วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 04:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2023, 15:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




1683263860871-removebg-preview.png
1683263860871-removebg-preview.png [ 61.82 KiB | เปิดดู 515 ครั้ง ]
นิพพานสุข

พระสารีบุตรเคยกล่าวด้วยความชื่นชมว่า
"ผู้มีอายุ นิพพานนี้เป็นสุขจริง นิพพานนี้เป็นสุขจริง" -
พระลาลุทายีไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ จึงถามว่า
"ท่านสารีบุตร ความสุขอย่างนี้จะมีที่ไหนในโลก หากใน
นิพพานไม่มีความรู้สึกใดเลย

เป็นความจริงว่าที่ในนิพพานไม่มีเวทนา หรือความรู้สึก
อย่างหนึ่งอย่างใดเลย ทำให้เกิดสงสัยว่าจะมีความสุขจากที่ไหน
พระลาลุทายีกล่าวเช่นนี้เพราะความไม่รู้ของตนเอง

คำว่า ลาลุทายี มาจากศัพท์ว่า ลาล + อุทายี แปลว่า
พระอุทายีผู้พร่ำเพ้อ ท่านมักจะพูดแทรกขึ้นด้วยความโง่เขลาใน
ท่ามกลางผู้รู้ที่สนทนาธรรมอยู่ จึงได้ชื่อเช่นนั้น
พระสารีบุตรตอบว่า
"ถูกแล้ว ในนิพพานนี้ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย นั่นคือความสุข

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2023, 15:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




1683263878546-removebg-preview.png
1683263878546-removebg-preview.png [ 72.83 KiB | เปิดดู 513 ครั้ง ]
ความสุขในโลกนี้มี ๒ อย่าง คือ
๑. ความสุขที่ประกอบด้วยกาม (เวทยิตสุข, สามิสสุข)
๒. ความสุขที่ไม่อิงกาม (อเวทยิตสุข, นิรามิสสุข)
เมื่ออารมณ์ที่มาปรากฏทางทวารทั้ง ก่อให้เกิดความสุข
หรือความพอใจ เรียกว่า เวทยิตสุข หมายถึง สุขที่เกิดจากเวทนา
ในโลกที่ประกอบด้วยกามคุณทั้ง ๕ อารมณ์น่าพอใจทางทวารทั้ง ๕
คือ รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัสนั้น ล้วนเป็นสิ่งยอดปรารถนา
คนส่วนไหญ่ไม่ต้องการอยู่โดยปราศจากอารมณ์เหล่านี้ คนที่ชอบ
เคี้ยวหมากหรือสูบบุหรี่จะไม่ต้องการอยู่ในที่ซึ่งห้ามเคี้ยวหมากหรือ
สูบบุหรี่ คนที่ชอบกินอาหารอร่อย จะไม่อยากเกิดในพรหมโลกที่ไม่
จำเป็นต้องกินอาหาร และในพรหมโลกไม่มีความแตกต่างระหว่าง
เพศชายและเพศหญิง จึงไม่มีความรู้สึกทางเพศและทำให้กามคุณ
หมดความหมายไป ดังนั้น คนที่พอใจในกามคุณก็จะไม่อยากอยู่
ในที่เช่นนั้น ส่วนนิพพานไม่เป็นที่ต้องการในหมู่คนที่มีอวิชชาและ
ตัณหาหนาแน่น เพราะนิพพานนั้นไม่ประกอบด้วยกามคุณ พระ
ลาลุทายีคือตัวอย่างของกลุ่มบุคคลที่ไม่ปรารถนานิพพาน พระสารี-
บุตรได้กล่าวตอบว่า การไม่มีเวทนานั้นเองเป็นลักษณะของนิพทาน
ความสุขที่ไม่ประกอบด้วยกามคุณนี้เรียกว่า อเวทยิตสุข คือ สุขที่
ไม่เกิดจากเวทนา (ความรู้สึกในอารมณ์ ๖)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 87 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร