่งสบายดีนะคะ
ขยันหาบทความสอนใจมาให้อ่าน :b8: อนุโทนาบุญด้วยใจ จริงๆค่ะ :b8:
ออกพรรษานี้ไปทำบุญที่ไหนหรือเปล่าคะ ถ้าไปมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
tongue

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/