ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ส่วนมิจฉามัค ๘ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=64342 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 31 ต.ค. 2023, 03:17 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | ส่วนมิจฉามัค ๘ | ||
ส่วนมิจฉามัค ๘ ความเห็นผิดเป็นมัคที่พาไปสู่ทุคติ เพราะเห็น ไม่ตรงกับความจริง ทำให้เกิดมิจฉาทิฏฐิ ๑๐ อย่าง คือ ๑. เห็นว่าการให้ทานไม่มีผล ๒. การบูชาไม่มีผล ๓. การเชื้อเชิญต้อนรับไม่มีผล ๔. การทำดีทำชั่วไม่มีผล ๕. เห็นว่าโลกนี้ไม่มี คือสัตว์ที่เกิดขึ้นมาก็เกิดเอง ได้มาจาก โลกอื่น เพราะเห็นว่าตายแล้วสูญ ไม่มีการเกิดอีกต่อไป ๖. เห็นว่าโลกหน้าไม่มี เพราะสัตว์ตายแล้วสูญ ชาติหน้าไม่มี ๗. เห็นว่าการทำดีทำชั่วต่อมารดาไม่มีผล ๘. เห็นว่าการทำดีทำชั่วต่อบิดาไม่มีผล ๙. เห็นว่าสัตว์ที่เกิดเป็นโอปปาติกะไม่มี นรก สวรรค์ไม่มี เพราะ ตายแล้วสูญ ๑๐. เห็นว่าสมณพราหมณ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไม่มี ผู้รู้แจ้งโลกด้วย ตนเอง สอนผู้อื่นให้ปฏิบัติตามได้ไม่มี เพราะสัตว์ตายแล้วสูญ ปฏิเสธการ สร้างบารมีว่าไม่มี เพราะเห็นผิดอย่างนี้จึงทำให้เกิดมิจฉามัค ๘ ๑. มิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นผิดไม่เชื่อเรื่องกรรม เป็นต้น องค์ธรรม ได้แก่ ทิฏฐิเจตสิกที่ในโลภทิฏฐิคตส์. ๔ ๒. มิจฉาสังกัปปะ ดำริผิด ๓ อย่าง ๒.๑ ดำริในกามวิตก ปรารถนากามคุณ ได้แก่ วิตก ใน โลภจิต ๘
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 31 ต.ค. 2023, 03:29 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ส่วนมิจฉามัค ๘ | ||
๒.๒ ดำริในการพยาบาท พยาบาทวิตก ได้แก่ วิตกใน โทสะ ๓ ๒.๓ ดำริในการเบียดเบียน วิหิงสาวิตท วิตกในอกุศล ๑๒ ๓. มิจฉาวาจา พูดผิด กล่าววจีทุจริต ๔ อย่างคือ มุสาวาท ปิสุณาวาจา ผรุสว่าจา สัมผัปปลาปะ ๔. มิจฉาก้มมันตะ ทำการงานผิด ทำกายทุจริต ๓ อย่าง คือ ปาณาติบาด อทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร ๕. มิจฉาอาชีวะ มีอาชีพผิด เพราะทำกายทุจริด ๓ วจีทุจริต ๔ มิจฉาทิฏฐิ ๓ ข้อนี้ ไม่มีองค์ธรรม จึงเอาอกุศลจิตตุปบาท ๑๒ เป็นองค์ ธรรม ๖. มิจฉาวายามะ เพียรผิด คือเพียรทำ อกุศลกรรมบถ ๑๐ ๗. มิจฉาสติ ระลึกผิด เพราะขาดสติ ระลึกแต่เรื่องที่เป็นอกุศล องค์ธรรมไม่มี จึงเอาอกุศลจิตอุปบาทเป็นองค์ธรรม ๘. มิจฉาสมาธิ ตั้งใจมั่นผิด หมายเอาสมาธิที่เกิดกับอกุศลจิต ๑๑ เช่น ยิงนก ตกปลา เป็นต้น (เว้นเอกัดคตาเจ.ในโมหวิจิกิจฉาจิต เพราะไม่มีอธิโมกข์ตัดสินอารมณ์ สมาธิไม่มีกำลัง) องค์มัค ๙ แจกเป็นสัมมามัค ๘ มิจฉามัค ๘ สัมมามัค ๘ คือ สัมม าทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมา กัมมันตะ สัมมาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ องค์ธรรม มี ๘ คือ ปัญญา วิตก วิรตี ๓ วิริยะ สติ เอกัคคตา มิจฉามัค ๘ คือ มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวาจา มิจฉากัมมันตะ มิจฉาอาชีวะ มิจฉาวายามะ มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ องค์ธรรมมี ๔ คือ ทิฏฐิ วิตก วิริยะ เอกอัคคตา มัค ๑๖ รวมแล้วได้มัค ๑๒ คือ สัมมามัค ๘ มิจฉามัค ๔ ไม่มีองค์ธรรม ก็ให้เอาจิตตุปบาทที่เป็นอกุศลเป็นองค์มัค มัด ๑๓ ก็คงได้ องค์มัด ๙ นั่นเอง มัค มีสภาวะนำออกไป คือนำออกจากทุคติไปสุคติก็ได้ หรือ ออกจากสุคติไปทุคติก็ได้ หรือออกจากสุคติไปอคติก็ได้ ก็ชื่อว่า มัค สัมมามัค นำไปสู่ความดี คือไปสู่สุคติ กับอดติ คือพระนิพพาน มิจฉามัค นำไปสู่ความชั่ว คือไปสู่ทุคติ มัคคปัจจัย ย่อมไม่เกิดในอเหตุกจิต ๑๘ เพราะธรรมที่เป็นมัค จะ ต้องประกอบกับจิตที่มีเหตุเท่านั้น จิตใดไม่มีเหตุจิตนั้นไม่เป็นองค์มัค เพราะ ฉะนั้น มัคจึงต้องมีเหตุเป็นที่สุด -จบมัคคปัจจัย-
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |