พระนันทกุมารและพระราหุล
วันต่อมา เป็นวันอภิเษกเจ้าชายนันทกุมารพระอนุชาต่าง
มารดาซึ่งเป็นโอรสของพระนางมหาปชาบดีโคตมีขึ้นเป็นรัชทายาท
หระเจ้าสุทโธทนะทรงสมโภชด้วยการถวายภัตตาหารแด่พระพุทธ-
องค์พร้อมด้วยหมู่ภิกษุสงฆ์ เมื่อพระพุทธองค์ทรงทำภัตกิจแล้ว
ได้ประทานบาตรให้พระอนุชาถือไว้ แล้วเสด็จกลับวัดยังพระเวฬุวัน
พระนันทกุมารไม่กลัาทูลเตือนให้พระองค์รับบาตรคืนไป จำใจต้อง
ถือบาตรดำเนินตามเสด็จไป เมื่อนางชนบทกัลยาณีซึ่งเป็นคู่อภิเษก
ทอดพระเนตรเห็นจึงร้องทูลว่า "ขอพระองค์รีบเสด็จกลับมาโดยเร็ว
เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จกลับถึงพระเวฬุวัน ได้ตรัสถาม
นันทกุมารว่าต้องการจะบวชหรือไม่ พระนันทกุมารไม่อาจปฏิเสธ
เพราะความเคารพในพระศาสดา จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุใน
พระธรรมวินัย
สัปดาห์ต่อมา พระนางยโสธราให้ราลกุมารพระโอรสไป
เข้าเผ้าเพื่อทูลขอพระราชสมบัติที่ควรจะได้รับ พระพุทธองค์จึงทรง
รับสั่งกับพระสารีบุตรให้บวชราลกุมารเป็นสามเณร หลังจากนั้น
ไม่นานพระศาสดาตรัสธัมมปาลชาดกโปรดพระบิดา ท่านจึงบรรลุ
เป็นพระอนาคามีผู้จะไม่กลับมาเกิดในมนุษยโลกอีก
เมื่อประทับอยู่ในกรุงกบิลพัสดุ์พอสมควรแล้ว พระบรม-
ศาสดาเสด็จไปประทับยังหมู่บ้านอนุปิยนิคม แคว้นมัลละ พระเจ้า
ภัททิยะ พระกษัตริย์ในศากยวงศ์ เจ้าชายอนุรุทธะ เจ้าชายอานนท์
เจ้าขายภคุ เจ้าชายกิมพิละ และเจ้าชายเทวทัต พร้อมด้วยนาย
ภูษามาลาชื่ออุบาลีไค้ตามเสด็จมาและขออุปสมบท ในพรรษาแรก
พระภัททิยะบรรจุอรหัตตผล พระอนุรุทธะบรรลุทิพยจักษญาณ
พระอานนท์บรรลุเป็นพระโสดาบัน พระเทวฑัตได้อิมธิวิธอภิญญา
อันเป็นความรู้ชั้นสูงที่สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ได้
| ไฟล์แนป: |
|
ราหุล 50.jpg [ 133.41 KiB | เปิดดู 957 ครั้ง ] |