ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
การเดินทางของใจ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=23109 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | อิกคิว [ 18 มิ.ย. 2009, 15:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | การเดินทางของใจ |
การเดินทางของใจ ![]() หากเปรียบสังสารวัฏเสมือนการเดินทางของใจอันเนิ่นนาน หาที่อันเป็นเบื้องต้นและที่สิ้นสุดไม่ได้ เมื่อเราพบพระธรรมของพระพุทธเจ้าแล้ว จะดีไหมถ้าเราจะไปถึงจุดหมายที่พระองค์ทรงสั่งสอนไว้ ได้อย่างรวดเร็วและไม่เนิ่นช้า เสมือนดั่งการเดินทางในนิทานเรื่องหนึ่งดังจะแสดงต่อไปนี้ มีชายสี่คนเป็นเพื่อนรักกัน ทุกคนมีร่างกายพิการต่างๆกัน มีนายใบ้ นายหนวก นายบอด และนายอ่อนที่ได้ชื่อนี้เนื่องจากปัญญาอ่อนนั่นเอง ทั้งสี่อาศัยอยู่ในบ้านร้างผุพังแห่งหนึ่ง ทั้งสี่เป็นคนอยู่ในศีลในธรรมแต่มีฐานะยากจนมากเนื่องจากความพิการแต่กำเนิด เทวดาบนสวรรค์เห็นในความดีจึงได้แปลงกายเป็นชายชรามาหาชายทั้งสี่ในเช้าวันหนึ่ง ชายชราผมขาวหนวดเครายาวเอ่ยขึ้นว่า”เออแน่ะพ่อหนุ่มข้าเห็นใจในความดีแต่ว่าต้องมามีสภาพชีวิตยากจนข้นแค้นแสนสาหัส ถึงแม้จะพิการแต่ก็สามัคคีรักใคร่ช่วยเหลือกันดีเหลือเกิน ข้ามีแผนที่เดินทางไปสู่ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ กว้างใหญ่ไพศาล เปรียบดังสวรรค์น้อยๆบนดินมีแต่เฉพาะคนดีๆมีเมตตา และเมื่อเจ้าไปถึงแล้วก็จะมีที่ดินทำกิน มีอาหารไม่ต้องอดๆอยากอย่างนี้อีก แต่ถึงจะมีแต่ความสุขความสบายก็ตาม แต่มีคนไม่มากนักที่จะสามารถฝ่าด่านอันยากลำบากไปถึงได้ เอ้านี่แผนที่รับไปซะ” ทั้งสี่รับแผนที่มาด้วยความดีใจ กล่าวแสดงความขอบคุณกับชายชรา นายบอดเจ้าปัญญาจึงถามว่า” เอ แล้วทางที่ไปนี่มันยากลำบากแค่ไหนล่ะครับ” ชายชรา” จำคำของลุงไว้นะ หนทางนี้จะว่าไกลก็ไม่ไกล จะว่าใกล้ก็ไม่ใกล้ ถ้าอยากไปเร็วๆก็จะช้า ถ้าประมาทมัวแต่ชักช้าก็จะไปไม่ถึง ทางนี้เจ้าต้องเข้าไปในป่าทึบอันเป็นที่อยู่ของมาร และเส้นทางยังเป็นทางเขาวงกตอีกด้วย เธอต้องสังเกตว่าเดินวนอยู่กับที่ไม่ไปไหนหรือเปล่าตลอดเส้นทาง มารผู้รักษาจะมีอยู่ตลอดเส้นทาง มารนี้นอกจากจะมีฤทธิ์เดชแล้ว ยังรู้อีกว่าเราคิดอะไรอยู่ด้วย มันจะหรอกเราไม่ให้เดินต่อไปด้วยการล่อให้สงสัย หรอกให้หลงเผลินกับสิ่งต่างๆ มีแต่คนที่มีจิตใจมั่นคงและแน่วแน่เท่านั้นที่จะไปบนเส้นทางนี้ได้ ฉะนั้นจงจำไว้ให้ก้าวไปเรื่อยๆ จงเป็นคนช่างสังเกตถึงเส้นทางเขาวงกตนั้น และเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นไม่ว่าจะน่าพอใจเพียงใด ให้มีสติรู้ทันอย่าอยาก อย่าสงสัยให้มันผ่านเราไป มีความพยายามเดินไปเรื่อยๆ โดยไม่รีบ แล้วเส้นทางจะปรากฏชัดกับเธอเอง”เมื่อพูดจบชายชราก็เดินจากไป ทั้งสี่คนจึงเริ่มออกเดินทางทันที ในวันแรกที่ออกเดินทางต้องเดินผ่านป่าทึบมารได้บันดาลให้ป่ารกทึบกลายเป็นอุทยานที่น่ารื่นรมย์ มีน้ำตกมีสวนดอกไม้ มีผลไม้สุกงอมมากมาย ทำให้คนทั้งสามยกเว้นนายบอดหยุดเดินทันที แต่แล้วนายบอดก็กล่าวขึ้นว่า “อ้าวจะหยุดเดินกันทำไมล่ะ มัวแต่ชักช้าเดี๋ยวก็ไปไม่ถึงไหนหรอก” คนทั้งสามจึงได้สติเดินต่อไป ต่อมาก็ถึงเมืองๆหนึ่งกำลังมีการแสดงดนตรีอยู่ เมื่อชายทั้งสามคนยกเว้นนายหนวกได้ยินก็เสมือนต้องมนต์หลงไหลเคลิบเคลิ้มกับเสียงดนตรีจนแทบสิ้นสติ จนนายหนวกต้องรีบดึงพวกเขาเพื่อเดินต่อไป พอผ่านมาสักพักก็มีชายรูปร่างสูงใหญ่สี่คนถืออาวุธมีทั้งหอกและดาบ มายืนด่าชายทั้งสี่อยู่ ทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน ชายทั้งสามบันดาลโทสะ กำลังจะด่าตอบ แต่นายใบ้ก็รีบดึงข้อมือเพื่อนทั้งสามให้วิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด เมื่อเดินมาได้สักระยะหนึ่ง ก็มาถึงทางแยก ทางซ้ายเป็นทางเส้นใหญ่คงเป็นเพราะมีคนใช้เส้นทางนี้มากนั่นเอง เขียนไว้ว่า เมืองใหม่ สำหรับผู้ต้องการความร่ำรวย มีที่พักฟรี อาหารฟรี รักษาโรคฟรี อีกทางเป็นถนนเล็กๆ เขียนไว้ว่า เส้นทางสู่ป่าอันสงบเงียบ เมื่อทั้งสี่อ่านดูป้ายแล้ว ก็ปรึกษากันเป็นการใหญ่ ขณะที่ยังตกลงกันไม่ได้ นายอ่อนก็พูดขึ้นว่า “แผนที่บอกว่าไปทางขวาก็ไปกันเหอะ มัวเถียงอะไรกัน อ่อนฟังแล้วไม่เข้าใจ” คนทั้งสามจึงได้สติ จึงเดินมุ่งสู่ป่าแห่งนั้น จริงดังที่ชายชราบอก เมื่อเข้าสู่ป่าแล้วด้วยบรรยากาศอันเยือกเย็นลมพัดอ่อนๆสบายๆ ทุกคนก็รู้สึกหายเหนื่อยเมื่อยล้า ในป่ามีผลไม้ป่าสุกงอมหอมหวาน มีนกกาและสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยมากมาย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าไม่ค่อยมีคนมารบกวน หรือเข้ามาวุ่นวาย ที่เป็นเช่นนี้เพราะคนส่วนใหญ่มุ่งหวังความสุขสบายทางวัตถุในเส้นทางสายใหญ่มากกว่า ทุกสิ่งในป่านี้จึงยังคงเป็นสภาพเดิมของมัน เมื่อออกจากป่าแล้วก็ไปมีที่ราบเชิงเขามีน้ำตกไหลลงมาเป็นลำธารและแอ่งน้ำ มีหมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่ ใกล้ๆ เมื่อเดินเข้าหมู่บ้านคนทั้งสี่ได้พบชายชราอีกครั้ง ท่านจึงกล่าวทักทายคนทั้งสี่ว่า “โอ ข้าดีใจมากที่เจ้าสามารถมาถึงได้ ในเวลาอันรวดเร็ว ข้อขอแสดงความยินดีและต้อนรับสู่ดินแดนอันสงบและร่มเย็น” “ทำไมพวกท่านจึงสามารถมาได้อย่างรวดเร็ว บางคนกว่าจะมาที่นี้ได้ใช้เวลานานหลายปีมาก บางคนชั่วชีวิตหนึ่งยังมาไม่ถึงเลย” ชายวัยกลางคน คนหนึ่งในหมู่บ้านถาม “พวกข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” ชายทั้งสี่ตอบอย่างงงๆ “แต่ว่าข้าพอนะรู้ นั้นข้าจะตอบให้ฟังนะ” ชายชราตอบ “ในการเดินทางของพวกเจ้านี้ก็เหมือนการเดินทางของใจไปบนเส้นทางธรรม เคล็ดลับก็คือ การเดินทางด้วยสติสัมปชัญญะ เมื่อคนหนึ่งหลงไปดู หลงไปฟัง หลงไปคิด ด้วยอำนาจของมารที่มาหลอกล่อให้ล่าช้าหรือหยุดเดิน ก็จะมีคนที่มาเตือนสติให้เดินต่อไป ซึ่งในคนธรรมดาจะไม่สามารถมีสติได้ทัน จึงใช้ชีวิตหมดไปกับความลุ่มหลงทางวัตถุเงินทองทรัพย์สิน แสวงหาชื่อเสียง ลาภสักการะ จนหมดเวลาในชีวิตชาติหนึ่งๆไปเลยโดยอยู่กับที่เดิม ที่เหลือก็ออกเดินทางมาตามสายพระธรรม แต่ก็มาติดสงสัยในนิมิต แสงสีเสียง หลงติดในความพอใจ ไม่พอใจในสภาวะธรรมต่างๆ บ้างก็ใจร้อนอยากให้ถึงไวๆ ก็เลยมีกิเลสเพิ่มขึ้นมาถ่วงความก้าวหน้าไว้ กว่าจะมีสติถอนความหลงผิดในเรื่องต่างๆก็ช้าและเนิ่นนานมาก ฉะนั้น การช่างสังเกตถึงกิเลสที่เข้ามาและการมีผู้ชี้นำที่ดี การมีสติในชีวิตประจำวันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ความไม่จงใจเพ่งจนเค่รงเครียด ทำแบบสนุกที่จะทำ ขยันก็ทำไม่ขยันก็ทำไม่ต้องตั้งความหวังว่าจะต้องรู้ ต้องเห็น ต้องได้อะไรมา เพียงแต่มีอะไรก็รู้ พอรู้ก็ปล่อยวางไปเรื่อยๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเดินทางของใจสู่จุดหมายแห่งความหลุดพ้นที่ไม่เนิ่นช้า อันเป็นเป้าหมายในที่สุด” พระศาสดากล่าวไว้ว่าเป็นบุญสูงสุดที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์และพบพระพุทธศาสนา ถ้าได้พบแล้วเดินทางแล้วก็ขอให้มีความเจริญในธรรม มีความพากเพียรอยู่ในธรรม มีความสงบเย็น และขอให้เป็นการเดินทางของใจที่ไม่เนิ่นช้านะครับ |
เจ้าของ: | ariyachon [ 19 มิ.ย. 2009, 13:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเดินทางของใจ |
อนุโมทนาครับ คุณอิกคิว ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 22 มิ.ย. 2009, 16:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเดินทางของใจ |
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ ธรรมะสวัสดีวันพระค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | อมิตาพุทธ [ 22 มิ.ย. 2009, 16:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเดินทางของใจ |
'โมทนาด้วยครับ ท่าน อิกคิว ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ชาญวิทย์ [ 22 มิ.ย. 2009, 20:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเดินทางของใจ |
สาธุจ้า ![]() ![]() |
เจ้าของ: | poivang [ 23 มิ.ย. 2009, 11:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเดินทางของใจ |
ชอบคำตอบของชายชราจัง ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | อิกคิว [ 23 มิ.ย. 2009, 11:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเดินทางของใจ |
ขอบคุณ คุณ ariyachon นะครับ ที่เข้ามาอ่านเป็นคนแรกเลย ![]() ขอบคุณ คุณลูกโป่ง แสดงว่าต้องถือศีลแปดแน่ๆเลย ![]() ขอบคุณคุณ อมิตาพุทธที่เข้ามาให้กำลังใจอยู่เสมอๆนะครับ ![]() ของคุณคุณ ชาญวิทย์ คุณ poivangนะครับ ![]() ตอนแรกเข้ามาเห็นกระทู้ปิดไปแล้วสงสัยจะอ่านยากไปหน่อย ตอนนี้กระทู้เปิดแล้ว ใจเสียเลย ![]() แล้วเดี๋ยวจะหาเรื่องดีๆมาให้อ่านกันอีกนะครับ ![]() |
เจ้าของ: | ariyachon [ 23 มิ.ย. 2009, 14:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเดินทางของใจ |
อิกคิว เขียน: ตอนแรกเข้ามาเห็นกระทู้ปิดไปแล้วสงสัยจะอ่านยากไปหน่อย ตอนนี้กระทู้เปิดแล้ว ใจเสียเลย ![]() กระทู้ปิด กระทู้เปิด หมายความว่าอย่างไรหรอครับ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | อิกคิว [ 24 มิ.ย. 2009, 11:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเดินทางของใจ |
สวัสดีครับ คุณ ariyachon ![]() แหะๆ สงสัยจะเกิดความผิดพลาดน่ะครับ คือ วันแรกที่เข้ามาเห็นเป็นสี่เหลี่ยมสีฟ้า ติดหมุด แล้วก็ตอบไม่ได้ ก็เลยคิดว่ากระทู้ปิดไปแล้ว ![]() ตอนนี้ใช้ได้แล้ว ยังไงก็ต้องขอขอบคุณ คุณ ariyachon และทีมงานที่ช่วยแก้ไขให้ด้วย จนเป็นปกติแล้ว ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ![]() |
เจ้าของ: | หมูตอน [ 01 ก.ค. 2009, 12:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเดินทางของใจ |
อนุโมทนาค่ะ ขอบคุณสำหรับบทความที่ให้แง่คิดดีๆค่ะ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | อิกคิว [ 01 ก.ค. 2009, 15:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเดินทางของใจ |
คุณหมูตอน เจริญธรรมเช่นกันครับ ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |