เมื่อเธอตามรู้เห็นในสภาวธรรมว่าเป็นสภาวธรรมอยู่ จิตย่อมเป็นสมาธิ เธอละ
อุปกิเลสเสียใด้ เธอกำหนดเอานิมิต[คืออาการที่ทำให้จิตตั้งมั่นและปราศจากกิเลส]นั้นได้
ภิกษุผู้ชาญฉลาดเฉียบแหลมนั้นยอมได้ธรรมทำให้อยู่เป็นสุขในปัจจุบัน(สมาธิ ๓ อย่าง
คือ ขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ และอัปปนาสมาธิ) ได้สติสัมปชัญญะ ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร
เพราะภิกษุผู้ชาญฉลาดเฉียบแหลมนั้นกำหนดเอานิมิตแห่งจิตของตนได้เซ่นนั้น ฉันนั้น
พึงรักษาฌานให้ดำรงอยู่ได้นานๆ
อนึ่ง เมื่อเธอทำอาการเหล่านั้นให้ถึงพร้อมด้วยการกำหนดเอานิมิตอีก อัปปนา-
สมาธิเพียงสำเร็จได้เท่านั้น แต่ไม่ดำรงอยู่นาน การดำรงอยู่นานมีใด้ด้วยการชำระธรรม
อันเป็นข้าศึกของสมาธิ(คือนิวรณ์ด้วยการข่มไว้]โดยแท้จริงแล้ว ภิกษุเข้าฌานโดยมิได้
ก. ข่มกามฉันทนิวรณ์ไว้เป็นอย่างดีด้วยการพิจารณาเห็นโทษของกามเป็นต้น
ข. ระงับความกระวนกระวายทางกายเป็นอย่างดีด้วยกายปัสสัทธิ (ความสงัดกาย)
ค. บรรเทาถีนมิทธนิวรณ์เป็นอย่างดีด้วยการใส่ใจอารัมภธาตุ (ความริเริม) เป็นต้น
ฆ. ถอดถอนอุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์เป็นอย่างดีด้วยการใส่ใจสมถนิมิตเป็นต้น
ง. ชำระธรรมเป็นข้าศึกของสมาธิอื่นๆ (เหตุเกิดของวิจิกิจฉา ความมัวเมา
และความประมาทเป็นต้น) เป็นอย่างดี
ในข้อความว่า "อารัมภธาตุ เป็นต้น" คำว่า อาทิ (เป็นต้น) หมายถึง เหตุเกิดของ
วิริยสัมโพชฌงค์ และอาโลกสัญญา เป็นต้น
ในข้อความว่า "สมถนิมิตเป็นต้น" คำว่า อาทิ (เป็นต้น) หมายถึง ธรรมที่เป็น
เหตุเกิดของสมาธิสัมโพชฌงค์
ภิกษุนั้นย่อมออกจากฌานโดยพลันเหมือนแมลงภู่ที่เข้าไปยังโพรงไม้ซึ่งมีได้ช่าระ
ให้สะอาด และเหมือนพระราชาที่เสด็จเข้าไปสู่พระราชอุทยานที่ไม่สะอาดย่อมเสด็จออก
โดยเร็ว ส่วนภิกษุใดชำระธรรมอันข้าศึกของสมาธิเป็นอย่างดีแล้วจึงเข้าฌาน เธอ
อาจอยู่ในสมาบัติได้ตลอดทั้งวัน เหมือนแมลงภู่ที่เข้าไปยังโพลงไม้ซึ่งชำระให้สะอาด
ดีแล้ว และเหมือตพระราชาเสด๋จเข้าไปสู่พระราชอุทยานที่สะอาดดี
| ไฟล์แนป: |
|
PhotoRoom-20230330_121635.png [ 375.95 KiB | เปิดดู 1172 ครั้ง ] |