ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ความเป็นปัจจัยของปุญญาภิสังขาร http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=63329 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 09 มี.ค. 2023, 15:46 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | ความเป็นปัจจัยของปุญญาภิสังขาร | ||
เจตนา ๘ อย่าง[ในมหากุศลจิต]ที่ชื่อว่า ปุญญาภิสังขาร ในกามภูมิ เป็นปัจจัย ๒ อย่าง คือ โดยนานาขณิกกรรมปัจจัยและอุปนิสสยปัจจัยแก่[สุคติปฏิสนธิ]วิปากจิต ๙ ดวง[ที่ เป็นอเหตุกะ คือ กุศลวิบากอุเบกขาสันตีรณจิต ๑ และสเหตุกะ คือ มหาวิปากจิต ๘] ใน ปฏิสนธิกาลในกามสุคติภูมิ" "มหากุศลเจตนา ๘ นั้นเป็นปัจจัย ๒ อย่างในปวัตติกาลแก่กามาวจร(อเหตุก] วิปาก- จิต [จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กาย วิญญาณ สัมปฏิจฉนจิต โสมนัสสันตีรณกุศลวิปากจิต] เว้นอเหตุกมโนวิญญาณธาตุที่ประกอบกับอุเบกขา [กุศลวิบาก- อุเบกขาสันตีรณจิต ๑ ไนขณะทำหน้าที่ปฎิสนธิ ภวังค์ และจุติ]" "มหากุศลเจตนาเหล่านั้นเป็นปัจจัย ๒ อย่างแก่วิปากจิต ๕ ดวง (กุศลวิบากจักขุ วิญญาณ กุศลวิบากโสตวิญญาณ สัมปฏิจฉนจิต สันตีรณจิด ๒] ในปวัตติกาลในรูปภูมิ "มหากุศลเจตนาเหล่านั้นเป็นปัจจัยแก่กามาวจรวิปากจิต [อเหตุกกุศลวิปากจิต] ๘ ดวงในปวัตติกาลในกามทุคติภูมิได้เช่นกัน แต่ไม่เป็นปัจจัยในปฏิสนธิกาล" "มหากุศลเจตนาเหล่านั้นเป็นปัจจัยในปวัตติกาลแก่วิปากจิต ๑๖ ดวง [อเหตุกกุศล วิปากจิต ๘ มหาวิปากจิต ๘] และเป็นปัจจัยในปฏิสนธิกาลแก่วิปากจิต ๙ ดวง (กุศลวิบาก อุเบกขาสันตีรณจิต ๑ มหาวิปากจิต ๘] ในกามสุคติภูมิ" ปุญญาภิสังขาร [๕ เวันอภิญญา] ในรูปภูมิ เป็นปัจจัยในปฏิสนธิกาลแก่[รูปาวจร] วิปากจิต ๕ ในรูปภูมิ" (การเว้นอภิญญาเจตนาในที่นี้ ก็เพราะว่าอภิญญาเจตนาให้ผลปฏิสนธิไม่ได้ เนื่องจากเป็น เพียงอานิสงส์ของจตุตถฌานสมาธิ จึงมีผลเสมอกับสมาธิข้างตัน หรือเนื่องจากมีกำลังน้อยโดยไม่ใด้รับ อาเสวนปัจจัยจากชวนจิตดวงก่อนที่เป็นมหัคคตภูมิเหมือนกัน เพราะเกิดขึ้นครั้งเดียว หรือเนื่องจาก ไม่เป็นเหตุของผลที่เป็นวิญญาณจิต]" อภิธัมมาวตาร น./๒๐๘
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 09 มี.ค. 2023, 16:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเป็นปัจจัยของปุญญาภิสังขาร |
การให้ผลของปุญญาภิสังขาร ปุญญาภิสังขาร [๑๓ โดยรวมทั้งที่เปีนกามาวจรและรูปาวจร] ให้ปฏิสนธิในภพ ทั้งสอง[กามภูมิและรูปภูมิ]แล้ว ย่อมส่งผลทั้งหมด[ในปวัตติกาล] [ปุญญาภิสังขาร คือ เจตนา ๑๓ ในมหากุศลจิต ๘ รูปาวจรกุศลจิต ๕ อปุญญาภิสังขาร คือ เจตนา ๑๒ ในอกุศลจิต ๑๒ อาเนญชาภิสังขาร คือ เจตนา ๔ ในอรูปาวจรกุศลจิต ๔] "โปรดทราบเหมือนอย่างนั้นในกำเนิด ๔ มีอัณฑชะเป็นต้น และในคติ ๒ โดยจำแนก เป็นมนุษย์และเทวดา(ชั้นจาตุมหาราชิกา)จำนวนมาก" "โปรดทราบเหมือนอย่างนั้นในวิญญาณฐิติ ๔ มีนานัตตกายา นานัตตสัญญี เป็นตัน และโปรดทราบเหมือนอย่างนั้นในสัตตาวาส ๔ ที่กล่าวมาแล้ว" [วิญญาณฐิติและสัตตาวาส ๔ คือ นานัตตกายา นานัดตสัญญี, นานัตตกายา เอกัตตสัญญี. เอกัตตกายา นานัตตสัญญี และเอกัตตกายา เอกัตตสัญญี] "โดยประการดังนี้ ปุญญาภิสังขารเป็นปัจจัย ๒ อย่าง (นานาขณิกกัมมปัจจัยและ อุปนิสสยปัจจัย] แก่วิปากจิต ๒๑ ดวง (อเหตุกกุศลวิปากจิต ๘ มหาวิปากจิต ๘ รูปาวจร วิปากจิต ๕] ตามสมควรในภพเป็นต้น" [ฎีกาใหม่อธิบายเพิ่มเติมว่า คำว่า "ตามสมควรในภพเป็นต้น" มีความหมายคังนี้ คือ ๑. กามปุญญาภิสังขาร คือ มหากุตลเจตนา ๘ ดวงเป็นปัจจัยแก่อเหตุกกุศลวิปากจิต ๘ ดวง ในทุคติภูมิ โดยความเป็นนานาขนิกกัมมปัจจัยและอุปนิสสยปัจจัยในปวัตติกาล ๒. กามปุญญาภิสังขารนั้นเป็นปัจจัยแกวิปากจิต ๙ ดวง คือ กุศลวิบากถุเบกขาสันตีรณจิต ๑ มหาวิปากจิต ๘ ในสุคติภูมิที่เป็นโยนิ ๔ มีอัณฑชะเป็นตัน คติ ๒ คือ เทวคคิ และมนุสสคติ, วิญญาณ ฐิติ ๔ มีนานัตตกายา นานัตตสัญญี เป็นต้น และสัตตาวาส ๔ มีนานัตตกายา นานัตตสัญญี เป็นต้น โดยความเป็นนานาขณิกกัมมปัจจัยและอุปนิสลยปัจจัยในปฏิสนธิกาล ๓. กามปุญญาภิสังขารนั้นเป็นปัจจัยแก่วิปากจิต ๑๖ ดวง คือ อเหตุกกุศลวิปากจิต ๘ มหา วิปากจิต ๘ ในปวัตติกาล โคยความเป็นนานาขณิกกัมมปัจจัยและอุปนิสสยปัจจัย ๔. รูปปุญญาภิสังขาร คือ รูปาวจรกุศลจตนา ๕ เป็นปัจจัยแก่รูปาวจรวิปากจิต ๕ ในรูป- ภพ, โอปปาติกกำเนิด, เทวคติ, วิญญาณฐิติ ๓ อันได้แก่ นานัตตกายา เอกัตตสัญญี, เอกัตตกายา นานัตตสัญญี และเอกัตตกายา เอกัตตสัญญี พร้อมทั้งสัตตาวาส ๔ คือ วิญญาณฐิติ ๓ อย่างช้างต้น และอสัญญสัตว์พรหม ในปฏิสนธิกาล ๕. รูปปุญญาภิสังขารนั้นเป็นปัจจัยแก่วิปากจิต ๑๐ ดวง คือ อเหตุกกุศลวิปากจิต ๕ อัน ไค้แก่ กุศลวิบากจักขุวิญญาณจิต ๑ กุศลวิบากโสตวิญญาณจิต ๑ กุศลวิบากสัมปฏิจฉนจิต ๑ สันตีรณ จิต ๒ และรูปาวจรวิปากจิต โคยความเป็นนานาขณิกกัมมปัจจัยและอุปนิสสยปัจจัยในปวัตติกาล] |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |