ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ไม่อยากทำบุญเพื่อนิพพาน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=63697 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 16 พ.ค. 2023, 09:27 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | ไม่อยากทำบุญเพื่อนิพพาน | ||
ไม่อยากทำบุญเพื่อนิพพาน การสั่งสมบุญด้วยการปฏิบัติวิปัสสนาช่วยให้เราได้เข้าใกล้ นิพพานมากขึ้น แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่จะหันมาปฏิบัติกันอย่าง จริงจัง ต้องใช้ความพยายามมากในการซักชวนคนให้มาเข้าปฏิบัติ แม้ในสมัยพุทธกาลก็เช่นเดียวกัน ดังมีสาธกในเรื่องพระนางเขมา พะมเหสีของพระเจ้าพิมพิสาร แม้ว่าพระเจ้าพิมพิสารจะเป็นสาวก ที่เลื่อมใสในพระพุทธองค์เป็นอย่างมาก แต่พระนางเขมากลับไม่เคย เข้าเฝ้าพระศาสดาเลย พระเจ้าพิมพิสารต้องพยายามใช้อุบาย เพื่อ จะชักนำให้พระนางไปวัดพระเวฬุวันให้ได้ จนเมื่อพระนางได้เข้าเฝ้า พระพุทธ์องค์และฟังธรรมแล้ว ก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในขณะ ที่ฟังอยู่นั้นเอง นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของนายกาละ บุตรของท่าน อนาถบิณฑิกเศรษฐีที่จะนำมาเล่าเป็นสาธกต่อไปนี้
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 16 พ.ค. 2023, 10:40 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่อยากทำบุญเพื่อนิพพาน | ||
เรื่องนายกาละ ท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี ได้รับฟังข่าวการอุบัติขึ้นของ พระพุทธเจ้าในขณะที่ไปค้าขายที่กรุงราชคฤห์ เขาไปเข้าเฝ้าและ เมื่อได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์ก็บรรลุเป็นพระโสดาบัน หลังจาก นั้นได้ทูลอาราธนาพระพุทธองค์ให้ไปประทับในกรุงสาวัตถี เขาซื้อสวนจากเจ้าชายเชตด้วยทรัพย์ ๑๘ โกฏิแล้วสร้าง วัดด้วยทรัพย์ ๑๘ โกฏิ จากนั้นยังได้จัดให้มีการฉลองด้วยทรัพย์ อีก ๑๘ โกฏิ รวมทั้งสิ้น ๕๔ โกฏิ แล้วถวายแต่พระพุทธเจ้าและ เหล่าพระสาวก ทุกวันเขาถวายภัตตาหารแด่พระพุทธเจ้าและภิกษุ ๕๐๐ รูป ถือศีลและชักชวนให้คนในครอบครัวปฏิบัติเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ถวายทานคนสำคัญที่สร้างวัดถวายพระพุทธเจ้า แต่นายกาละบุตรขายของเขานั้น ไม่มีความสนใจในพระธรรมของ พระพุทธเจ้าเลยแม้แต่น้อย เหตุที่นายกาละไม่มีศรัทธาในพระพุทธองค์และพระธรรม อาจเป็นเพราะในสมัยนั้นคนส่วนใหญ่เป็นสาวกของเจ้าลัทธิเคียรถีย์ ๖ คนมีบูรณกังสปะเป็นตัน บางพวกก็เชื่อถือภูตผีเทวดา หรือบาง พวกก็บูชาพระพรหม ถ้าหากท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐีไม่ได้พบพระ พุทธเจ้า เขาก็คงจะยังเชื่อถือลัทธิอื่นๆ ที่นิยมกันมาก่อนที่พระองค์ จะทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า นายกาละจึงอาจเป็นสาวกของลัทธิใด ลัทธิหนึ่ง และยังไม่คิดเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น ท่านเศรษฐีเป็นห่วงอนาคตของบุตรชาย คิดว่า ลูกเราไม่รู้จักพระพุทธเจ้า ไม่รู้จักคุณค่าของพระสัทธรรม ไม่รู้จัญบูชาพระอริยสงฆ์ ไม่ต้องการเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าที่เสด็จมา
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 16 พ.ค. 2023, 15:51 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่อยากทำบุญเพื่อนิพพาน | ||
ฉันภัตตาหารที่บ้าน ไม่อยากฟังพระธรรมเทศนา และหลบเลี่ยงไม่ ทำวัตรอุปัฏฐากพระสงฆ์ ถ้าต้องตายไปอย่างเดียรถีย์ก็คงตกนรก อเวจีซึ่งเป็นอบายภูมิชั้นต่ำที่สุด ไม่สมควรเลยที่บุตรของเราผู้เป็น พุทธสาวกกลับไม่นับถือพระพุทธเจ้า มิหนำซ้ำถ้าเขาตกนรกอเวจี ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ก็จะยิ่งร้ายขึ้น ปกติทรัพย์มักจะเปลี่ยนใจ มนุษย์เราได้ เราจะต้องพยายามให้เขาไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ที่วัด พระเชตวันให้ได้แม้ว่าจะต้องติดสินบนก็ตามที เมื่อคิดได้ดังนั้น ท่านเศรษฐีจึงบอกกับบุตรชายว่าหากเขา เพียงแต่ไปที่วัดก็จะให้เงิน ๑๐๐ กหาปณะ ซึ่งบุตรชายก็รับคำ เมื่อนายกาละไปถึงวัดก็มองหามุมสงบแล้วจึงนอนหลับอยู่ ณ ที่นั้นเพราะเขาไม่ได้มีเจตนาจะฟังธรรม ครั้นกลับถึงบ้านในตอน เช้าวันรุ่งขึ้น ท่านเศรษฐีเลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดีเพราะเข้าใจว่าเขาไป ถือศีลที่วัด นายกาละกลัวว่าจะไม่ได้เงินจึงไม่ยอมกินอาหารจนกว่า จะใด้รับเงิน ในเวลาต่อมาท่านเศรษฐีบอกเขาว่า หากเขาฟังธรรม และจำคาถาได้หนึ่งบทก็จะให้รางวัล ๑,๐๐๐ กหาปณะ นายกาละก็ไปที่วัดอีก และครั้งนี้เขาพยายามฟังพระธรรม- เทศนาอย่างตั้งใจ พระบรมศาสดาทรงทราบจึงตรัสข้อความที่นาย กาละนั้นม่สามารถจำได้ เนื่องจากท่านเศรษฐีได้กำหนดเงื่อนไขว่า เขาจะต้องจำคาถาให้ได้อย่างน้อยหนึ่งบท เขาจึงพยายามตั้งใจฟัง เข้าใจ เมื่อมีความเข้าใจศรัทธาก็เกิดขึ้นและในขณะที่จิตของเขา
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 16 พ.ค. 2023, 16:35 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ไม่อยากทำบุญเพื่อนิพพาน | ||
ประกอบด้วยศรัทธานั้น พระองค์ก็ตรัสพระธรรมเทศนาที่ตรงตาม อัธยาศัยของเขา โดยที่เขาได้บำเพ็ญสังสมบารมีมาแล้วในอดีตชาติ นายกาละจึงได้บรรลุเป็นพระสดาบันเข้าถึงกระแสพระนิพพาน เมื่อเขาได้บรรลุเป็นพระโสดาบันแล้ว ครัทธาในพุทธธรรม ก็มันคงไม่คลอนแคลน ความสงสัยและความเห็นผิดก็อันตรธานไป หมดสิ้น เข้าวันนั้นเขาไม่ได้รีบกลับบ้านตามลำพัง แต่ได้รออยู่จน พระพุทธองค์เสด็จออกบิณฑบาตพร้อมด้วยเหล่าพระสาวก และได้ ตามเสด็จพระพุทธองค์มาถึงบ้านของเศรษฐี เขาเกรงว่าบิดาจะให้ เงินต่อพระพักตร์ของพระพุทธองค์ จึงเกิดความละอายขึ้นไม่อยาก ให้พระองค์ทรงเห็นว่าที่เขาไปวัดเพียงเพราะปรารถนาเงิน ในครั้งนี้ เขาจึงพยายามทำตัวไม่ให้เป็นที่สังเกต แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ท่าน เศรษฐีก็นำเงินมาให้ตามสัญญาพร้อมกับกล่าวว่า เงินนี้เป็นรางวัล สำหรับการไปวัดฟังธรรม นายกาละนั้นรู้สึกอับอายมากแยอมรับเงิน ท่านเศรษฐีก็นำเงินมาให้ตามสัญญาพร้อมกล่าวว่า เงินนี้เป็นเงินรางวัล สำหรับการไปวัดฟังธรรม นายกาละนั้นมีความรู้สึกอับอายมากและไม่ ยอมรับเงิน ท่านเศรษฐีกราบทูลเรื่องราวทั้งหมดแด่พระพุทธองค์ และทูลว่าวันนี้บุตรของเขาดูผ่องใสผิดกับวันก่อนที่ถูกความโลภ ครอบงำ พระพุทธองค์ตรัสว่า ทานเศรษฐี บุตรของท่านนั้นได้บรรลุเป็นพระโสดาบันที ประเสริฐกว่าการเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ เทวดา หรือพรหม ปฐพฺยา เอกรชฺเชน. สคฺคสฺส คมเนน วา สพฺพโลกาธิปจฺเจน โสตาปตฺติผลํ วรํ "ยิ่งกว่าเอกราชย์ทั่วทั้งแผ่นดิน ยิ่งกว่าขึ้น สวรรคาลัย ยิ่งกว่าอธิปไตยใดในโลกทั้งปวง คือ โสดาปัตติผล"
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |