ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
เข้าเพื่ออะไร http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=65043 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 06 พ.ย. 2024, 09:28 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | เข้าเพื่ออะไร | ||
๔. เข้าเพื่ออะไร ? [๘๗๒] ปัญหากรรมว่า เข้าเพื่ออะไร ? ตอบว่า ท่านระอาในความเป็นไปและความแตกแห่งสังขารทั้งหลาย จึงเป็นผู้ไม่. มีจิตในทิฏฐธรรมนั่นเทียว เข้าด้วยประสงค์ว่า "เราจักถึงนิโรธ นิพพาน อยู่เป็นสุข ดังนี้ ๔. เข้าเพื่ออะไร ? (๘๗๒) สองบทว่า สงฺขารานํ ปวตฺติเภเท ความว่า ในความเกิดขึ้นและในความ แตกไปทุก ๆ ขณะแห่งสังขตธรรมทั้งหลาย, อีกอย่างหนึ่ง ความว่า ในความจำแนกความ เป็นไปแห่งสังขตธรรมเหล่านั้น ซึ่งต่างโดยประเภทมีกุศลเป็นต้น อันถูกความเป็นทุกข์ ๓ ประการ เบียดเบียนแล้ว. ความเป็นแห่งทุกข์แห่งสังขารแม้ได้อยู่ในรูปธรรรมทั้งหลาย ก็ ย่อมถึงความเป็นอัพโพหาริก เพราะความปราศจากจิตและเจตสิก. คำว่า ระอา คือ หน่าย คำว่า ถึงนิพพาน คือ เหมือนบรรลุอนุปาทิเสสนิพพาน. คำว่า เป็นสุข คือ ไม่มีทุกข์. ๕. การเข้านิโรธสมาบัตินั้นมีได้อย่างไร ? [๕๗๓] ปัญหากรรมว่า และการเข้านิโรธสมาบัตินั้นมีได้อย่างไร? ตอบว่า เมื่อพระอริยะพากเพียรพยายามด้วยอำนาจสมถะและวิปัสนา ทำบุพกิจ. เสร็จแล้ว ทำคเนวสัญญานาสัญญายตนะให้ดับอยู่ การเข้านิโรธสมาบัติมีได้อย่างนี้ ส่วนผู้ใดพากเพียรพยายามด้วยอำนาจสมถะอย่างเดียว ผู้นั้นบรรลุเนวสัญญานา- สัญญายตนสมาบัติแล้วก็หยุด ส่วนผู้ใดพากเพียรพยายามด้วยอำนาจวิปัสสนาอย่างเดียว ผู้บรรลุผลสมาบัติแล้วหยุด อนึ่ง ผู้ใดพากเพียรพยายามด้วยอำนาจสมถะและวิปัสสนา ทั้ง ๒ อย่างนั้นเทียว ทำบุพกิจเสร็จแล้ว ยังเนวสัญญานาสัญญายตนะให้ดับ ผู้นั้นชื่อว่า เข้านิโรธสมาบัติ ที่ว่ามานี้ เป็นความสังเขปการเข้านิโรธสมาบัตินั้น
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 06 พ.ย. 2024, 15:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เข้าเพื่ออะไร |
๕. การเข้านิโรธสมาบัตินั้นมีได้อย่างไร ? (๘๗๓] คำว่า ด้วยอำนาจสมถะและวิปัสสนา ความว่า ด้วยอำนาจสมถะและ วิปัสสนาที่เป็นไปร่วมกัน เพราะความเป็นธรรมมีอุปการะแก่กันและกัน เหมือนของที่ผูก เป็นคู่กันไว้ คำว่า พากเพียรพยายาม คือ ดำเนินไปสู่ขั้นขึ้นสูงขึ้นไปถึงเนวสัญญานาสัญญา- ยตนะและถึงอนุโลมญาณ. บทว่า นิโรธยโต ความว่า เข้าเนวสัญญานาสัญญายตนะแล้ว ทำเนวสัญญานาสัญญายตนะนี้ให้ดับไป. การเข้านิโรธสมาบัตินั้นย่อมมีได้อย่างนี้ เพราะ ความไม่เกิดขึ้นแห่งจิตแม้ดวงไร ๆ อื่นเลย. ด้วยคำว่า ส่วนผู้ใด เป็นต้น ท่านอาจารย์ย่อม เผยเนื้อความที่ท่านกล่าวไว้ว่า ด้วยอำนาจสมถะและวิปัสสนา โดยหัวข้อที่เป็นพยติเรก (ความตรงกันข้าม). บรรลุเนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติแล้วก็หยุด เพราะไม่มีสมถะ และวิปัสสนาล้วน ๆ สูงไปกว่านั้น. ผู้ใดพากเพียรพยายามด้วยอำนาจวิปัสสนาอย่างเดียว ถ้าเป็นพระอริยะมีควนต้องการผลสมาบัติ ผู้นั้นบรรลุผสมาบัติของตนแล้วก็หลัวก็หยุด. ถ้า ปุถุชนหรือเป็นพระเสขะมีความต้องการมรรค หากว่าบรรลุมรรคด้วยวิปัสสนานั้นแล้ว ตั้งอยู่ในผล แม้ผู้นั้นท่านก็เรียกว่า บรรลุลสมาบัติแล้วหยุดเหมือนกัน. บทว่า โส โยค อุภยวเสน ปฏิปนฺโน แปลว่า ผู้ปฏิบัติด้วยอำนาจสมถะและวิปัสสนา ทั้ง ๒ นั้น บทว่า ตํ โยค นิโรธสมาปตฺติํ แปลว่า นิโรธสมาบัตินั้น. |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |