ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
แม้ก่อนนี้นายช่างผู้สร้างเรือน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=63690 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 14 พ.ค. 2023, 17:06 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | แม้ก่อนนี้นายช่างผู้สร้างเรือน | ||
แม้ก่อนที่จะพบนายช่างปลูกเรือนพระพุทธองค์เองยังต้องเวียนว่าย ตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏนับชาติไม่ถ้วน ใจความของคาถาทั้งสองบทนี้ คือนิพพานอันเป็นนิโรธสัจ ไม่มีที่ตั้ง การตรัสถึงนิพพานว่ามีอยู่ในร่างกายที่ยาววาหนึ่งนี้ เป็น แค่เพียงการกล่าวโดยอ้อม ทุกขสัจและสมุทยสัจนั้นมีอยู่ในกระแส รูปนามของทุกคน ซึ่งปรากฏอยู่ในทุกขณะที่มีสภาวะเห็นเป็นต้น มรรคสัจแฝงอยู่ในผู้ปฏิบัติธรรมที่กำลังบรรลุมรรคผล ส่วนนิโรธสัจ จึงได้แก่นิพพานนั้นมีอยู่โดยอ้อมในกระแสจิตของพระอริยบุคคล ที่น้อมไปในมรรคผล และกล่าวได้ว่านิโรธสัจมีอยู่โดยตรงในกระแส จิตของพระอรหันต์ตลอดเวลา เพราะในจิตของพระอรหันต์นั้นกิเลส ได้ดับสิ้นแล้ว แม้ว่าสัจจะ ๓ คือ ทุกขสัจ สมุทยสัจ และมรรคสัจ จะมี ได้แก่บุถุชนในเวลาทั่วไปและในเวลาที่เจริญอริยมรรคมีองค์ ๘ แต่ นิโรธสัจเป็นสิ่งที่ไม่มีโดยตรงในร่างกายของปุถุชน การที่พระพุทธ องค์ตรัสว่าอยู่ในร่างกายที่ยาววาหนาคืบกว้างศอกของคนทั่วไป ก็ เพราะหมายถึงการดับกิเลสและขันธ์ของพระอรหันต์ที่ตอนแรกก็ยัง เป็นปุถุชนอยู่ การกล่าวถึงสถานที่ไว้โดยปริยายเช่นนี้มีประโยชน์ เพื่อให้เข้าใจง่าย ดังข้อความในคัมภีร์ฎีกาของวิสุทธิมรรคว่า เอเทสมฺปิ หิ ตํ เยสํ นิโรโธ, เตสํ วเสน อุปจารโต เทสโตปิ นิทฺทิสียติ ยถา จกฺขํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหึยติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌตีติ.
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 14 พ.ค. 2023, 17:31 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: แม้ก่อนนี้นายช่างผู้สร้างเรือน | ||
โดยแท้จริงแล้ว แม้นิพพานนั้นไม่มีที่ตั้ง พระพุทธองค์ก็ ทรงแสดงสถานที่ไว้บ้างโดยอ้อม โดยเนื่องด้วยการดับกิเลสและขันธ์ ดังประโยค[ในมหาสติปัฏฐานสูตร]ว่า จกฺขุํ โลเก ปิยรูป๊ สาตรูปํ. เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ (ตาในโลก[แห่งรูปนาม] เป็นสภาพน่ายินดีพอใจ ตัณหาถูกละได้และ ดับอยู่ ในสภาพคือตานี้)" นิพพานอันเป็นสภาระตับกิเลสและขันธ์นั้น โดยตรงแล้ว ไม่มีที่ตั้งอยู่ในที่ใดๆ เพราะเป็นสภาวะไม่เกิดขึ้นของกิเลสและขันธ์ แต่กิเลสและขันธ์ที่ดับไปนั้นมีอยู่โดยอ้อมในพระอริยบุคคล ดังนั้น จึงยกร่างกายของพระอริยบุคคลขึ้นกล่าวว่า เป็นที่ตั้งของนิพพาน ตัวอย่างเช่น ตาเป็นสิ่งน่าชอบใจ และตัณหาอันเกิดที่ตาดับไปด้วย อรหันตมรรค เราไม่อาจต้นหาได้ว่าความดับนั้นเกิดขึ้นที่ใดกันแน่ เหตุนั้น พระพุทธองค์จึงใด้ตรัสโดยอ้อมว่า ตัณหาดับไปที่ตาอันน่า ชอบใจอันนั้น โดยตรัสถึงสถานที่เกิดของตัณหาว่าเป็นที่ดับของ ตัณหา จัดเป็นการกล่าวถึงสถานที่ตั้งของนิพพานโดยอุปมาเท่านั้น คัมภีร์อภิธรรมกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ชัดเจนว่า นิพพานไม่ได้มี ในร่างกาย แต่สำเร็จนอกร่างกาย ตามศัพท์บาลีว่า พหิทฺธา ธมฺมา (สภาวธรรมที่เป็นภายนอก มีอยู่) แต่ความเป็นภายนอกของ นิพพานไม่มีอยู่ในสถานที่แห่งใดทั้งสิ้น เหตุนั้นจึงกล่าวว่า นิพพาน ไม่มีที่ตั้ง หากพิจารณาถึงเหตุผลแล้วอาจอนุมานได้ว่า กิเลสและ ขันธ์ที่มีได้ก็ต่อเมื่อมีปัจจัยอยู่พร้อมมูล แต่เมื่อดับไปไม่เกิดอีกด้วย อรหัตตมรรคแล้ว ย่อมไม่อาจกล่าวว่ามีอยู่ในทีใด
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |