ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=25486
หน้า 1 จากทั้งหมด 3

เจ้าของ:  walaiporn [ 07 ก.ย. 2009, 20:42 ]
หัวข้อกระทู้:  อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)


[๒๒๗] ภิกษุทั้ั้้ั้งหลาย วิธีพูดที่บุคคลอื่นจะใช้พูดกับเธอทั้งหลาย ๕ ประการนี้ คือ

๑. พูดตามกาลอันสมควร หรือไม่สมควร

๒. พูดเรื่องที่เป็นจริง หรือไม่เป็นจริง

๓. พูดคำที่อ่อนหวาน หรือหยาบคาย

๔. พูดคำที่มีประโยชน์ หรือไร้ประโยชน์

๕. มีเมตตาจิตพูด หรือมีโทสะพูด




บุคคลอื่นเมื่อเขาพูด

จะพึงพูดตามกาลอันสมควร หรือไม่สมควรก็ตาม

จะพึงพูดเรื่องที่เป็นจริง หรือไม่เป็นจริงก็ตาม

จะพึงพูดคำที่อ่อนหวาน หรือคำที่หยาบคายก็ตาม

จะพึงพูดคำที่มีประโยชน์ หรือไร้ประโยชน์ก็ตาม

จะพึงมีเมตตาจิตพูด หรือมีโทสะพูดก็ตาม


ในข้อนั้นเธอทั้งหลายควรสำเหนียกอย่างนี้ว่า

“จิตของเราจักไม่แปรผัน เราจักไม่เปล่งวาจาชั่วหยาบ

และจักอนุเคราะห์ด้วยสิ่งอันเป็นประโยชน์ อยู่อย่างผู้มีเมตตาจิต ไม่มีโทสะ เราจักแผ่เมตตาจิตให้บุคคลนั้นอยู่

เราจักแผ่เมตตาจิตอันไพบูลย์ เป็นมหัคคตะ ไม่มีขอบเขต ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน

ไปยังสัตว์โลกทุกหมู่เหล่า อันเป็นอารมณ์ของเมตตาจิตนั้นอยู่”






อ้างอิงจาก-พระไตรปิฎก (มจร. แปล) เล่มที่ ๑๒ ข้อที่ ๒๒๗ หน้าที่ ๒๓๙

เจ้าของ:  walaiporn [ 07 ก.ย. 2009, 20:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)

ทำใจให้หนักแน่นเหมือนแผ่นดิน

[๒๒๘] ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษถือเอาจอบและตระกร้ามา
แล้วพูดอย่างนี้ว่า ‘เราจักทำแผ่นดินใหญ่นี้ไม่ให้เป็นแผ่นดิน’
เขาขุดลงตรงที่นั้นๆ โกยเศษดินทิ้งลงไปในที่นั้นๆ
บ้วนน้ำลายลงไปในที่นั้นๆ ถ่ายปัสสาวะรดลงในที่นั้นๆ
แล้วพูดสำทับว่า ‘เอ็งอย่าเป็นแผ่นดิน เอ็งอย่าเป็นแผ่นดิน’
เธอทั้งหลายเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร
บุรุษนั้นพึงทำแผ่นดินใหญ่นี้ ไม่ให้เป็นแผ่นดินได้หรือไม่”

“ไม่ได้ พระพุทธเจ้าข้า”

“ข้อนั้นเพราะเหตุไร”

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะแผ่นดินใหญ่นี้ลึกหาประมาณมิได้
เขาจะทำแผ่นดินใหญ่นั้นไม่ให้เป็นแผ่นดิน ไม่ได้ง่าย
บุรุษนั้นจะต้องได้รับความเหน็ดเหนื่อย และความลำบากใจเป็นแน่แท้” ฯ

อ้างอิงจาก-พระไตรปิฎก (มจร. แปล) เล่มที่ ๑๒ ข้อที่ ๒๒๘ หน้าที่ ๒๔๐.

เจ้าของ:  walaiporn [ 07 ก.ย. 2009, 20:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)

ทำใจให้ว่างเหมือนอากาศ

[๒๒๙] ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษถือเอาครั่ง สีเหลือง สีเขียว หรือสีแดงเลือดนกมา
แล้วพูดอย่างนี้ว่า ‘เราจักเขียนรูปในอากาศนี้ ทำให้เป็นรูปปรากฏ’
เธอทั้งหลายเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร
บุรุษนั้นจะเขียนรูปในอากาศนี้ ทำให้เป็นรูปปรากฏได้หรือไม่”

“ไม่ได้ พระพุทธเจ้าข้า”

“ข้อนั้นเพราะเหตุไร”

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะอากาศนี้ไม่มีรูปร่าง ชี้ให้เห็นไม่ได้
เขาจะเขียนรูปในอากาศนั้น ทำให้เป็นรูปปรากฏไม่ได้ง่ายเลย
บุรุษนั้นจะต้องเหน็ดเหนื่อย ลำบากใจเสียเปล่าเป็นแน่” ฯ

อ้างอิงจาก-พระไตรปิฎก (มจร. แปล) เล่มที่ ๑๒ ข้อที่ ๒๒๙ หน้าที่ ๒๔๑.

เจ้าของ:  walaiporn [ 07 ก.ย. 2009, 20:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)

ทำใจให้เย็นเหมือนน้ำ

[๒๓๐] ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษถือคบหญ้าที่ลุกโพลงมาแล้วพูดอย่างนี้ว่า
‘เราจักเผาแม่น้ำคงคาให้ร้อนจัด เดือดเป็นควันพุ่ง ด้วยคบหญ้าที่ลุกโพลงแล้วนี้’
เธอทั้งหลายเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร
บุรุษนั้นจะเผาแม่น้ำคงคาให้ร้อนจัด เดือดเป็นควันพุ่งด้วยคบหญ้าที่ลุกโพลงแล้วได้หรือไม่”

“ไม่ได้ พระพุทธเจ้าข้า”

“ข้อนั้นเพราะเหตุไร”

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะแม่น้ำคงคาเป็นแม่น้ำที่ลึกสุดประมาณ
เขาจะทำแม่น้ำคงคานั้นให้ร้อนจัด เดือดเป็นควันพุ่งด้วยคบหญ้าที่ลุกโพลงแล้วไม่ได้ง่ายเลย
บุรุษนั้นจะต้องเหน็ดเหนื่อย ลำบากใจเสียเปล่าเป็นแน่” ฯ

อ้างอิงจาก-พระไตรปิฎก (มจร. แปล) เล่มที่ ๑๒ ข้อที่ ๒๓๐ หน้าที่ ๒๔๑-๒๔๒.

เจ้าของ:  walaiporn [ 07 ก.ย. 2009, 20:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)

ทำใจให้อ่อนโยนเหมือนกระสอบหนังแมว

[๒๓๑] ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนกระสอบหนังแมวที่ฟอกแล้ว
ฟอกสะอาดแล้ว ฟอกเรียบร้อยแล้ว
อ่อนนุ่มดังปุยนุ่น ตีไม่มีเสียง ตีไม่ดัง
ถ้ามีบุรุษถือเอาไม้หรือกระเบื้องมาแล้วพูดอย่างนี้ว่า
‘เราจักทำกระสอบหนังแมวนี้ที่ฟอกแล้ว
ฟอกสะอาดแล้ว ฟอกเรียบร้อยแล้ว
อ่อนนุ่มดังปุยนุ่น ตีไม่มีเสียง ตีไม่ดัง
ให้มีเสียงดังก้อง ด้วยไม้หรือกระเบื้อง’
เธอทั้งหลายเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร
บุรุษนั้นจะทำกระสอบหนังแมวนี้ที่ฟอกแล้ว
ฟอกสะอาดแล้ว ฟอกเรียบร้อยแล้ว
อ่อนนุ่มดังปุยนุ่น ตีไม่มีเสียง ตีไม่ดัง
ให้กลับมีเสียงดังก้องขึ้น ด้วยไม้หรือกระเบื้องได้หรือไม่”

“ไม่ได้ พระพุทธเจ้าข้า”

“ข้อนั้นเพราะเหตุไร”

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะกระสอบหนังแมวนี้ที่ฟอกแล้ว
ฟอกสะอาดแล้ว ฟอกเรียบร้อยแล้ว
อ่อนนุ่มดังปุยนุ่น ตีไม่มีเสียง ตีไม่ดัง
เขาจะทำกระสอบหนังแมวนั้นให้กลับมีเสียงดังก้องขึ้น ด้วยไม้หรือกระเบื้อง ไม่ได้ง่ายเลย
บุรุษนั้นจะต้องเหน็ดเหนื่อย ลำบากใจเสียเปล่าเป็นแน่” ฯ

อ้างอิงจาก-พระไตรปิฎก (มจร. แปล) เล่มที่ ๑๒ ข้อที่ ๒๓๑ หน้าที่ ๒๔๒-๒๔๓.

เจ้าของ:  walaiporn [ 07 ก.ย. 2009, 20:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)

โอวาทอุปมาด้วยเลื่อย

[๒๓๒] ภิกษุทั้งหลาย หากพวกโจรผู้ประพฤติต่ำทราม
จะพึงใช้เลื่อยที่มีที่จับ ๒ ข้าง เลื่อยอวัยวะน้อยใหญ่
ผู้มีใจคิดร้ายแม้ในพวกโจรนั้น ก็ไม่ชื่อว่าทำตามคำสั่งสอนของเรา เพราะเหตุที่อดกลั้นไม่ได้นั้น
แม้ในข้อนั้น เธอทั้งหลายควรสำเหนียกอย่างนี้ว่า

“จิตของเราจักไม่แปรผัน เราจักไม่เปล่งวาจาชั่วหยาบ
และจักอนุเคราะห์ด้วยสิ่งอันเป็นประโยชน์ อยู่อย่างผู้มีเมตตาจิต ไม่มีโทสะ เราจักแผ่เมตตาจิตให้บุคคลนั้นอยู่
เราจักแผ่เมตตาจิตอันไพบูลย์ เป็นมหัคคตะ ไม่มีขอบเขต ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน
ไปยังสัตว์โลกทุกหมู่เหล่า อันเป็นอารมณ์ของเมตตาจิตนั้นอยู่’
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายควรสำเหนียกด้วยอาการดังกล่าวมานี้

[๒๓๓] ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายควรมนสิการถึงโอวาทซึ่งมีอุปมาด้วยเลื่อยนี้เนืองๆ เถิด
เธอทั้งหลายเห็นวิธีพูดที่มีโทษน้อยหรือโทษมาก ที่เธอทั้งหลายอดกลั้นไม่ได้หรือไม่”

ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า “ไม่เห็น พระพุทธเจ้าข้า”

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้น
เธอทั้งหลายจงมนสิการถึงโอวาทซึ่งมีอุปมาด้วยเลื่อยนี้เนืองๆ เถิด
ข้อนั้นจักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อสุขแก่เธอทั้งหลายสิ้นกาลนาน”

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสภาษิตนี้แล้ว ภิกษุเหล่านั้นมีใจยินดีต่างชื่นชมพระภาษิตของพระผู้มีพระภาค ดังนี้แล

อ้างอิงจาก-พระไตรปิฎก (มจร. แปล) เล่มที่ ๑๒ ข้อที่ ๒๓๒-๒๓๓ หน้าที่ ๒๔๔.

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 07 ก.ย. 2009, 22:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)

:b8: :b8: :b8:

เหมือนทรงตรัสโดยตรงให้ชาติสยามเลยนะครับนี่ :b20:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 08 ก.ย. 2009, 02:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)

ขออนุโมทนาสาธุการด้วยค่ะ คุณน้ำ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  เพลิง. [ 08 ก.ย. 2009, 14:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)

อนุโมทนาครับ :b8:

เจ้าของ:  O.wan [ 08 ก.ย. 2009, 18:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)

tongue อ่านแล้วเข้าใจง่ายเลยค่ะ คุณน้ำ onion

เจ้าของ:  O.wan [ 08 ก.ย. 2009, 18:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)

ชาติสยาม เขียน:
:b8: :b8: :b8:

เหมือนทรงตรัสโดยตรงให้ชาติสยามเลยนะครับนี่ :b20:


เห็นด้วยจ้า.......... rolleyes คุณอาสยาม

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 08 ก.ย. 2009, 19:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)

:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

O.wan เขียน:
เห็นด้วยจ้า.......... rolleyes คุณอาสยาม


ผมว่าชื่อคุ้น ๆ นะครับ เหมือนชื่อบริษัทเทปเลย :b13: :b13: :b13:

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  walaiporn [ 22 ก.ย. 2009, 21:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)


เธอคือคนไม่สำคัญของโลก..


กุศโลบายคลายโกรธ..
เธอควรเปรียบตัวเองเป็นดั่ง..

แผ่นดิน..

ธรรมดาว่าคนทั้งหลายย่อมเหยียบย่ำแผ่นดินกันบ้าง ทิ้งสิ่งสกปรกโสโครกบ้าง อุจจาระปัสสาวะรดบ้าง เทขยะบ้าง ทิ้งดอกไม้เกลื่อนบ้าง พรมน้ำหอมบ้าง หรือไม่ก็เอาจอบ เอาเสียม ขุดเจาะลงไปบนผืนแผ่นดินบ้าง

แต่ไม่ว่าจะถูกทารุณกรรม หรือทนุถนอมด้วยความรักอย่างไรก็ตามที แผ่นดินก็ยังคงมีอาการหนักแน่นอยู่เหมือนเดิม ไม่เคยลุกขึ้นมาอุทธรณ์เรียกร้องขอความเป็นธรรมยามถูกทารุณหรือไม่เคยแสดงอาการดีใจจนลิงโลดเมื่อได้รับการทนุถนอมจากใครเลย แผ่นดินหนักแน่นไม่หวั่นไหวไปตามสิ่งที่มากระทบฉันใด ยามที่ใครมายั่วให้โกรธเธอก็ควรจะทำใจให้หนักแน่นดุจผืนแผ่นดินฉันนั้น..

แม่น้ำ..

คนบางคนที่ถูกความโกรธเข้าครอบงำจนหลงลืมอาจฉวยคบเพลิงที่ลุกโชติช่วงมุ่งสู่มหานทีที่ลึกสุดสายตาแล้วตะโกนขึ้นสุดเสียงว่า ข้าจะเผาแม่น้ำนี้ให้เดือดเป็นฟอง แล้วจุ่มคบเพลิงลงจุดแม่น้ำนั้น แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างใด ไฟก็ไม่ติด แม่น้ำเคยเย็นอยู่อย่างไร ก็ยังคงรักษาความเย็นเป็นปกติอยู่ได้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไปฉันใด ยามที่ใครมายั่วให้โกรธ เธอก็ควรทำใจให้สงบเย็นเหมือนแม่น้ำฉันนั้น..

อากาศ..

ใครบางคนคิดว่าจะเขียนรูปในอากาศอย่างวิจิตร จึงหยิบสีมาพยายามวาดลวดลายระบายลงไปในอากาศ แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามจนเหนื่อยอ่อนเพียงไรก็ไม่อาจวาดรูปอะไรให้ปรากฏในอากาศได้เลย สุดท้ายต้องล้มเลิกความตั้งใจกลับไปยังเคหสถานของตนฉันใด ยามที่ใครมายั่วให้เธอโกรธ เธอก็ควรทำใจให้ว่างเหมือนอากาศซึ่งไม่เปิดโอกาสให้มีรูปรอยอะไรมาแปดเปื้อนตนเองให้เป็นมลทินได้เลยฉันนั้น..

กระสอบหนังแมว..

กระสอบหนังแมวที่ฟอกสะอาดเรียบร้อยแล้ว มีสภาพสะอาด นุ่มดังปุยนุ่น ต่อให้ใครฉวยเอาไม้มาตีอย่างไรก็ไม่มีเสียงดังฉันใด ยามที่ใครมายั่วให้โกรธ เธอก็ควรทำใจให้สะอาดแลนุ่มเหมือนกระสอบหนังแมว ซึ่งไม่ว่าใครจะพยายามทุบตีด้วยถ้อยวาทะหรือแสดงกิริยาการยั่วยุให้โกรธเพียงใด ก็ไม่ส่งเสียงสะท้อนตอบรับกลับมาฉันนั้น..

โคเขาขาด..

โคที่ถูกตัดเขาออกเสียแล้วย่อมทิ้งพยศ ลดมานะ ละทิฐิ ไม่ผยอง หมดอหังการ เสงี่ยมเจียมตน ไม่มีจิตคิดประทุษร้ายใคร เดินไปตามซอกซอยหรือถนนหนทางอย่างสังวรระวังฉันใด เธอก็ควรทำใจให้เป็นเฉกเช่นนั้น อย่าคิดว่าตนเองเก่งกว่าใคร ดีกว่าใคร สูงส่งกว่าใคร แต่จงคิดว่าตนเป็นคนธรรมดาสามัญชนคนหนึ่งซึ่งไม่มีพิษภัยอะไรกับใครๆเขาเลย ใช้ชีวิตอย่างคนซึ่งปลอดเวรภัยกับใครเขาทุกคนในโลกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเถิด..

ลูกชายของคนจัณฑาล..

ลูกชายของคนจัณฑาลอันเป็นวรรณะชั้นต่ำที่สุดย่อมรู้จักประมาณตัวเอง ไม่คิดอุกอาจกำแหงแข่งอำนาจราชศักดิ์กับใครเขาทั้งปวงในโลก ดำรงชีวิตอยู่อย่างรู้จักสถานภาพของตนว่าทั้งต่ำต้อยด้อยค่าไม่มีราคาซึ่งคู่ควรจะต่อรองอะไรกับใครๆในโลกนี้ ถึงมีตัวตนอยู่ก็อยู่อย่างไร้ตัวตน ความทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ของคนที่วรรณะสูงๆก็ไม่เคยตกต้องถึงลูกชายของคนจัณฑาล เธอก็ควรทำใจให้เป็นเฉกเช่นนั้น กล่าวคือ ควรวางตนเป็นคนเล็กคนน้อยต่ำต้อยติดเส้นดิน เส้นหญ้า ยอมรับคำดุด่าว่ากล่าวโดยดุษฏี ไม่มีความโกรธเกลียดชังใคร จิตใจจึงโปร่งเบาสบาย ไร้ความทุกขาโศกาดูรมาแผ้วพาน..

ผ้าเช็ดธุลี..

ผ้าเช็ดธุลีหรือพรมเช็ดเท้าย่อมถูกวางไว้ในสถานอันต่ำสุด ถูกคนเขาเหยียบย่ำซ้ำเติมวันหนึ่งไม่รู้กี่ครั้งกี่หนก็ทนยอมรับความต่ำต้อยด้อยค่าของตนโดยไม่เคยปริปากพร่ำบ่นแต่อย่างใด เธอก็ควรวางใจให้เป็นเฉกเช่นผ้าเช็ดธุลีหรือพรมเช็ดเท้าซึ่งพร้อมที่จะรองรับเรื่องราวทั้งสุข เศร้าโศกาอาดูรที่หมุนเวียนเปลี่ยนผันกันเข้ามากระทบกระทั่ง ไม่ปล่อยใจให้คุกรุ่นไปด้วยไฟแห่งความโกรธแม้แต่น้อย ไม่ว่าคืนวันจะผ่านไปกี่เดือนกี่ปี ก็ยินดีคอยเป็นผ้าผืนน้อยคอยเช็ดธุลีอยู่นั่นเอง..

หากเธอวางตนต่ำต้อยด้อยค่าเพียงดินขนาดนี้แล้ว อหังการของเธอก็จะแทบจะไม่เหลืออยู่เลย คนที่มองเห็นตัวเองเป็นคนเล็กคนน้อย ร้อยทั้งร้อยจะไม่โกรธใคร ไม่ทะเลาะกับใคร ไม่เกะกะระรานหาเรื่องก่อกวนใคร จิตจึงเบา กายจึงเบา สามารถครองตนอยู่ในโลกแห่งความวุ่นวายได้อย่างมีสุข เสมือนลิ้นงูอยู่ในปากงู ทั้งๆที่คลุกคลีอยู่กับพิษ หากพิษนั้นมิเคยกำซาบให้เป็นภยันตรายต่อตัวเองเลย..

เห็นไหมว่า..

คนเรายิ่งเป็นคนธรรมดายิ่งมีเวลาได้อยู่กับความสุขมากขึ้น..
ยิ่งตัวตนของเราเล็กลงเท่าไร..พื้นที่แห่งความสุขในดวงใจของเรากลับขยายเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ..

คัดย่อ ดัดแปลงคำจากหนังสือธรรมะหลับสบาย - ท่านว.วชิรเมธี

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 23 ก.ย. 2009, 09:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)

สาธุ สาธุ สาธุค่ะ...คุณน้ำ

ขอบคุณสำหรับความพยายามและความสม่ำเสมอ
ในการนำสิ่งดีดีมามอบให้กัลยาณมิตรนะคะ

เจริญยิ่งๆขึ้นไปทั้งในทางธรรมและในทางโลกนะคะ

ธรรมะสวัสดีค่ะ

รูปภาพ

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 23 ก.ย. 2009, 12:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุบายระงับความโกรธ(ที่เกิดจากถ้อยคำคน)

:b8: :b8: :b8:

สาธุครับ

ไฟล์แนป:
00008_1.jpg
00008_1.jpg [ 18.91 KiB | เปิดดู 5449 ครั้ง ]

หน้า 1 จากทั้งหมด 3 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/