ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

...ฟ้าเปลี่ยนสี...
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=22806
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 04 มิ.ย. 2009, 13:28 ]
หัวข้อกระทู้:  ...ฟ้าเปลี่ยนสี...

เหมือนท้องฟ้าจะรู้ว่าจิตใจของคนทุกข์กำลังเต็มไปด้วยเมฆหมอก
หนักอึ้งและหมองหม่น
หลายคนกำลังเครียด และทุกข์ตรมกับเรื่องชีวิตและการงาน
หลายคนไม่รู้ว่าข่าวลือที่ว่าจะมีการปลดพนักงานบางส่วน
เพื่อลดต้นทุนขององค์กร
จะเป็นจริงหรือไม่ และตนเองจะโดนหางเลขด้วยหรือไม่
อนาคตคงเป็นเรื่องเลวร้ายมากทีเดียว
หากคนนั้นมีภาระครอบครัวต้องดูแล
หลายคนหมองหม่นและเศร้าซึมกับภาระหน้าที่ของการเป็นหัวหน้าครอบครัว
ที่ดูไม่ประสบความสำเร็จเอาเสียเลย
ลูกๆ ไม่เชื่อฟัง ช่องว่างของความไม่เข้าใจดูใหญ่โตเหลือเกิน
จะปรึกษาคู่ชีวิตหรือเพื่อนสนิท
ความเครียดและเงื่อนไขเวลาที่บีบรัด
ก็ทำให้ได้รับแต่ความหงุดหงิดรำคาญ
คำแนะนำง่ายๆ สั้นๆ ว่า อย่าคิดมาก

เหมือนน้ำตาที่ไหลรินในจิตใจ ท้องฟ้าที่มืดครึ้ม
ปั่นป่วนก็ถล่มทลายเป็นสายฝนที่หนักหน่วงและรุนแรง
ลมพัดแรงกรรโชก แสงฟ้าแลบแสบตา
สลับกับเสียงฟ้าร้องกึกก้อง ครึกโครมอยู่นานราวไม่สิ้นสุด
แต่แล้ว เมื่อเวลาผ่านไป
สายฝนค่อยๆ โรยตัวเป็นเพียงละอองฝนบางๆ
ท้องฟ้ากลับกลายเป็นสีสันสดใส สว่างเบิกบาน
และนั้นริมขอบฟ้า สายรุ้งปรากฏตัวขึ้น
เสียงนกเริ่มขับขาน สายลมเย็น อ่อนโยนพัดโชยมา
จิตใจของคนทุกข์โปร่งเบาขึ้น
สัมผัสได้ถึงความหวังและกำลังใจที่อยู่ในซอกหลืบเร้น
ค่อยๆ แทรกตัว ปรากฎขึ้น
ในที่สุดโชคร้ายและความทุกข์ก็จะผ่านพ้นไป
ตราบที่ยังมีชีวิต สุขภาพยังแข็งแรง สติปัญญายังคงอยู่
ความรัก ความห่วงใยในจิตใจก็จะเป็นพลังนำพาชีวิตคนทุกข์
และครอบครัวไปสู่สีสันอันสวยงามของชีวิตได้ในที่สุด

ความรัก ความหวัง กำลังใจที่อยู่ในจิตใจของพวกเรา
ในฐานะคนทุกข์หรือไม่ก็ตาม
จะเป็นพลังที่มากเพียงพอและทำให้ท้องฟ้าในจิตใจคนทุกข์เปลี่ยนสีได้
อย่างที่หลายคนปรารถนาหรือไม่ อาจได้หรือไม่ได้
เพราะเหตุปัจจัยที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมีมากมาย เริ่มต้นด้วย

๑) อำนาจเหนือ
อำนาจนี้เป็นพลังการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่อยู่เหนือพ้นการควบคุมของเรา
ดังเช่น วิบากกรรม อันเป็นผลกรรมที่เกิดขึ้นจากกรรมที่ได้ก่อไปแล้ว
ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อำนาจเหนือในชีวิตประจำวันที่เราต้องพบเห็น
และอยู่ร่วมด้วย เช่น ระบบกฎหมาย นโยบายบริษัท องค์กร
อำนาจนี้เป็นสิ่งที่โครงสร้างเบื้องบนสั่งการลงมา

๒) แนวร่วมจากสังคม วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ฯลฯ
เหล่านี้คือ ตัวอย่างของพลังจากสังคมที่คนหมู่มากยึดถือและกระทำร่วมกัน
แง่หนึ่งพลังนี้เป็นฐานพลังที่สามารถหนุนนำ และส่งเสริมการเปลี่ยนแปลง
หากการเปลี่ยนแปลงนั้นสอดคล้องกับแนวร่วมสังคมดังกล่าว
แต่หากการเปลี่ยนแปลงนั้นสวนทางกับสังคม กับวัฒนธรรม
การเปลี่ยนแปลงนั้นก็ต้องเผชิญกับแรงต้าน
เช่น เมื่อ เราคิดเปลี่ยนแปลงอุปนิสัย ความเคยชินบางอย่าง
ให้เป็นอุปนิสัยใหม่ๆ แรงต้านทานที่ต้องเผชิญ
ก็คือ ความเชื่อ ความเคยชินเดิมๆ ที่แฝงฝังอยู่

๓) สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้จากสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา
ภูมิอากาศ ภูมิประเทศ เพื่อน มิตร คนแปลกหน้าที่ได้พบปะ
สิ่งแวดล้อม บ่อยครั้ง สิ่งรอบตัวเล็กๆ เช่น ความสะอาด
ความเป็นระเบียบ ก็เป็นเหตุปัจจัยที่ช่วยจัดระเบียบ
และความสะอาดในจิตใจ ดอกไม้ ต้นไม้ ภาพวาด บทกวี
สามารถสร้างแรงบันดาลใจที่เราอาจคาดไม่ถึง และ

๔) พลังชีวิตจากตัวเรา

ท่าทีความคิด ความรู้สึก ความมุ่งมั่น แรงจูงใจ ค่านิยม ฯลฯ
ถือเป็นพลังสำคัญมากในการสร้างการเปลี่ยนแปลง
วีรกรรมของบุคคลสำคัญในโลกเกิดขึ้นได้ก็จากพลังชีวิตเช่นนี้

ในเส้นทางชีวิต เราเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
แรงขับเคลื่อนที่ทำให้เราต้องดิ้นรนเปลี่ยนแปลงก็คือ ความทุกข์
ขณะที่ความสุขทำให้เราพอใจที่จะยึดเหนี่ยว
และเก็บรักษาให้ความสุขอยู่กับเราตลอดไป
แต่ความสุขก็เป็นเพียงผิวหน้าที่ปกคลุมความทุกข์
เพราะทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลงไป แล้วความทุกข์ก็แสดงตัวออกมา
ความทุกข์จาการมี การได้ การประสบในสิ่งที่ไม่ปรารถนา
เช่น การบังคับขู่เข็ญ การข่มเหงรังแก การผิดหวังเสียใจ
การโกหกหลอกลวง การอยู่กับสิ่งที่ไม่รัก ไม่ชอบ
อีกรูปโฉมของความทุกข์คือ การไม่มี การไม่ได้ ในสิ่งที่ปรารถนา
เช่น ความรัก ความอบอุ่นจากคนพิเศษ ความมั่นคง
ปลอดภัย ทรัพย์สิน บทบาทฐานะที่อยากได้ อยากเป็น ฯลฯ
ความทุกข์ทั้งจกการมี การเป็น และการไม่มี
การไม่เป็นรุมเร้าให้เราต้องดิ้นรน
และต่อสู้เพื่อมุ่งเปลี่ยนแปลงสภาพการณ์ความทุกข์ที่รุมเร้าให้หายไป
แต่ความทุกข์ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในสูญญากาศ
การเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนความทุกข์
เราต้องเผชิญกับแรงต้านทานหรือแรงหนุนเสริมใน ๔ ลักษณะที่กล่าวมา

แล้วในเส้นทางของการเปลี่ยนแปลง เราเรียนรู้และเติบโตตลอดเวลา
คนทุกข์หลายคนมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้าที่มืดครึ้ม
สีดำทะมึนกลายเป็นหนักหน่วง และบางเบา
มองเห็นสีสันของท้องฟ้าที่ดูน่ากลัวกลับกลายมาเป็นท้องฟ้าสดใส สวยงาม
พร้อมกับที่เราได้เรียนรู้ว่า ท้ายที่สุดความทุกข์ที่รุมเร้า “มันก็จะผ่านไป”
ความทุกข์ไม่ใช่สิ่งที่เที่ยงแท้ถาวร แปรเปลี่ยนตามเหตุปัจจัย
เช่นเดียวกับความสุข
เหตุปัจจัยนำพาให้ความสุขและความทุกข์เปลี่ยนแปรไปมาเสมอ


ย้อนรำลึกถึงประวัติชีวิตของอหิงสกะ
องคุลิมาลและพระอริยบุคคลในท้ายที่สุด
จากชีวิตของนักศึกษาผู้ใฝ่รู้ กลายมาเป็นโจรร้ายผุ้ฆ่าฟันชีวิต
แล้วเพียงไม่กี่นาทีเมื่อได้พบปะและได้รับคำเทศนาสั่งสอนจากพระพุทธเจ้า
ชีวิตของโจรร้ายก็แปรเปลี่ยนมาเป็นพระอริยเจ้า
อหิงสกะได้รับคำสั่งสอนจากอาจารย์ที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ
ประสานกับความเชื่อของสังคมในเรื่องการบูชายัญ
เป็นพลังนำพาชีวิตให้ไปสู่ความรุนแรง
แต่การได้พบปะกัลยาณมิตร เช่น พระพุทธเจ้า
และกอรปกับการมีพื้นฐานธรรมะในจิตใจ
ที่พร้อมรับคำสั่งสอนอันถูกต้องจากพระ พุทธเจ้า
เป็นพลังคัดง้างที่ทำให้โจรร้ายองคุลิมาล
ซึ่งเป็นเต็มไปด้วยกรรมชั่วและความรุนแรง
หันเหสู่เส้นทางของธรรมมะและสันติสุขได้ในที่สุด

เราทุกคนมีศักยภาพของ “ฟ้าเปลี่ยนสี” สิ่งสำคัญ
คือ การได้ก้าวเดิน และเปิดเผยชีวิตเพื่อเรียนรู้
และเติบโตจากเส้นทางชีวิต เส้นทางการเปลี่ยนแปลง



โดย… ชัยยศ ยโสธโร
ที่มา...โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 15 มีนาคม 2552
คัดลอกจาก...เครือข่ายพุทธิกา : เพื่อพระพุทธศาสนาและสังคม คอลัมน์ มองย้อนศร


http://www.peacefuldeath.info/article/?p=151#more-151

:b8: :b8: :b8:

ไฟล์แนป:
sky.jpg
sky.jpg [ 13.82 KiB | เปิดดู 2927 ครั้ง ]

เจ้าของ:  มิตรตัวน้อย [ 04 มิ.ย. 2009, 15:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ...ฟ้าเปลี่ยนสี...

สาธุ..

:b8: :b4: :b20:

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 04 มิ.ย. 2009, 16:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ...ฟ้าเปลี่ยนสี...

:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุกับคุณลูกโป่งด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  O.wan [ 04 มิ.ย. 2009, 20:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ...ฟ้าเปลี่ยนสี...

:b7: ดูรูปแล้วเศร้า.....จังนะคะ :b2: :b2:
:b41: แต่พออ่านบทความแล้ว :b4: :b4: :b4: ค่ะ
ขอบคุณๆลูกโป่งนะคะ :b18: :b18: :b18:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/