ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
วิธีการดูแลรักษาจิตใจที่ถูกต้อง http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=24119 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ไหว้พระปล่อยปลา [ 21 ก.ค. 2009, 13:18 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | วิธีการดูแลรักษาจิตใจที่ถูกต้อง | ||
เศรษฐีผู้หนึ่ง ซึ่งมีภรรยาถึง 4 คน เขาจะรักคนไหนที่สุด??? ...กาลครั้งหนึ่ง มีเศรษฐีผู้หนึ่ง ซึ่งมีภรรยา 4 คน เขารักภรรยาคนที่ 4 มากที่สุด รองลงมา คือคนที่ 3, 2 และ 1 ตามลำดับ ดั้งนั้นภรรยาคนที่ 4 ซึ่งเป็นคนล่าสุด สาวที่สุด จึงได้รับความเอาใจใส่ และให้ความสำคัญมากกว่าคนอื่นๆ ต่อมา เมื่อเศรษฐีแก่ชราลง เขาอยากจะรู้ว่า ในบรรดาภรรยาทั้ง 4 คนนี้ ใครบ้างที่รักเขาจริง เศรษฐีเรียกภรรยาคนที่ 4 มาถามว่า "นี่น้องพี่ อีกไม่นานพี่คงต้องตายจากไป หากพี่ตายไป พี่อยากจะชวนน้องไปอยู่อยู่ด้วย เพราะพี่รักน้องมากที่สุด น้องจะไปด้วยได้ไหม" ภรรยาคนที่ 4 ก็ตอบว่า "จะบ้าหรือพี่ มีใครที่ไหน ที่จะตามคนตายไป พี่ไปของพี่ก่อนเถอะนะ น้องไม่ไปด้วยหรอก" เศรษฐผิดหวังอย่างหนัก เสียใจอย่างมากเมื่อได้รับคำตอบเช่นนั้น จึงหันไปถามภรรยาคนที่ 3 ด้วยคำถามเดียวกัน ภรรยาคนที่ 3 ก็ตอบว่า "พี่เป็นอะไรไป ถึงคนรักกันปานใด ก็ไม่มีใครยอมตายตามไปด้วยหรอก เชิญพี่ตายไปก่อนเถิดนะ" เศรษฐีต้องเสียใจซ้ำสอง คิดว่าคนที่รักรองลงมาจะตายตามไปด้วย ก็ผิดหวังอีก จึงหันไปถามภรรยาคนที่ 2 ภรรยาคนที่ 2 ก็ตอบปฏิเสธในทำนองเดียวกัน ทำให้เศรษฐีผิดหวังมากยิ่งขึ้น เขาจึงหันไปถามคนสุดท้าย ซึ่งเป็นภรรยาคนแรก ซึ่งเขาไม่ค่อยเอาใจใส่ดูแลนัก ทั้งไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่ จึงถามไปอย่างไม่คาดหวังอะไร แต่ภรรยาคนที่ 1 กลับตอบว่า "เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ต้น ยามสุขก็สุขด้วยกัน ยามทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกัน จะทอดทิ้งกันได้อย่างไร ถ้าพี่ตายไป น้องก็จะขอตามไปด้วย" ในที่สุด เศรษฐีจึงได้รู้ว่า ภรรยาคนแรก ซึ่งเขาไม่เคยให้ความสำคัญเลยนั้น กลับเป็นผู้ที่รักเขาอย่างจริงใจ และมีน้ำใจจะติดตามปรนนิบัติเขาไปทุกหนทุกแห่ง ส่วนภรรยาผู้ที่เขาทุ่มเทความรักให้อย่างมากมาย กลับมิได้สนใจใยดีในตัวเขาเลย . . . . . ถึงตอนนี้แล้วลองคิดดูให้ดีสิว่า เศรษฐีผู้นี้คือใคร? . . . . . ...แท้ที่จริงแล้ว เขามิใช่คนอื่นคนไกลเลย เขาคือ....ตัวเรานั่นเอง เราทุกคน ต่างเปรียบได้กับเศรษฐีที่มีภรรยา 4 คน โดยที่... ภรรยาคนที่ 1 คือ จิตใจ ภรรยาคนที่ 2 คือ ร่างกาย ภรรยาคนที่ 3 คือ บ้านเรือน สมบัติพัสถาน ภรรยาคนที่ 4 คือ เสื้อผ้า เครื่องประดับ เพราะฉะนั้น เลือกเอาเถิดว่าเราจะรักและเอาใจใส่ภรรยาคนไหนให้มากที่สุด บางคนอาจจะเป็นเศรษฐี ผู้ซึ่งไม่รู้ว่าควรจะรักใคร ดังจะเห็นได้จาก... บางคนมัวแต่เอาใจใส่ให้เวลากับเรื่องเสื้อผ้า เครื่องประดับ บ้างก็มัวแต่เฝ้าหวงแหนทรัพย์ ดูแลบ้านเรือน สมบัติพัสถาน บ้างก็มัวเฝ้าทะนุถนอมบำรุงรักษา แต่เพียงร่างกาย โดยหารู้ไม่ว่า ตราบใดที่ยังไม่รู้จักวิธีการดูแลรักษาจิตใจที่ถูกต้อง ย่อมเปรียบได้กับเศรษฐีผู้มองข้ามภรรยาคนที่ควรจะรักมากที่สุดไป แต่สำหรับผู้ที่หมั่นรักษาจิตใจนั้น -จะทำให้รู้จักวิธีการใช้โลกียทรัพย์ เปลี่ยนเป็นอริยทรัพย์ ตัดความตระหนี่ด้วยการทำทาน -นำร่างกายที่เกิดเป็นมนุษย์ รักษาศีลให้สมบูรณ์ เพื่อนำความไม่มีโรค ติดตัวไป -และนำดวงปัญญาที่สว่างไสวไปด้วยการทำสมาธิ ทำใจหยุดใจนิ่ง สู่หนทางพ้นทุกข์ ย่อมจะเป็นทุน เป็นเสบียงที่จะนำความสุข ความสำเร็จให้บังเกิดขึ้นในอนาคตที่ยาวไกลได้ นี่คือชีวิตที่เราเลือกได้ ว่าจะทุ่มเทความรักให้กับสิ่งใด ระหว่างของชั่วคราวอันน่าหลงใหล กับจิตใจซึ่งจะติดตามเราไปตลอดกาล . . เรามาเริ่มต้นรักษาจิตใจของเรากันเถอะ ด้วยการทำหยุดทำนิ่งให้แก่ใจ โดยการนั่งสมาธิ ใจของเราจะแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยการหยุดใจนิ่งเฉย ยิ่งใจว่างเปล่าปราศจากความคิดใดๆ ได้มากที่สุด(ขณะมีสติ) จะเป็นช่วงที่เราสามารถพิจารณาตัวเองได้มากขึ้นเท่านั้น ปล่อยใจสบายๆ ขณะทำสมาธิ ไม่ต้องไปคิดกังวลถึงเรื่องใด ๆ ขณะทำจิตให้สงบก็ตัดทุกสิ่งทุกอย่าง ความกังวลเรื่องการเรียน การงาน งานบ้าน ต่างๆ ให้สิ้นเสีย ซึ่งต่างกับการดูแลร่างกาย ซึ่งยิ่งออกกำลังกายมากเท่าไหร่ร่างกายจะยิ่งแข็งแรง แข็งแกร่งขึ้น ดังนั้น หากเรายิ่งหยุดนิ่งใจได้มาก ใจแข็งแรง นำมาสู่การสนทนาในเรื่องดีๆ ประพฤติดี พูดดี ทำดี หากทุกคนรอบข้างทำได้เช่นนี้ สังคมเราก็จะสงบสุขขึ้น เพราะเราจะได้ปัญญา อันเกิดจากสมาธิ สามารถสอนสั่งตนเองได้ ให้กระทำในสิ่งที่ถูกต้อง ดีงาม สั่งสมบุญกุศลให้เกิดขึ้นแก่ตนเอง
|
เจ้าของ: | damjao [ 22 ก.ค. 2009, 08:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วิธีการดูแลรักษาจิตใจที่ถูกต้อง |
บรรดาสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งความใคร่ จะเป็นพวกรูปธรรม คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส หรือที่เป็นพวกนามธรรม เช่น ยศศักดิ์ สรรเสริญ ก็ดี ที่เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดรักนั้น เป็นเหมือนเหยื่ออันหุ้มเบ็ดไว้ ความสุขอันเกิดจากสิ่งนี้ จึงเป็นสุขปลอม ไม่จีรังยั่งยืน เป็นเพียงความเพลิน หรือสุขที่เป็นไปกับด้วยเหยื่อ พระพุทธองค์จึงไม่ยกขึ้นเป็นความสุข ความกำหนัดรัก เป็นบ่อเกิดของความโศก ความกลัว ความระแวง ความอาลัย ความสะดุ้ง ความหึง ฯ เพราะฉะนั้นในนาทีแห่งความรัก ก็คือนาทีแห่งความชั่วร้ายที่ออกนานมาแล้ว ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ในทำนองอันตรงกันข้าม นาทีแห่งความจืดสนิทจากความรัก ก็คือนาทีแห่งความโปร่งโล่งเยือกเย็นของใจนั่นเอง พระพุทธองค์จึงตรัสว่า การชนะความรักเป็นความสุข วิรชัง โลภโกรธหลงเป็นธุลีคลุกคลีจิต ให้มืดมิดมัวหมองไม่ผ่องใส ทั้งสามสิ่งถูกตัดสลัดไป จิตแจ่มใสบริสุทธิ์ดุจเพ็ญจันทร์ฯ เขมัง อาณาจักรจิตใจไร้ขอบเขต อุปาทานเป็นเหตุแบ่งเขตขัณฑ์ จึงอึดอัดหวาดกลัวอยู่ทั่วกัน ไม่ยึดมั่นทุกข์ภัยย่อมไม่มีฯ |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 22 ก.ค. 2009, 11:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วิธีการดูแลรักษาจิตใจที่ถูกต้อง |
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ ธรรมะสวัสดีวันพระค่ะ ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |