ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สัมมาทิฏฐิ นี้ มี 6 ขั้นด้วยกัน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=23148 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | นัน555 [ 20 มิ.ย. 2009, 18:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | สัมมาทิฏฐิ นี้ มี 6 ขั้นด้วยกัน |
------------ ที่มา ถาม – ตอบ เรื่อง “ ศีลวิสุทธิ “ โดย อ.แนบ มหานีรานนท์ http://www.dharma-gateway.com/ubasika/n ... x-page.htm -------------- ![]() สัมมาทิฏฐิ นี้ มี 6 ขั้นด้วยกัน คือ 1. สัมมาทิฏฐิในกรรมบถ 2. สัมมาทิฏฐิในสมาธิ 3. สัมมาทิฏฐิในฌาน 4. สัมมาทิฏฐิในวิปัสสนา 5. สัมมาทิฏฐิในนิพพาน 6. สัมมาทิฏฐิในปัจจเวก |
เจ้าของ: | นัน555 [ 20 มิ.ย. 2009, 18:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สัมมาทิฏฐิ นี้ มี 6 ขั้นด้วยกัน |
1. สัมมาทิฏฐิในกรรมบถ ก็ต้องละมิจฉาทิฏฐิในกรรมบถ สัมมาทิฏฐิ อันนี้เรียกว่า กัมมัสสกตาปัญญา คือ ปัญญาที่เชื่อ หรือรู้เหตุผลของกรรมว่า ผลของกรรม มีอยู่ กรรมดี ย่อมให้ผลเป็น สุข กรรมชั่ว ย่อมให้ผลเป็น ทุกข์ เขาเข้าใจดี เขารู้และเขาเชื่อด้วยความเชื่อของท่านผู้นี้ถูก เมื่อความเชื่อถูก หรือความเห็นถูกอย่างนี้เกิดขึ้นในจิตใจแล้ว ความเห็นทีว่ากรรม และผลของกรรมไม่มี ตายแล้วสูญไป หรือ ไม่มีใครเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ความเห็นผิดอย่างนี้ก็ตกไป |
เจ้าของ: | นัน555 [ 20 มิ.ย. 2009, 18:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สัมมาทิฏฐิ นี้ มี 6 ขั้นด้วยกัน |
2. สัมมาทิฏฐิในสมาธิ ผู้ที่เห็นว่า สมาธินี้มีอานิสงส์มาก ทำให้จิตสงบจากอกุศลต่างๆ สามารถจะมีความสุขในปัจจุบันได้ และเกิดชาติหน้าก็ยังมีความสุขใน “ สุคติ “ อีก จะได้ภพที่ดี ๆ ภพที่เป็นสุข ไม่มีความทุกข์ เพราะฉะนั้นเขามีความเห็นอย่างนี้ ก็เป็นความเห็นถูก เพราะว่าสมาธินี้มีผลอย่างนั้นจริงๆ |
เจ้าของ: | นัน555 [ 20 มิ.ย. 2009, 19:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สัมมาทิฏฐิ นี้ มี 6 ขั้นด้วยกัน |
3. สัมมาทิฏฐิในฌาน ถ้าไม่เชื่อว่าฌานนี้ให้ผลเป็นสุข ไม่เชื่อว่าสามารถจะให้ไปเกิดเป็นพรหมในพรหมโลกได้ ถ้าเข้าใจอย่างนี้ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ ถ้าคนที่เข้าใจอานิสงส์ถูกต้องแล้วก็เป็นสัมมาทิฏฐิในเรื่องฌาน “ มิจฉาทิฏฐิ “ ในอานิสงส์ ของฌานก็หมดไป แต่ว่า สัมมาทิฏฐิ 2 อย่างนี้ ภายนอก พระพุทธศาสนาก็มีได้ การทำบุญทำทานก็ดี สมาธิก็ดี ฌานก็มีสรุปแล้ว สัมมาทิฏฐิ 2 อย่างนี้ มีได้ทั้งนอก และในพระพุทธศาสนา |
เจ้าของ: | นัน555 [ 20 มิ.ย. 2009, 19:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สัมมาทิฏฐิ นี้ มี 6 ขั้นด้วยกัน |
4. สัมมาทิฏฐิในวิปัสสนา คือเข้าใจถูกว่า อะไรเป็นวิปัสสนา อะไรไม่ใช่วิปัสสนา สัมมาทิฏฐิในวิปัสสนานี้ มีแต่เฉพาะในพระพุทธศาสนา เรียกว่า “ ศาสนาสัมมาทิฏฐิ “ บางคนยังไม่เข้าใจสนวิปัสสนา การทำก็ยังไม่เกิดวิปัสสนาที่แท้จริง แต่เข้าใจว่าเกิดแล้ว นี่ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิในวิปัสสนา ถ้าผู้ที่เข้าใจหรือเข้าถึงวิปัสสนา โดยถูกต้องแล้ว ความเห็นถูกอันเป็นสัมมาทิฏฐิ ก็สามารถละมิจฉาทิฏฐิในความเข้าใจผิดจากวิปัสสนานั้นได้ และละตลอดไปจนกระทั่งถึง มรรค ผล นิพพาน ปัจจเวก ทั้ง 4 นี้ มีในพระพุทธศาสนาเท่านั้น มรรค ผล เป็นอย่างไร มีลักษณะอย่างไร ตนได้เข้าไปเห็นถูกต้องแล้วอันนี้ก็ละมิจฉาทิฏฐิที่เข้าใจผิด |
เจ้าของ: | นัน555 [ 20 มิ.ย. 2009, 19:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สัมมาทิฏฐิ นี้ มี 6 ขั้นด้วยกัน |
5. สัมมาทิฏฐิในนิพพาน บางท่านคิดว่า พระนิพพานคงจะเที่ยง คงจะไม่ตาย เรานี้จะเข้าไปเสวยสุขในพระนิพพาน อันเป็นเมืองแก้วที่มีความสุขสบาย ถ้าเราไปอยู่ในนิพพาน คงจะเป็นสุขไม่มีความทุกข์เลย ถ้าเป็นอย่างนี้ก็จัดเป็น “มิจฉาทิฏฐิในนิพพาน“ เพราะนิพพานนั้นไม่มีสุขเวทนาให้ปรากฏเลย พระนิพพานนั้นดับเสียซึ่งขันธ์ 5 ที่ว่าเมื่อถึงพระนิพพานแล้วดับทุกข์นั้นหมายถึงว่า ดับขันธ์ 5 ฉะนั้นความสุขความสบายที่เกิดจากเวทนาจะมีขึ้นได้อย่างไร พระนิพพานเป็นความสุขที่ดับทุกข์เท่านั้น ไม่ใช่เป็นความสุขที่อาศัย “ สุขเวทนา “ เข้าไปดับทุกข์ที่เกิดจากกิเลสเป็นเหตุ หรือเกิดจากชาติเป็นเหตุ หรือเกิดจากวิบากเป็นเหตุ ถ้าดับทุกข์เสร็จก็ถึงพระนิพพาน เพราะท่านบอกว่า “ ชาติเป็นทุกข์ “ ทุกข์ทั้งหลายย่อมไหลมาจาก ชาติ คือ ความเกิด ถ้าดับชาติคือความเกิด เสียแล้ว เรียกว่าดับทุกข์ทั้งปวง ถ้าเห็นอย่างนี้เป็นการเห็นถูก |
เจ้าของ: | นัน555 [ 20 มิ.ย. 2009, 19:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สัมมาทิฏฐิ นี้ มี 6 ขั้นด้วยกัน |
6. สัมมาทิฏฐิปัจจเวก พิจารณาว่า กิเลสยังมีอยู่หรือไม่ กิเลสอะไรที่หมดแล้ว กิเลสอะไรที่เหลืออยู่ รู้อย่างนี้ เรียกว่า “สัมมาทิฏฐิปัจจเวก" บางท่านเข้าใจว่ากิเลสหมดแล้ว ....... ![]() ทั้ง ๆ ที่กิเลสยังอยู่ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ยังอยู่ครบครัน แต่บางทีอาจจะไม่มีอย่างหยาบ แต่อย่างกลาง อย่างละเอียดยังอยู่ ก็เข้าใจว่าหมดกิเลสแล้ว หรือ ไม่มีอย่างหยาบ ไม่มีอย่างกลาง แต่อย่างละเอียดยังมีอยู่ก็เข้าใจว่าหมดกิเลสแล้ว ส่วนปัจจเวกนั้น พิจารณาถึงกิเลสอย่างละเอียด คือ “ อนุสัย “ ถ้าเข้าใจผิดก็เป็น มิจฉาทิฏฐิปัจจเวก |
เจ้าของ: | นัน555 [ 20 มิ.ย. 2009, 19:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สัมมาทิฏฐิ นี้ มี 6 ขั้นด้วยกัน |
ขอให้ท่านพิจารณาว่า สัมมาทิฏฐิ มี 6 ขั้น และ มิจฉาทิฏฐิ ก็มี 6 ขั้นเหมือนกัน ทีนี้ท่านได้สัมมาทิฏฐิอะไรบ้าง เราก็พอจะรู้ได้ มาถึงในขั้นไหน ละมิจฉาทิฏฐิขั้นไหนหมดไป สัมมาทิฏฐิอะไร ยังไม่เกิดขึ้นแก่เรา สัมมาทิฏฐิอะไรที่เกิดขึ้นแล้วแก่เรา อันนี้สำคัญที่สุดที่จะต้องรู้ เพราะมีหลายขั้น ถ้าท่านไม่ทราบขั้นของสัมมาทิฏฐิ ก็อาจจะเข้าใจว่าเราเป็นสัมมาทิฏฐิแล้ว และเวลามีใครมาว่าเราเป็น “ มิจฉาทิฏฐิ “ เราก็จะโกรธ ความจริงมิจฉาทิฏฐิมีอีกมากมายหลายอย่างทีเดียว เพราะฉะนั้นอย่าโกรธเขา เพราะสัมมาทิฏฐิเราก็มีเหมือนกัน แต่ว่าทิฏฐิบางอย่างก็ยังไม่หมด ถ้าผู้ที่ไม่เคยบรรลุมรรค ผล นิพพานแล้ว ก็คงจะได้สัมมาทิฏฐิ 2 อย่าง คือ 1. เชื่อในกรรม 2. เชื่อใน ฌานสมาธิ ว่ามีความสุข *** นอกจากนั้นยังไม่หมด *** ------------ ที่มา ถาม – ตอบ เรื่อง “ ศีลวิสุทธิ “ โดย อ.แนบ มหานีรานนท์ http://www.dharma-gateway.com/ubasika/n ... x-page.htm .. http://www.dharma-gateway.com/ubasika/naab/naab-03.htm |
เจ้าของ: | jintana63 [ 21 มิ.ย. 2009, 10:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สัมมาทิฏฐิ นี้ มี 6 ขั้นด้วยกัน |
อนุโมทนาสาธุค่ะ คุณ นัน555 ![]() ด้วยความเคารพ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |