ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

คนโง่ รู้ตัวว่าโง่ ยังมีทางเป็นบัณฑิตได้บ้าง
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=18831
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ทัพหลวง [ 30 ต.ค. 2008, 11:16 ]
หัวข้อกระทู้:  คนโง่ รู้ตัวว่าโง่ ยังมีทางเป็นบัณฑิตได้บ้าง

โย พาโล มญฺญตี พาลฺยํ
ปณฺฑิโต วาปิ เตน โส
พาโล จ ปณฺฑิตมานี
ส เว พาโลติ วุจฺจติ . . .


คนโง่ รู้ตัวว่าโง่
ยังมีทางเป็นบัณฑิตได้บ้าง
แต่โง่แล้ว อวดฉลาด
นั่นแหละเรียกว่าคนโง่แท้


A fool aware of this stupidity
Is in so far wise,
But the fool thinking himself wise
Is called a fool indeed.


http://www.larndham.net/dmbot/






เจ้าของ:  ทัพหลวง [ 30 ต.ค. 2008, 11:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนโง่ รู้ตัวว่าโง่ ยังมีทางเป็นบัณฑิตได้บ้าง

ไร้กรอบ อิสระเป็นของตัวคุณ

รูปภาพ


***เคยได้ยินชื่อ ดร.วรภัทร ภู่เจริญ ไหมครับ??
เขาเคยเป็นวิศวกรขององค์การอวกาศนาซา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ 20 กว่าปีก่อน
เคยได้รับรางวัลงานวิจัยที่ดีที่สุดระดับโลกเกี่ยวกับเครื่องยนต์ไอพ่น


ตัดสินใจกลับเมืองไทยเพราะ
1.อยากดูแลพ่อแม่
2.ไม่อยากเป็นพลเมืองชั้นสองในบ้านพักคนชรา
3.อยากเที่ยว และ
4.ชอบกินอาหารอร่อย

เคยเป็นอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ก่อนจะออกมาตั้งบริษัทที่ปรึกษาของตัวเอง
ผมประทับใจบทสัมภาษณ์ของ ดร.วรภัทรใน "เสาร์สวัสดี" ของ "กรุงเทพธุรกิจ " มาก
คนอะไรก็ไม่รู้ ชีวิตมันส์เป็นบ้า ความคิดก็กวนเหลือหลาย
ตอนที่เขาเป็นอาจารย์ วิธีการสอนหนังสือของเขาแปลกกว่าคนอื่น

"ผมออกนอกกรอบตลอดเวลา" เขาบอก

เขาเคยพาเด็กวิศวะไปที่ริมสระว่ายน้ำ เรียนไปและดูนิสิตสาว ๆ ว่ายน้ำไป
ด้วยคาดว่าคงไปเรียนเรื่อง "คลื่น"ระหว่างท่าฟรีสไตล์ กับท่าผีเสื้อ
คลื่นที่เกิดขึ้นของท่าไหนถี่กว่ากัน
ระหว่างชุดทูพีซกับวันพีซ
แรงเสียดทานกับน้ำ ชุดไหนมากกว่ากัน
แนวการศึกษาน่าจะออกไปทำนองนี้

แต่ที่ชอบที่สุดคือตอนที่เขาออกข้อสอบ
ข้อสอบของเขาสั้นและกระชับมาก

"จงออกข้อสอบเอง พร้อมเฉลย"
โหย...เด็กวิดวะอึ้งกันทั้งห้อง
คำตอบส่วนใหญ่เป็นการตั้งโจทย์แบบง่ายๆ
เช่น ปั้นจั่นมีกี่ชนิด

ผลปรากฎว่าได้ศูนย์กันทั้งห้อง
เพราะเป็นคำตอบที่ไม่ได้แสดงความคิดที่ลึกซึ้งสมกับที่เรียนมาทั้งเทอม
เหตุผลที่ดร.วรภัทรออกข้อสอบ ด้วยการให้นิสิตออกข้อสอบเอง เป็นเหตุผลที่ตรงกับใจผมมาก

"ชีวิตคนเราจะรอให้อาจารย์ตั้งโจทย์อย่างเดียวไม่ได้
ต้องหาโจทย์มาเอง คิดแล้วทำ ถ้าผิดแล้วอาจารย์จะปรับให้"

เขามองว่าเด็กรุ่นใหม่ติดนิสัยเด็กกวดวิชา รอคนคาบทุกอย่างมาป้อนให้ไม่รู้จักคิดเอง

"ถ้ารอและตั้งรับ คุณก็เป็นพวกอีแร้ง
แต่พวกคุณแย่กว่า
เพราะเป็นแค่ลูกอีแร้ง คือ รออาหารที่คนอื่นป้อนให้"

โหย...เจ็บ

ผมเชื่อมานานแล้วว่า
ชีวิตของคนเราเป็นข้อสอบอัตนัยที่ต้องตั้งโจทย์เอง และตอบเอง
ไม่ใช่ข้อสอบปรนัย
ที่มีคนตั้งโจทย์ และมีคำตอบ เป็นทางเลือก ก-ข-ค-ง
ถ้าใครที่คุ้นกับ "ชีวิตปรนัย"
ที่มีคนตั้งโจทย์ให้และเสนอทางเลือก 1-2-3-4 คนคนนั้นชีวิตจะไม่ก้าวหน้า

เพราะต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลาติดกับ "กรอบ" ที่คนอื่นสร้างให้
ไม่เหมือนกับคนที่รู้จักคิด และตั้งคำถามเอง
เรื่องการตั้งคำถามกับชีวิต เป็นเรื่องสำคัญมาก อย่าลืมว่า

เพราะมี "คำถาม" จึงมี "คำตอบ"

เมื่อมี "คำตอบ" เราจึงเลือกเดิน
พูดถึงเรื่องการตั้งคำถาม ผมนึกถึง "โสเครติส" เขาเป็นนักปรัชญาเอกของโลก
ที่สอนลูกศิษย์ด้วยการสนทนา ตั้งคำถามให้ลูกศิษย์ตอบ
สร้างองค์ความรู้จาก "คำถาม"
กลยุทธ์ของ "โสเครติส" ในการสอน คือ
ไม่ให้ความเห็นใดๆ แก่นักเรียน และทำลายความมั่นใจของนักเรียนที่เชื่อว่าตนเองรู้


"โสเครติส" เชื่อว่าเมื่อเด็กตระหนักใน "ความไม่รู้" ของตนเอง
เขาจะเริ่มต้นแสวงหา "ความรู้"
แต่ถ้าเด็กยังเชื่อมั่นว่าตนเองมี "ความรู้" เขาก็จะไม่แสวงหา "ความรู้ "
การตั้งคำถามของโสเครติสจึงมีเป้าหมาย
โจมตีและทำลายความเชื่อมั่นในภูมิความรู้ของนักเรียน
เป็นกลยุทธ์เท "น้ำ" ให้หมดจากแก้ว
เมื่อแก้วไม่มีน้ำแล้ว จึงเริ่มให้เขาเท "น้ำ" ใหม่ ใส่แก้วด้วยมือของเขาเอง
"น้ำ" ที่ลูกศิษย์แต่ละคนเทลงแก้วด้วยมือตัวเองมาจาก "คำตอบ" ที่เขาค้นคิดขึ้นมาเอง
"คำตอบ" จาก "คำถาม" ของ "โสเครติส"
"โสเครติส" นิยามศัพท์คำว่า "คนฉลาด" และ "คนโง่" ได้อย่างน่าสนใจ
"คนฉลาด" ในมุมมองของ
"โสเครติส" นั้นไม่ใช่คนที่รู้ทุกเรื่องแต่


"คนฉลาด" คือคนที่รู้ว่าตัวเองไม่รู้


ส่วน "คนโง่" นั้น คือคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ แต่ทำตัวราวกับเป็นผู้รู้


***ไม่น่าเชื่อว่าก่อนหน้านี้
ผมยังมีความภาคภูมิใจใน "ความรู้" ของตนเอง
แต่พออ่านถึงบรรทัดนี้
ทำไมผมเริ่มรู้สึกว่า...ตัวเองไม่รู้อะไรเลย***


http://variety.thaiza.com/ไร้กรอบ%20อิสระเป็นของตัวคุณ_1212_122133_1212_.html

เจ้าของ:  Bwitch [ 21 ก.พ. 2010, 10:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนโง่ รู้ตัวว่าโง่ ยังมีทางเป็นบัณฑิตได้บ้าง

:b8: โมทนาสาธุค่ะ

"กว่าจะรู้จักชีวิต ว่ามีกายมีจิตผสมผสาน

กว่าจะถอดถอนจิตจากอุปาทาน ก็ซมซานด้วยตีนกาเหยียบตาเอา

กว่าจะรู้ว่าไม่รู้ หลังก็คู้ ตาก็มัว หัวก็ขาว

กว่าใจจะหายมัวเมา ฟันก็กลับบ้านเก่าเหลือแต่เหงือกแดงๆ

กอบโกยอะไรกันนักหนา แช่งด่าอะไรกันมากนัก

หลงใหลอะไรกันหน่วงหนัก ไม่นานนักเขาจักเอาไปเผาไฟ"


ที่มา
http://www.jjthai.net/articles/4554

เจ้าของ:  kanalove [ 21 ก.พ. 2010, 11:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนโง่ รู้ตัวว่าโง่ ยังมีทางเป็นบัณฑิตได้บ้าง

ชอบบทความมากๆเลยคะ ^^

สอนไรได้หลายๆอย่างทีเดียว

อ้างคำพูด:
คนโง่ รู้ตัวว่าโง่
ยังมีทางเป็นบัณฑิตได้บ้าง
แต่โง่แล้ว อวดฉลาด
นั่นแหละเรียกว่าคนโง่แท้


มีนักปราชญ์ท่านหนึ่งผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือเคยกล่าวไว้ว่า...

"สิ่งที่ผมรู้มีเพียงแค่อย่างเดียว นั้นคือผมไม่รู้อะไรเลย"


อ้างคำพูด:
"ชีวิตคนเราจะรอให้อาจารย์ตั้งโจทย์อย่างเดียวไม่ได้
ต้องหาโจทย์มาเอง คิดแล้วทำ ถ้าผิดแล้วอาจารย์จะปรับให้"


การคิดนอกกรอบ... ประทับจายยยยย T^T~~
นี่แหละ การใช้ชีวิตอย่างไม่ยึดติดรูปแบบใดๆ ไม่หลงกับความรักจนยึดติด คิดติดตามมากเกินไป
การใช้ชีวิตที่อิสระ... มีความสุข ทำตามใจตัวเองได้
และยังสามารถแบ่งปันความอิสระนี้ให้กับผู้อื่นได้ด้วย

เรื่อบของความรัก... ที่หลายๆคนชอบยึดติด
เปนเรื่องของบุคคลอื่นที่ค้างคาใจเรา ระบายตรงนี้นิดหนึ่งละกัน ^^

ผู้ที่ยังมีจิตยึดติดกับความรักนั้น แถมยังเป็นรักข้างเดียวคงจะทุกข์น่าดู... เพราะว่าใจที่ยึดติดอยากให้เขารักตอบ... นี่ก็คงทุกข์น่าดู....
ทำไมนะทำไม ถึงไม่เลิกยึดติดละ หรือความเหงามีค่ามากเกินกว่าจะออกมาได้

ถ้ากำจัดความเหงาแล้วล่ะก็มีอะไรตั้งหลายอย่างให้ทำ อย่างน้อยก็หยุดที่จะวิ่งตามหาความรัก ก็เป้นสิ่งที่ดี
คนเราส่วนใหญ่ชอบที่จะวิ่งหาความรัก มากกว่าจะเป็นฝ่ายผู้ให้ความรักเสียเอง....

เรามาเป็นผู้ให้ความรัก กับผู้อื่นกันเถอะนะ
ความรักที่ไม่ต้องหวังผลตอบแทน หวังให้เขามีความสุขจริงๆ
แบบนี้ไม่ต้องทุกข์ใจด้วย มีแต่ win กับ win

เจ้าของ:  LOCOMOTIVE [ 24 ก.พ. 2010, 15:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนโง่ รู้ตัวว่าโง่ ยังมีทางเป็นบัณฑิตได้บ้าง

"โง่แล้วทำตัวเป็นบัวใต้คอนกรีต เห็นทีจะเป็นบัณฑิตได้ยาก"

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/