ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ศีลโลกียะ ศีลโลกุตตระ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=64444
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 17 พ.ย. 2023, 04:53 ]
หัวข้อกระทู้:  ศีลโลกียะ ศีลโลกุตตระ

คำอธิบายศีล ๒ อย่าง หมวดที่ ๗
ในศีล ๒ อย่าง หมวดที่ ๗ มีคำอธิบายดังนี้

โลกิยศีล คือ ศีลทั้งหมดที่เป็นอารมณ์ของอาสวะ นำภพชั้นวิเศษมาให้ และ
เป็นเหตุของการออกจากภพ ดังพระพุทธดำรัสว่า

วินโย สํวรตฺถาย, สํวโร อวิปฺปฏิสารตฺถาย, อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชตฺถาย,.
ปาโมชฺชํ ปีตฺตถาย, ปีติ ปสฺสทฺธตฺถาย, ปสฺสทฺธิ สุขตฺถาย, สุขํ สมาธตฺถาย, สมาธิ
ยถาภูตญาณทสฺสนตฺถาย, ยถาภูตญาณทสฺสนํ นิพฺพิทตฺถาย, นิพฺพิทา วิราคตฺถาย,
วิราโค วิมุตฺตตฺถาย, วิมุตฺติ วิมุตฺติญาณทสฺสนตฺถาย, วิมุตฺติญาณทสฺสนํ อนุปาทาปริ-
นิพฺพานตฺถาย, เอตทตฺถา กถา, เอตทตฺถา มนฺตนา, เอตทตฺถา อุปนิสา, เอตทตฺถํ
โสตาวธานํ, ยทิทํ อนุปาทาจิตฺตสฺส วิโมกฺโข."

"๑. วินัยเพื่อประโยชน์แก่การสังวร (กายและวาจา)
๒. การสังวรเพื่อประโยชน์แก่การไม่เดือดร้อนใจ
๓. การไม่เดือดร้อนใจเพื่อประโยชน์แก่ความปราโมทย์ (ปีติอย่างอ่อน)
๔. ความปราโมทย์เพื่อประโยชน์แก่ปีติ (ปีติอย่างแก่กล้า)
๕. ปีติเพื่อประโยชน์แก่ปัสสัทธิ (ความสงบกายและใจ)

๖. ปัสสัทธิเพื่อประโยชน์แก่ความสุข
๗. ความสุขเพื่อประโยชน์แก่สมาธิ
๘. สมาธิเพื่อประโยชน์แก่ยถาภูตญาณทัสสนะ (การรู้เห็นรูปนามและเหตุปัจจัย
ตามความเป็นจริง)
๙. ยถาภูตญาณทัสสนะเพื่อประโยชน์แก่นิพพิท (ความเบื่อหน่าย, นิพพิทาญาณ)
๑๐. นิพพิทาเพื่อประโยชน์แก่วิราคะ (มรรคอันปราศจากกิเลส)
๑๑. วิราคะเพื่อประโยชน์แก่วิมุตติ (อรหัตตผลอันหลุดพ้นจากกิเลส)
๑๒. วิมุตติเพื่อประโยชน์แก่วิมุตติญาณทัสสนะ (ปัญญารู้เห็นวิมุตติ, ปัจจเวก
ขณญาณ)
๑๓. วิมุตติญาณทัสสนะเพื่อประโยชน์แก่อนุปาทาปรินิพพาน (การดับทุกข์
โดยไม่ยึดมั่น, การปรินิพพาน)
ความหลุดพ้นแห่งจิต (วิโมกข์) เพราะไม่ยึดมั่นมีอยู่ การพูด การปรึกษา
ต่อๆ มา (มีการรักษาวินัยเป็นต้น] และการเงี่ยโสตลงสดับวินัย] มีประโยชน์เพื่อ
หลุดพันนั้น"

โลกุตตรศีล คือ ศีลที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ นำการออกจากภพ
และเป็นอารมณ์ของปัจจเวกขณญาณ
ศีลมี ๒ อย่างเช่นนี้ โดยจำแนกเป็นโลกิยศีลและโลกุตตรศีล

ไฟล์แนป:
e442b287182ba918cee6b4ede34ba1a2_1697704457632_0.webp.jpg
e442b287182ba918cee6b4ede34ba1a2_1697704457632_0.webp.jpg [ 150.59 KiB | เปิดดู 2996 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 17 พ.ย. 2023, 13:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศีลโลกียะ ศีลโลกุตตระ

ในบรรดาศีล ๓ อย่าง มีคำอธิบายดังต่อไปนี้
ในศีล ๓ อย่าง หมวด ๑
หีน ศีล (ศีลชั้นต่ำ) คือ ศีลที่บุคคลประพฤติด้วย ฉันทะ วิริยะ จิตต หรือ วิมังสาชั้นต่ำ

มัชฌิมศีล (ศีลชั้นปานกลาง) คือ ศีลที่บุคคลประพฤติด้วยอิทธิบาทมีฉันทะ
เป็นต้นชั้นปานกลาง

ปณีตศีล (ศีลชั้นประณีต) คือศีลที่บุคคลประพฤติด้วยอิทธิบาทชั้นประณีต
อีกอย่างหนึ่ง หีนศีล คือ ศีลที่บุคคลสมาทานด้วยการหวังชื่อเสียง
มัชฌิมศีล คือ ศีลที่บุคคลสมาทานด้วยความต้องการผลบุญ
ปณีตศีล คือ ศีลที่บุคคลสมาทาน เพราะอาศัยความหมดจดว่า ศีลนี้เป็น
สิ่งที่ควรทำโดยแท้
อีกอย่างหนึ่ง หีนศีล คือ ศีลที่หม่นหมองด้วยการยกตนและข่มผู้อื่นเป็นตัน
อย่างนี้ว่า
เราเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ส่วนภิกษุอื่นๆ เหล่านี้เป็นผู้ทุศีล มีข้อประพฤติ
ต่ำทราม
มัชฌิมศีล คือ ศีลชั้นโลกียะที่ไม่หม่นหมอง
ปณีตศีล คือ ศีลชั้นโลกุตตระ
อีกอย่างหนึ่ง หนศีล คือ ศีลที่บุคคลประพฤติเพื่อต้องการภพสมบัติ (สมบัติ
คือภพ หมายถึง การบังเกิดในสุคติภูมิคือมนุษย์ เทวดา หรือพรหม) และโภคสมบัติ
(สมบัติคือทรัพย์) ด้วยอำนาจตัณหา
มัชฌิมศีล คือ ศีลที่บุคคลประพฤติเป็นไปเพื่อความหลุดพ้นของตน (ศีลของ
สาวกและปัจเจกโพธิสัตว์)
ปณีตศีล คือ ศีลที่เป็นบารมีของพระโพธิสัตว์ที่ประพฤติเพื่อความหลุดพ้นของ
สรรพสัตว์
ศีลมี ๓ อย่างเช่นนี้ โดยจำแนกเป็นนศีล มัชฌิมศีล และปณีตศีล

เจ้าของ:  sirinpho [ 16 ม.ค. 2024, 09:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศีลโลกียะ ศีลโลกุตตระ

:b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/