ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ความรู้-ความไม่รู้ : ท่านศิยะ ณัญฐสวามี http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=24766 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 08 ส.ค. 2009, 22:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | ความรู้-ความไม่รู้ : ท่านศิยะ ณัญฐสวามี |
![]() ค ว า ม รู้ - ค ว า ม ไ ม่ รู้ ท่านศิยะ ณัญฐสวามี (ดร.ไชย ณ พล) รู้คืออะไร ไม่รู้คืออะไร มีความสัมพันธ์กันอย่างไร มาชำแหละดูกันดีไหม จริงๆ แล้ว รู้อาจจะรู้ก็ได้ รู้อาจจะไม่รู้ก็ได้ ไม่รู้อาจจะไม่รู้ก็ได้ ไม่รู้อาจจะรู้ก็ได้ • รู้ เ ป็ น รู้ เช่น การที่เรารู้ว่าวัตถุตายตัวที่ไม่แตกตัวอีก เมื่อรวมกันด้วยจำนวนจริงใด ผลย่อมออกมาเป็นจำนวนจริง เช่น เหรียญหนึ่งบาท สองเหรียญรวมกันเป็นสองเหรียญ มีค่าสองบาท • รู้ เ ป็ น ไ ม่ รู้ เช่น การที่เรารู้จักตัวเอง แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว มีอะไรในตัวเองอีกมากมายที่ไม่รู้ ไหนลองทีหรือว่าคุณมีกิเลสกี่ขด มีตัณหากี่ตัว มีปัญญากี่ดวง มีความโง่เท่าไร มีคุณธรรมแค่ไหน มีอารมณ์ที่เปิดเผยบ้าง มีอารมณ์ที่ซ่อนเร้นกี่อารมณ์อะไรบ้าง เอาเข้าจริงที่ว่ารู้นั้น ยังไม่รู้จริงหรอก และมีอีกมากในรู้นั้นที่ยังไม่รู้ นี่ขนาดดูตัวเอง หากดูคนอื่นยิ่งไปกันใหญ่ • ไ ม่ รู้ เ ป็ น ไ ม่ รู้ เช่น การที่ใครไม่เคยไปนิพพานเลย ไม่เคยได้นิพพานสัญญา และยังไม่มีวี่แววบรรลุอรหันต์เลย ใครมาคุยเรื่องนิพพานให้ฟังก็ไม่รู้เพราะไม่เคย พอไม่รู้แม้พยายามอวดรู้ ก็จะเถียงกันด้วยความไม่รู้ เถียงกันจนตายก็ไม่รู้ขึ้นมาได้ เพราะไม่เคยไป ส่วนผู้รู้นิพพานจริงย่อมไม่เถียงกับใคร • ไ ม่ รู้ เ ป็ น รู้ เช่น การที่เราดูคนอื่น เหมือนไม่รู้ใจเขาเลย แต่ในไม่รู้นั้น ก็รู้ว่าเขามีจิตใจแน่ ในใจเขามีความเห็นแก่ตัว กิเลส ตัณหา ปัญญา คุณธรรม ความโง่แน่ ซึ่งมีเหมือนกันหมดทั้งโลก กิเลส ตัณหา ปัญญา คุณธรรม ความโง่เป็นสมบัติสากลในมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ แตกต่างกันที่อัตราการผสมส่วนเท่านั้น จากตัวอย่างดังกล่าว อาจกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่ามี รู้ในรู้ รู้ในไม่รู้ ไม่รู้ในไม่รู้ ไม่รู้ในรู้ นั่นแสดงว่ารู้กับไม่รู้มันอยู่ด้วยกันเสมอ และทุกอย่างสามารถพิสูจน์ว่าเรารู้ หรือไม่รู้ก็ได้ในเวลาเดียวกัน เช่น การสืบพันธุ์ แม้ไม่มีใครสนใครบอก คือไม่รู้มาก่อน แต่เมื่อเอามนุษย์หญิงกับมนุษย์ชายมาอยู่ด้วยกัน ให้ผสมพันธุ์กันก็สามารถทำได้ และทำจนออกลูกออกหลานมาจนเต็มโลก ถ้าถามว่าทำได้อย่างไร ร้อยทั้งร้อยก็จะบอกว่า “ไม่รู้สิ มันเป็นไปเอง” เห็นไหมในไม่รู้มันมีรู้อยู่จึงทำได้ แม้ในกิจอื่นๆ ก็เช่นกัน ดังนั้นรู้หรือไม่รู้ ไม่ใช่สาระสำคัญโดยตัวมันเอง เป็นเพียงอาการที่ปรากฏให้มนุษย์ใช้งาน และมนุษย์สร้างความรู้และไม่รู้มาใช้เพื่อประโยชน์ใดเล่า นั่นสำคัญกว่า สิ่งที่ความรู้ และไม่รู้ต้องสนองให้ดื้อความสำเร็จ ดังนั้นความสำเร็จแก่นแท้แห่งความรู้และไม่รู้ทั้งปวง หากรู้แล้วทำให้สำเร็จได้นั่นใช้ได้ หากรู้แล้วทำให้สำเร็จไม่ได้ ความรู้นั้นเป็นแค่ขยะความรู้ รกสมองเปลืองหน่วยความจำเปล่าๆ และหากหลงความรู้จนยกตนดูหมิ่นผู้อื่น ก็จะสร้างความหมั่นไส้และศัตรู แม้รู้มากก็เหมือนอยู่ในความลุ่มหลง มีอาวุธดีแค่ไหนก็ไม่อาจได้ใช้ หากไม่รู้แล้วสำเร็จได้ ความรู้นั้นดี เช่น ไม่รู้ว่ายาบ้าเป็นอย่างไร และไม่เคยอยากรู้อยากลอง ทำให้รอดชีวิตมาได้จนทุกวันนี้ นั่นดี แต่ถ้าหากไม่รู้แล้วเป็นหลุมพรางระหว่างเดินไปสู่ความสำเร็จ จนเป็นเหตุให้ล้มเหลว และต้องล้มลุกคลุกคลาน ความไม่รู้นั้นไม่ดี ดังนั้น รู้ ไม่รู้ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือให้สำเร็จดังประสงค์ แล้วคุณอยากได้อะไรจากความอยากรู้และไม่รู้เล่า ทำเอาเถิด... ![]() ![]() ![]() (ที่มา : ยอกย้อนสู่ธรรมชาติสู่แก่นแท้และประโยชน์สูงสุด โดย ศิยะ ณัญฐสวามี, หน้า ๑๖-๑๘) ![]() http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=48689 |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 08 ส.ค. 2009, 22:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความรู้-ความไม่รู้ : ท่านศิยะ ณัญฐสวามี |
![]() ![]() ![]() อนุโมทนาสาธุกับคุณกุหลาบสีชาด้วยครับ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 09 ส.ค. 2009, 01:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความรู้-ความไม่รู้ : ท่านศิยะ ณัญฐสวามี |
สาธุ สาธุ สาธูค่ะ...คุณกุหลาบสีชา ธรรมะสวัสดียามดึกนะคะ ![]() Thai Coment |
เจ้าของ: | bbb [ 27 ต.ค. 2009, 13:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความรู้-ความไม่รู้ : ท่านศิยะ ณัญฐสวามี |
สิ่งเดียวที่รู้ คือข้าพเจ้าไม่รู้อะไร ![]() |
เจ้าของ: | Duangtip [ 18 พ.ย. 2014, 09:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความรู้-ความไม่รู้ : ท่านศิยะ ณัญฐสวามี |
ขออนุโมทนา สาธุๆ ค่ะ ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |